ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 28 ก.ค. 65
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับคณะตัวแทน “การประชุมสมาชิกรัฐสภาด้านหลักประกันทางความมั่นคงของญี่ปุ่น” โดยปธน.ไช่ฯ ได้แสดงความขอบคุณรัฐบาลญี่ปุ่นที่เน้นย้ำถึงความสำคัญของสันติภาพและเสถียรภาพในพื้นที่สองฝั่งช่องแคบไต้หวันบนเวทีนานาชาติอยู่บ่อยครั้ง พร้อมกล่าวว่า ไต้หวันตั้งอยู่ในพื้นที่ห่วงโซ่ที่ 1 (First Island Chain) ที่มีบทบาทสำคัญในการปกป้องประชาธิปไตย โดยหลังจากนี้ ไต้หวันจะเร่งสร้างความร่วมมือเชิงลึกกับญี่ปุ่นและกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน เพื่อร่วมรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิกให้คงอยู่สืบไป
ในช่วงแรก ปธน.ไช่ฯ ได้กล่าวต้อนรับคณะตัวแทนที่ล้วนแล้วแต่เป็นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญในประเด็นความมั่นคงระหว่างไต้หวัน - ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นมิตรสหายที่มีความคุ้นเคยต่อไต้หวันเป็นอย่างดี หลายปีมานี้ นอกจากไต้หวัน – ญี่ปุ่นจะเผชิญหน้ากับภัยพิบัติทางธรรมชาติและความท้าทายจากสถานการณ์โรคระบาดแล้ว ยังได้ผนึกกำลังสามัคคีในการก้าวข้ามอุปสรรคร่วมกันด้วย โดยในปีที่แล้ว ซึ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นในไต้หวัน รัฐบาลญี่ปุ่นได้บริจาควัคซีนเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่พวกเรา จึงขอแสดงความขอบคุณด้วยใจจริง
ปธน.ไช่ฯ เผยว่า การที่ไต้หวัน – ญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันอย่างแนบแน่นเสมอมาตราบจนปัจจุบัน เป็นผลสัมฤทธิ์ที่เกิดจากการสนับสนุนและความทุ่มเทของอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะแห่งญี่ปุ่น ซึ่งได้ล่วงลับไปอย่างกระทันหันเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา สร้างความเศร้าสลดให้แก่ประชาคมโลกเป็นอย่างมาก โดยประชาชนชาวไต้หวันต่างร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปของอดีตนรม.อาเบะ มิตรสหายตลอดกาลของไต้หวัน
ปธน.ไช่ฯ ย้อนนึกถึงคำพูดของอดีตนรม.อาเบะ ในระหว่างการร่วมหารือระหว่างกันผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยอดีตนรม.อาเบะได้กล่าวไว้ว่า “หากไต้หวันมีปัญหา” ก็เท่ากับว่า “ญี่ปุ่นมีปัญหา” และ “ญี่ปุ่น-สหรัฐฯ ก็มีปัญหาด้วย” คำพูดข้างต้นนอกจากจะมีนัยยะสำคัญต่อความมั่นคงในภูมิภาคแล้ว ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความห่วงใยที่รัฐบาลญี่ปุ่นมีต่อประเด็นที่เกี่ยวข้องกับไต้หวันอีกด้วย โดยปธน.ไช่ฯ เชื่อว่า เหล่าสมาชิกรัฐสภาต่างก็ให้ความสำคัญต่อประเด็นความมั่นคงของญี่ปุ่นและกลุ่มพันธมิตรประชาธิปไตยทั่วโลกเช่นกัน จึงได้มีการจัดตั้ง “การประชุมสมาชิกรัฐสภาด้านหลักประกันทางความมั่นคงของญี่ปุ่น” ขึ้นนับตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา
ปธน.ไช่ฯ แถลงว่า หลายปีมานี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของสันติภาพและเสถียรภาพในพื้นที่สองฝั่งช่องแคบไต้หวันบนเวทีนานาชาติอยู่บ่อยครั้ง อาทิ การประชุมสุดยอดผู้นำ EU – ญี่ปุ่น การประชุมสุดยอดผู้นำสหรัฐฯ – ญี่ปุ่น การประชุมผู้นำกลุ่มประเทศ G7 และการประชุมสุดยอดขององค์การนาโต้ (NATO) เป็นต้น พวกเราขอแสดงความขอบคุณต่อการให้ความสำคัญและการสนับสนุนที่ญี่ปุ่นมีต่อไต้หวันอย่างหนักแน่นเสมอมา
ปธน.ไช่ฯ เน้นย้ำว่า ไต้หวันในฐานะที่เป็นสมาชิกที่มีความสำคัญในประชาคมโลก พวกเราทราบดีว่า นอกจากการปกป้องอำนาจอธิปไตยของไต้หวันแล้ว ในแง่ของความมั่นคงทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาค ไต้หวันยังเป็นประเทศแนวหน้าที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่วงโซ่ที่ 1 โดยพวกเราจะเร่งเสริมสร้างความร่วมมือกับญี่ปุ่นและกลุ่มประเทศประชาธิปไตยอื่นๆ เพื่อธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิกให้คงอยู่ต่อไป
