สภาบริหาร วันที่ 6 มิ.ย. 65
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.นายซูเจินชาง นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับคณะตัวแทนสมาชิกรัฐสภาสาธารณรัฐสโลวัก และผู้ว่าการกรุงบราติสลาวา ที่เดินทางมาเยือนไต้หวัน ซึ่งนรม.ซูฯ นอกจากจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนของรัฐบาลและประชาชนชาวไต้หวันในการต้อนรับการมาเยือนของคณะตัวแทนแล้ว ยังให้การยอมรับต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างไต้หวัน – สโลวัก โดยทั้งสองประเทศต่างยึดมั่นในค่านิยมและแนวคิดที่คล้ายคลึงกัน นรม.ซูฯ เชื่อว่า แนวคิดเหล่านี้จะสามารถเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันให้แก่ 2 ประเทศต่อไปในอนาคตได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ นรม.ซูฯ ยังได้ขอบคุณ 3 คณะกรรมาธิการหลักของรัฐสภาสโลวักที่ในปี 2022 นี้ได้ทยอยผ่านญัตติที่เป็นมิตรต่อไต้หวัน ภายในระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์ เพื่อให้การยอมรับต่อผลสัมฤทธิ์ด้านการป้องกันโรคระบาดที่ประสบความสำเร็จของไต้หวัน พร้อมนี้ ยังได้ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมการประชุมสมัชชาอนามัยโลก (WHA) และการประชุมนานาชาติที่สำคัญๆ นอกจากนี้ กรุงบราติสลาวายังต้องการที่จะร่วมลงนามเป็นหุ้นส่วนกับนครเกาสง ในระหว่างการมาเยือนในครั้งนี้ด้วย นรม.ซูฯ เชื่อว่าจะเป็นการกระตุ้นให้ความสัมพันธ์ระหว่างกรุงบราติสลาวาและนครเกาสงก้าวไปสู่อีกขั้น โดยนรม.ซูฯ คาดหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นสมาชิกรัฐสภาแห่งสโลวักสำแดงบทบาทที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์แบบทวิภาคีระหว่างไต้หวัน – สโลวักในเชิงลึกยิ่งขึ้น ตลอดจนให้ความช่วยเหลือไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศ เพื่อที่ไต้หวันจะสามารถอุทิศคุณประโยชน์ให้ประชาคมโลก พัฒนายิ่งๆ ขึ้นไป
นรม.ซูฯ ชี้ว่า ไต้หวันภายใต้การนำของประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ยังคงยืนหยัดในค่านิยมสากลด้านเสรีภาพ ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ไต้หวันนอกจากจะประสบความสำเร็จในการสกัดกั้นโรคระบาดแล้ว ยังสามารถสร้างผลสัมฤทธิ์ด้านเศรษฐกิจที่ทำลายสถิติสูงสุดในรอบ 11 ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดได้ด้วย นอกจากนี้ ไต้หวันยังมีความยินดีในการอุทิศคุณประโยชน์ให้ประชาคมโลก ควบคู่ไปการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศที่ยึดมั่นในแนวคิดและค่านิยมเดียวกัน อย่างเช่นสโลวัก
นรม.ซูฯ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ตลอดช่วงที่ผ่านมา ไต้หวัน – สโลวัก มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันอย่างแนบแน่น โดยจะเห็นได้จากกรณีตัวอย่าง ดังต่อไปนี้ เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2021 นายกงหมิงซิน รัฐมนตรีประจำสภาบริหารและประธานคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาแห่งชาติ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้นำคณะตัวแทนรวม 66 คนในการเดินทางเยือนสโลวัก โดยเจ้าหน้าที่ทั้งสองประเทศต่างสานสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ตลอดจนได้รับการต้อนรับและการให้ความสำคัญจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลของสโลวักเป็นอย่างสูง นอกจากนี้ ในปีเดียวกันนั้น Mr. Karol Galek รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐการ สาธารณรัฐสโลวัก ก็ได้นำคณะตัวแทนเดินทางมาเยือนไต้หวันด้วยเครื่องบินของส่วนราชการ โดยมิหวั่นเกรงต่อแรงกดดันจากรัฐบาลจีน เพื่อร่วมจัดการประชุมหารือว่าด้วยความร่วมมือด้านเศรษฐกิจกับไต้หวัน โดยทั้งสองฝ่ายต่างยินดีที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันในเชิงลึก ตลอดจนร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการค้าและเศรษฐกิจที่สำคัญๆ นานาประการ
