ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
รมว.กต.ไต้หวันเข้าร่วมการประชุม “Brussels Forum” ที่จัดโดยกองทุน GMF เน้นย้ำความตั้งใจแน่วแน่ของไต้หวันในการปกป้องประชาธิปไตย พร้อมเรียกร้องให้พันธมิตรด้านประชาธิปไตยประสานความร่วมมือในการเผชิญหน้าต่อภัยคุกคามจากประเทศเผด็จการ
2022-06-30
New Southbound Policy。รมว.กต.ไต้หวันเข้าร่วมการประชุม “Brussels Forum” ที่จัดโดยกองทุน GMF เน้นย้ำความตั้งใจแน่วแน่ของไต้หวันในการปกป้องประชาธิปไตย พร้อมเรียกร้องให้พันธมิตรด้านประชาธิปไตยประสานความร่วมมือในการเผชิญหน้าต่อภัยคุกคามจากประเทศเผด็จการ (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)
รมว.กต.ไต้หวันเข้าร่วมการประชุม “Brussels Forum” ที่จัดโดยกองทุน GMF เน้นย้ำความตั้งใจแน่วแน่ของไต้หวันในการปกป้องประชาธิปไตย พร้อมเรียกร้องให้พันธมิตรด้านประชาธิปไตยประสานความร่วมมือในการเผชิญหน้าต่อภัยคุกคามจากประเทศเผด็จการ (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 29 มิ.ย. 65
 
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เข้าร่วมการประชุมสัมมนา ภายใต้ชื่อ “Brussels Forum” ที่จัดโดยกองทุนเยอรมัน มาร์แชลล์ (German Marshall Fund, GMF) ซึ่งเป็นคลังสมองของทางการวอชิงตัน ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์  โดยประเด็นหลักของการประชุมในครั้งนี้คือ “ประชาธิปไตยทั้งในและต่างประเทศ” ในระหว่างการประชุม รมว.อู๋ฯ ได้ร่วมหารือกับ Mr. Christopher Murphy, D-CT สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ และ Ms.Laura Thornton นายกสมาคมการปกป้องประชาธิปไตยแห่งกองทุน GMF อย่างใกล้ชิด โดยรมว.อู๋ฯ ได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์แนวทางการรับมือต่อภัยคุกคามจากจีนของไต้หวัน พร้อมเน้นย้ำถึงความจำเป็นของการประสานสามัคคีของกลุ่มประเทศประชาธิปไตยเพื่อต่อกรกับการแผ่ขยายอำนาจเผด็จการของจีน
 
รมว.อู๋ฯ กล่าวว่า สงครามระหว่างรัสเซีย – ยูเครนได้ให้ข้อคิดแก่ไต้หวัน 3 ประการ ได้แก่ ประการแรก ประเทศเผด็จการสร้างภัยคุกคามที่รุนแรงต่อกลุ่มประเทศประชาธิปไตยทั่วโลก โดยเฉพาะรัฐบาลจีนได้สร้างความตึงเครียดในทะเลจีนตะวันออก ทะเลจีนใต้และพื้นที่แถบมหาสมุทรแปซิฟิกอย่างต่อเนื่อง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการทะลวงผ่านพื้นที่ระยะห่วงโซ่ที่ 1 (First Island Chain) ซึ่งความทะเยอทะยานในการแผ่อิทธิพลอำนาจของจีนได้เป็นที่ประจักษ์แก่ผู้คนทั่วโลก อีกทั้งเป็นภัยต่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิกอีกด้วย ประการที่ 2 การที่ยูเครนยืนหยัดในการปกป้องประเทศเพื่อมิให้รัสเซียเข้ารุกราน ได้ปลุกความฮึกเหิมให้แก่รัฐบาลไต้หวันเป็นอย่างมาก โดยไต้หวันจะมุ่งมั่นในการพัฒนาแสนยานุภาพทางทหารที่ขาดความสมดุล และตลอดจนเสริมสร้างศักยภาพด้านการป้องกันประเทศด้วยการผนึกกำลังของภาคประชาชนต่อไป ประการที่ 3 การที่กลุ่มประเทศประชาธิปไตยประสานสามัคคีในการให้การสนับสนุนยูเครนต่อต้านการรุกรานของประเทศเผด็จการ ถือเป็นการสกัดกั้นความทะเยอทะยานของจีนมิให้กระทำการบุ่มบ่ามต่อไต้หวัน โดยไต้หวันจะแสวงหาพลังเสียงสนับสนุนจากกลุ่มประเทศประชาธิปไตยที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันต่อไป
 
นอกจากนี้ รมว.อู๋ฯ ยังได้แบ่งปันประสบการณ์แนวทางการรับมือต่อแรงกดดันทางเศรษฐกิจจากรัฐบาลจีน โดยในระยะนี้ รัฐบาลจีนได้ประกาศระงับการนำเข้าผลผลิตทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำของไต้หวัน อย่างสัปปะรดและปลาเก๋า ซึ่งจีนยังได้กระทำการเช่นเดียวกันต่อลิทัวเนีย เช็กและออสเตรเลีย ซึ่งรัฐบาลและภาคประชาชนของไต้หวันได้ใช้วิธีเพิ่มการจัดซื้อสินค้าจากออสเตรเลียและลิทัวเนียเป็นจำนวนมาก เพื่อแสดงให้เห็นถึงการเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันระหว่างกลุ่มประเทศประชาธิปไตย ซึ่งพร้อมที่จะประสานสามัคคีในการต่อต้านแรงกดดันทางเศรษฐกิจจากจีน นอกจากนี้ จีนยังทำสงครามจิตวิทยากับไต้หวัน เพื่อบั่นทอนความไว้วางใจของภาคประชาชนที่มีต่อรัฐบาล โดยรัฐบาลและประชาชนชาวไต้หวันต่างร่วมรับมืออย่างกระตือรือร้น รมว.อู๋ฯ เน้นย้ำว่า  ไต้หวันจะยึดมั่นในหลักประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่อง พร้อมเรียกร้องให้กลุ่มประชาธิปไตยทั่วโลกให้การสนับสนุนไต้หวันอย่างต่อเนื่องต่อไป
 
กองทุน GMF เป็นหน่วยงานวิจัยด้านนโยบายสาธารณะที่มีชื่อเสียงของสหรัฐฯ จัดตั้งขึ้นภายใต้วัตถุประสงค์ในการส่งเสริมให้กลุ่มประเทศในยุโรปและอเมริกาเกิดความเข้าใจในประเด็นสถานการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นในพื้นที่แถบมหาสมุทรแอตแลนติกและทั่วโลก เพื่อนำไปสู่การประสานความร่วมมือต่อไปในภายภาคหน้า โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี และมีสาขาย่อยกระจายตัวอยู่ในเมืองหลวงของประเทศในทวีปยุโรปมากมาย อาทิ กรุงเบอร์ลิน ปารีส บรัสเซลล์และวอร์ซอ โดยการประชุม Brussels Forum เป็นการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของกองทุน GMF จึงได้เชิญเจ้าหน้าที่ภาครัฐและผู้นำทางความคิดเห็นเข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อประเด็นสถานการณ์ระหว่างประเทศล่าสุด เพื่อร่วมเสริมสร้างความเข้าใจในจุดยืนของนโยบายซึ่งกันและกัน อันจะนำไปสู่ซึ่งการแลกเปลี่ยนและปฏิสัมพันธ์ระหว่างอย่างแนบแน่นต่อไป