ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 11 ส.ค. 65
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 11 ส.ค. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้รับมอบสาสน์ตราตั้งจาก H.E. Carlos Fleitas เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐปารากวัยประจำไต้หวัน โดยปธน. ไช่ฯ ได้แสดงความยินดีและกล่าวต้อนรับการเดินทางมาประจำตำแหน่งในไต้หวันของ H.E. Fleitas พร้อมนี้ ปธน.ไช่ฯ ยังกล่าวด้วยว่า เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการ พันธมิตรด้านประชาธิปไตยควรที่จะเสริมสร้างความร่วมมือ และประสานสามัคคีระหว่างกัน เพื่อร่วมปกป้องค่านิยมที่ยึดมั่นร่วมกันและวิถีชีวิตแห่งประชาธิปไตยให้ดำรงอยู่ต่อไป โดยปธน.ไช่ฯ หวังว่า ทั้งสองประเทศจะร่วมสร้างความร่วมมือเชิงหุ้นส่วนต่อไปในเชิงลึก ตลอดจนร่วมเปิดบริบทหน้าใหม่แห่งการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือแบบทวิภาคี รวมไปถึงการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าในเชิงลึกต่อไป
ปธน.ไช่ฯ เผยว่า ในปีนี้เป็นวาระครบรอบ 65 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไต้หวัน - ปารากวัย ในวาระอันสำคัญเช่นนี้ H.E. Fleitas ได้รับมอบหมายจาก H.E. Mario Abdo Benítez ประธานาธิบดีสาธารณรัฐปารากวัย และการสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภาแบบข้ามพรรค ให้เดินทางมาเข้ารับตำแหน่งเอกอัครราชทูตปารากวัยในไต้หวัน แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญต่อไต้หวันของรัฐบาลปารากวัย
ปธน.ไช่ฯ ชี้ว่า นอกจาก H.E. Fleitas จะเป็นเจ้าหน้าที่การทูตที่เชี่ยวชาญแล้ว ยังเพรียบพร้อมด้วยวุฒิการศึกษาขั้นสูง อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์อันดีกับไต้หวันอย่างลึกซึ้ง โดยก่อนหน้านี้ เคยได้รับมอบหมายให้มาประจำการในสถานเอกอัครราชทูตรวม 2 ครั้ง และยังได้รับวุฒิการศึกษาระดับปริญญาที่ไต้หวัน อีกทั้งมีความเข้าใจต่อสถานการณ์ในภูมิภาคลาตินอเมริกาและกิจการต่างๆ ในพื้นที่ภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิกอย่างลึกซึ้ง
ปธน.ไช่ฯ เห็นว่า ไต้หวันและปารากวัยต่างก็เป็นประเทศพันธมิตรที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน โดยทั้งสองฝ่ายได้ร่วมยึดมั่นในค่านิยมสากลด้านเสรีภาพและประชาธิปไตยเหมือนกัน หลายปีมานี้ มีผลสัมฤทธิ์ที่เกิดจากความร่วมมือในด้านต่างๆ มากมาย นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศยังได้ร่วมกันผลักดัน “โครงการมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระหว่างไต้หวัน - ปารากวัย” เพื่อบ่มเพาะบุคลากรด้านเทคโนโลยีให้เพิ่มมากขึ้น
ปธน.ไช่ฯ กล่าวอีกว่า ไต้หวันและปารากวัยมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นในการแลกเปลี่ยนด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกัน โดยเฉพาะหลังจากที่ความตกลงทางความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ (ECA) มีผลบังคับใช้เป็นต้นมา ก็ทำให้การค้าระหว่างสองประเทศมีการขยายตัวในเชิงบวกมากขึ้น โดยในปีที่แล้ว ปริมาณเนื้อวัวที่ไต้หวันนำเข้าจากปารากวัยสูงถึง 29,000 ตัน ถือเป็นสถิติที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วย
