กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 20 ก.ค. 65
เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้จัดงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อให้การต้อนรับ Ms. Nicola Beer รองประธานรัฐสภายุโรปและคณะตัวแทน โดยรมว.อู๋ฯ ได้กล่าวขอบคุณ Ms. Beer ที่ให้การสนับสนุนเสรีภาพและประชาธิปไตยของไต้หวันมาเป็นเวลายาวนาน นับตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน รัฐสภายุโรปมีมติผ่านญัตติที่เป็นมิตรต่อไต้หวันแล้วกว่า 20 ฉบับ โดยสาระสำคัญของเนื้อความในญัตติที่เกี่ยวข้อง ล้วนแสดงถึงความห่วงใยต่อประเด็นที่รัฐบาลจีนข่มขู่ไต้หวันด้วยกำลังทหาร พร้อมทั้งให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ยังได้เรียกร้องให้สหภาพยุโรป (EU) เร่งเสริมสร้างความร่วมมือกับไต้หวันในประเด็นที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก โดยในจำนวนนี้ เมื่อเดือนตุลาคมของปีที่แล้ว รัฐสภายุโรปได้มีการผ่านญัตติว่าด้วยความร่วมมือและความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างไต้หวัน – EU โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ EU ประสานความร่วมมือกับพันธมิตรระหว่างประเทศอย่างกระตือรือร้น เพื่อสร้างหลักประกันด้านสันติภาพและเสถียรภาพในพื้นที่สองฝั่งช่องแคบไต้หวัน ตลอดจนกำหนดให้ไต้หวันเป็นพันธมิตรด้านประชาธิปไตยที่สำคัญในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่รัฐสภายุโรปได้มีมติผ่านญัตติที่เกี่ยวเนื่องกับความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – EU อย่างครอบคลุม ซึ่งเปี่ยมด้วยนัยยะที่พิเศษยิ่ง โดยรมว.อู๋ฯ ได้แสดงความขอบคุณต่อพลังเสียงสนับสนุนอันแข็งแกร่งของรัฐสภายุโรป
รมว.อู๋ฯ ชี้ว่า สถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซีย - ยูเครน ได้กระตุ้นให้ประชาคมโลกตระหนักถึงการประสานความร่วมมือของกลุ่มประเทศลัทธิอำนาจนิยม อีกทั้งยังเป็นภัยคุกคามต่อค่านิยมด้านเสรีภาพ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชนและหลักธรรมาภิบาล รวมถึงความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยไต้หวัน – EU ยืนอยู่แนวหน้าในการต่อต้านการแผ่ขยายอิทธิพลของลัทธิอำนาจนิยม เพื่อร่วมปกป้องรักษาเสรีภาพและประชาธิปไตยให้คงอยู่ต่อไป ไต้หวันในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลกที่มีความรับผิดชอบ ยินดีที่จะร่วมแบ่งปันประสบการณ์ในการต่อต้านการรุกรานของประเทศเผด็จการ ตลอดจนเร่งเสริมสร้างความร่วมมือกับกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน ทั้งนี้ เพื่อร่วมธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาครวมถึงเสรีภาพและประชาธิปไตยให้คงอยู่ต่อไป
Ms. Beer กล่าว่า แม้ว่าในครั้งนี้จะเป็นการเดินทางเยือนไต้หวันครั้งแรก แต่กลับรู้สึกถึงความอบอุ่นเหมือนได้มาเยือนบ้านหลังที่ 2 โดยไต้หวัน – EU ได้ประสานความร่วมมือระหว่างกันมาเป็นเวลานาน ซึ่งบนเส้นทางนี้ รัฐสภายุโรปได้สวมบทบาทที่สำคัญอย่างมิสามารถขาดได้ เมื่อเผชิญหน้ากับสงครามระหว่างรัสเซีย - ยูเครน รวมถึงผลกระทบและความท้าทายที่เกิดจากสถานการณ์โรคระบาดในปัจจุบัน การเสริมสร้างความร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันในภูมิภาคเอเชีย ยิ่งเพิ่มความสำคัญมากยิ่งขึ้น ในฐานะที่ Ms. Beer ดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานรัฐสภายุโรป เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ประชาชนชาวไต้หวันควรที่จะได้รับสิทธิในการกำหนดอนาคตของไต้หวันด้วยตนเอง
รมว.อู๋ฯ ได้ร่วมอวยพรให้ Ms. Beer และสมาชิกคณะ ประสบความราบรื่นทุกประการในระหว่างการเดินทางเยือนครั้งนี้ พร้อมคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – EU จะได้รับการพัฒนาต่อไปในเชิงลึกภายใต้พื้นฐานค่านิยมที่ยึดมั่นร่วมกัน