ปธน.ไช่ฯ ชี้ว่า นอกจากประเด็นหลักประกันทางความมั่นคงแล้ว ไต้หวัน - ญี่ปุ่นยังได้ประสานความร่วมมือในด้านต่างๆ ระหว่างกันอย่างใกล้ชิด ในด้านเศรษฐกิจและการค้า บริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) ได้ประสานความร่วมมือกับบริษัท SONY ในการจัดตั้งโรงงานในนครคูมาโมโตะ เชื่อว่าโครงการความร่วมมือนี้ จะมีส่วนช่วยให้ทั้งสองประเทศร่วมบรรลุเป้าหมายการสร้างเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานด้านเซมิคอนดักเตอร์ให้เกิดความมั่นคงมากขึ้น
Mr. Ishiba Shigeru สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่นและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวขอบคุณปธน.ไช่ฯ ที่ได้สละเวลาให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ทำให้ตนรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก พร้อมแสดงความขอบคุณต่อปธน.ไช่ฯ ที่ได้ร่วมแสดงความไว้อาลัยต่ออดีตนรม.อาเบะ ตลอดจนเน้นย้ำว่า เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อระบอบและลัทธิประชาธิปไตย อีกทั้งกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทางสังคม ก็จะมิยอมจำนนต่อพฤติกรรมรุนแรงด้วยเช่นกัน
Mr. Shigeru ระบุว่า ก่อนหน้านี้ ตนเคยมีโอกาสร่วมงานกับอดีตนรม.อาเบะ หน้าที่ความรับผิดชอบที่ญี่ปุ่นมีต่อภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก ทั้งในด้านการกำหนดกฎระเบียบทางกฎหมาย ศักยภาพด้านกลาโหมและการยกระดับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ มิได้เป็นเพียงคำพูดสวยหรูเท่านั้น แต่คือการดำเนินภารกิจเพื่อให้บรรลุเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรม Mr. Shigeru รู้สึกเสียดายที่อุดมการณ์ของอดีตนรม.อาเบะยังไม่บรรลุผลตามที่คาดหวังไว้ ซึ่งตนยินดีที่จะสานต่อความตั้งใจของอดีตนรม.อาเบะ และพร้อมที่จะน้อมรับความรับผิดชอบที่ตามมาหลังจากนี้
Mr. Shigeru เผยว่า “การประชุมสมาชิกรัฐสภาด้านหลักประกันทางความมั่นคงของญี่ปุ่น” เป็นองค์กรที่เกิดจากการรวมตัวของสมาชิกรัฐสภาญี่ปุ่นแบบข้ามพรรค โดยสมาชิกคณะหลายท่านต่างเคยดำรงตำแหน่งสำคัญในหน่วยงานภาครัฐ การเดินทางมาเยือนไต้หวันในครั้งนี้ Mr. Shigeru มีกำหนดการจะร่วมอภิปรายแนวทางการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างไต้หวัน - ญี่ปุ่น พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะในส่วนของสถานการณ์ยูเครน โดยก่อนหน้านี้ ปธน.ไช่ฯ ได้ประกาศอย่างชัดแจ้งอยู่บ่อยครั้งว่า “ประเทศของพวกเรา ต้องช่วยเหลือกันเอง” ซึ่งเป็นคำพูดที่สร้างความประทับใจให้ตนเป็นอย่างมาก
สำหรับแนวทางการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก Mr. Shigeru แสดงความคิดเห็นว่า เราต้องลองประเมินและจำลองความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในภูมิภาค ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ปะทุขึ้นแล้ว ก็ต้องพิจารณาว่ามีข้อตกลง กฎระเบียบทางกฎหมายหรือจะอาศัยกองกำลังทหารหน่วยใดเข้าสกัดกั้นต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งประเด็นเหล่านี้ต้องร่วมหารือเจรจาและบรรลุฉันทามติร่วมกันเสียก่อน โดย Mr. Shigeru รู้สึกว่า ทุกคนมีแนวคิดและจิตวิญญาณที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันก็จริง แต่แนวทางการดำเนินภารกิจกลับยังขาดแคลนฉันทามติที่เห็นพ้องซึ่งกันละกัน
Mr. Shigeru กล่าวว่า ไต้หวันมีบทบาทสำคัญในการสร้างความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจระดับโลก ท่ามกลางสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงอันผกผันเช่นนี้ หน้าที่ความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ที่ปธน.ไช่ฯ แบกรับ ถือว่ามีนัยยะทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ซึ่งตนก็คาดหวังที่จะรับฟังความคิดเห็นของปธน.ไช่ฯ ด้วย ท้ายนี้ Mr. Shigeru ได้แสดงความขอบคุณรัฐบาลไต้หวันสำหรับความช่วยเหลือและการต้อนรับเป็นอย่างดี ในระหว่างที่คณะตัวแทนพำนักอยู่ในไต้หวัน