ปธน.ไช่ฯ หวังว่า H.E. Fleitas จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในเชิงลึกต่อไป เพื่อเปิดบริบทหน้าใหม่แห่งการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือแบบทวิภาคี รวมถึงการสร้างความร่วมมือทางการค้าในเชิงลึก นอกจากนี้ ปธน.ไช่ฯ ยังได้ขอให้ H.E. Fleitas ส่งผ่านความขอบคุณจากปธน.ไช่ฯ ไปสู่ปธน. Abdo Benítez แห่งปารากวัย ที่รัฐบาลปารากวัยร่วมเป็นกระบอกเสียงให้การสนับสนุนไต้หวันบนเวทีนานาชาติที่สำคัญๆ เสมอมา
ทั้งนี้ H.E. Fleitas กล่าวขณะปราศรัยว่า ไต้หวัน – ปารากวัย มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันอย่างแนบแน่น พร้อมร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาเป็นระยะเวลานานกว่า 65 ปี โดยที่ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศไม่เคยขาดช่วง
H.E. Fleitas เผยว่า ไต้หวัน – ปารากวัยต่างรักในสันติภาพ แต่เพื่อปกป้องอนาคตของประเทศชาติ พวกเราไม่เคยยอมจำนนต่อสงคราม ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตที่บันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ ประชาชนต่างก็แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและความรักชาติอย่างหนักแน่น ในปัจจุบันนี้ การธำรงรักษาสิทธิมนุษยชนพื้นฐาน รวมถึงเสรีภาพ ความเสมอภาค ความยุติธรรมและหลักนิติธรรม ต่างก็เป็นพันธกิจที่ทั้งสองประเทศต้องร่วมกันยึดมั่นไว้เป็นรากฐานมิให้เกิดความสั่นคลอน ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความสัมพันธ์แบบทวิภาคีร่วมกันต่อไป
H.E. Fleitas เผยอีกว่า รัฐบาลปารากวัยให้การสนับสนุนสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ในเวทีนานาชาติอยู่บ่อยครั้ง พร้อมคาดหวังที่จะเห็นไต้หวันเข้าเป็นหนึ่งในสมาชิกขององค์การระหว่างประเทศ โดยผลสัมฤทธิ์และคุณประโยชน์ที่ไต้หวันได้สร้างขึ้นในหลายด้าน ล้วนเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ไขปัญหาของมวลมนุษยชาติ เช่น การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 และความท้าทายด้านสาธารณสุขอื่นๆ
H.E. Fleitas กล่าวว่า ทั้งสองประเทศได้เอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันในด้านการพัฒนาทางเศรษฐกิจเสมอมา โดยปารากวัยมีทรัพยากรทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ประกอบกับที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่มีข้อได้เปรียบ และหลักประกันด้านกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่สอดคล้องต่อความต้องการของผู้ประกอบการไต้หวัน ที่เลือกเข้าลงทุนในปารากวัย และบุกตลาดอเมริกาใต้ที่เปี่ยมด้วยศักยภาพ โดย H.E. Fleitas ได้แสดงความขอบคุณต่อการให้ความช่วยเหลือและการประสานความร่วมมือของไต้หวัน ที่ส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไต้หวัน – ปารากวัย เป็นส่วนหนึ่งของกลไกการวางรากฐานในการพัฒนาด้านเทคโนโลยีของปารากวัย เพื่อมุ่งไปสู่โครงการความร่วมมือที่สำคัญในอนาคตร่วมกันต่อไป
H.E. Fleitas หวังว่า ทั้งสองประเทศจะเร่งเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและความร่วมมือทางเทคโนโลยี ภายใต้พื้นฐานอันแข็งแกร่งที่มีอยู่เดิม เพื่อยกระดับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าแบบทวิภาคี แม้ว่าไต้หวัน – ปารากวัยจะมีระยะทางและที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่ห่างไกลกัน แต่มีแนวคิดในการแสวงหาความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ ความเป็นธรรมในสังคม ประชาธิปไตยและเสรีภาพ รวมถึงเสริมสร้างความผาสุกให้แก่ประชาชนเช่นเดียวกัน จึงทำให้ทั้งสองประเทศยังคงประสานสัมพันธ์ระหว่างกันอย่างแนบแน่นตลอดมาจนถึงปัจจุบัน