นรม.ซูฯ ยังได้ขอบคุณ Mr. Milan Laurenčik รองประธานรัฐสภาสโลวัก Mr. Peter Osuský ประธานกลุ่มพันธมิตรไต้หวัน และสมาชิกรัฐสภาสโลวักที่เดินทางมาเยือนไต้หวันในครั้งนี้ รวมถึงรัฐบาลสโลวัก ที่ได้สำแดงบทบาทที่สำคัญ พร้อมร่วมลงมติเห็นชอบให้ผ่านญัตติว่าด้วยการสนับสนุนไต้หวัน เมื่อปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมา 3 คณะกรรมาธิการหลักของรัฐสภาสโลวัก ประกอบด้วย คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ คณะกรรมาธิการด้านสาธารณสุข และคณะกรรมาธิการยุโรป ก็ได้ทยอยผ่านญัตติที่ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมในองค์การอนามัยโลก ภายในระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์ โดยได้ให้การยอมรับผลสัมฤทธิ์ด้านการป้องกันโรคระบาดของไต้หวัน ตลอดจนให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในการประชุม WHA และการประชุมนานาชาติที่สำคัญๆ นรม.ซูฯ จึงขอแสดงความขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
นอกจากนี้ นรม.ซูฯ ยังได้ขอบคุณ Mr. Juraj Droba ผู้ว่าการกรุงบราติสลาวาที่ได้มุ่งมั่นผลักดันการร่วมลงนาม “ความตกลงว่าด้วยการหลีกเลี่ยงและป้องกันการเก็บภาษีซ้ำซ้อน” ในระหว่างที่ยังดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกรัฐสภาสโลวัก สำหรับการมาเยือนไต้หวันในครั้งนี้ ผู้ว่าฯ Droba ยังมีกำหนดการเดินทางเยือนนครเกาสง เพื่อร่วมผูกสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนกับเทศบาลนครเกาสง โดยนรม.ซูฯ ชี้ว่า ก่อนหน้านี้ ผู้ว่าฯ Droba เคยเดินทางมาเยือนไต้หวันหลายครั้ง เชื่อว่า ผู้ว่าฯ Droba ได้ประจักษ์ถึงศักยภาพและแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของไต้หวัน อีกทั้งไต้หวันยังเป็นประเทศที่เปี่ยมด้วยเสรีภาพและประชาธิปไตย ตลอดจนมีการเปิดกว้างทางสังคม ในส่วนของนครเกาสง ภายใต้การนำของนายเฉินฉีม่าย ผู้ว่าการนครเกาสง มีความก้าวหน้าในทุกภาคส่วน โดยพวกเราคาดหวังที่จะเห็นทั้งสองเมืองร่วมผูกสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนระหว่างกัน เชื่อว่าจะเป็นการกระตุ้นให้ความสัมพันธ์ระหว่างกรุงบราติสลาวาและนครเกาสง ก้าวไปสู่อีกขั้น
เมื่อกล่าวถึงสถานการณ์การบุกโจมตียูเครนของรัสเซีย นรม.ซูฯ ชี้ว่า ทุกประเทศทั่วโลกที่ยึดมั่นในเสรีภาพและประชาธิปไตย ตลอดจนให้ความสำคัญในด้านสิทธิมนุษยชน คงจะประจักษ์ถึงผลของการที่ประเทศเผด็จการอย่างรัสเซียบุกโจมตียูเครน ได้ก่อให้เกิดความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ โดยมีผู้ลี้ภัยจำนวนหนึ่งได้อพยพย้ายถิ่นไปหลบภัยยังสโลวัก เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่สโลวักในการเปิดรับกลุ่มผู้ลี้ภัยจากยูเครน ไต้หวันได้ร่วมบริจาคเงินจำนวน 2.5 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ และสิ่งของจำเป็นให้แก่สโลวัก เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่บรรดาผู้ลี้ภัย โดยนรม.ซูฯ ได้ใช้โอกาสนี้กล่าวขอบคุณรัฐบาลและรัฐสภาสโลวักสำหรับความช่วยเหลือในการลำเลียงสิ่งของบริจาคของไต้หวันกว่า 350 ตันไปยังประเทศยูเครน เพื่อช่วยบรรเทาความต้องการของผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน
หลังเสร็จสิ้นการกล่าวปราศรัยของ Mr. Laurenčik นรม.ซูฯ ก็ได้แถลงต่อว่า ในช่วงเริ่มต้นของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ไต้หวันได้บริจาคหน้ากากอนามัยให้สโลวักจำนวน 700,000 ชิ้น เมื่อปีที่แล้ว สโลวักก็ได้บริจาควัคซีนป้องกันโควิด – 19 จำนวน 160,000 เพื่อเป็นการตอบแทนให้แก่ไต้หวัน ในช่วงที่สถานการณ์การแพร่ระบาดในไต้หวันค่อนข้างรุนแรง เพื่อช่วยให้ประชาชนชาวไต้หวันได้รับวัคซีนกันอย่างทันท่วงที ทั้งนี้ เพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชน
นรม.ซูฯ ระบุว่า ในระหว่างการกล่าวปราศรัยของ Mr. Laurenčik เมื่อครู่ ที่ได้ชื่นชมความก้าวหน้าทางการแพทย์และเทคโนโลยีของไต้หวัน ไต้หวันภายใต้การนำของปธน.ไช่ฯ คณะรัฐบาลได้สำแดงศักยภาพและประสิทธิภาพอย่างเต็มกำลัง ซึ่งนอกจากจะเร่งพัฒนาในด้านเทคโนโลยีและเศรษฐกิจแล้ว ยังมุ่งมั่นในการดูแลสุขภาพของประชาชนชาวไต้หวัน 23 ล้านคน แม้ว่ารัฐบาลจีนจะอาศัยปัจจัยทางการเมือง ขัดขวางมิให้ไต้หวันเข้าร่วมการประชุม WHA และองค์การอนามัยโลก (WHO) ด้วยวิธีการที่ไม่สมเหตุสมผล พร้อมอ้างว่าจะร่วมดูแลสุขภาพของประชาชนชาวไต้หวัน ซึ่งไม่ตรงตามความเป็นจริงเลยแม้แต่น้อย นรม.ซูฯ เน้นย้ำว่า เฉกเช่นเดียวกับที่ Mr. Laurenčik ระบุไว้ว่า แม้ว่าไต้หวัน – สโลวักจะห่างไกลกันในแง่ของที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ แต่เนื่องจากทั้งสองประเทศยึดมั่นในแนวคิดเดียวกัน และพร้อมที่จะเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน จึงทำให้ทั้งสองประเทศยืนเคียงข้างร่วมกันมาอย่างเหนียวแน่นตราบจนปัจจุบัน