กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 25 ส.ค. 65
เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา ผู้แทนถาวรของประเทศพันธมิตรไต้หวันประจำสหประชาชาติ ประกอบด้วย เบลิซ เอสวาตินี กัวเตมาลา เฮติ หมู่เกาะมาร์แชลล์ นาอูรู ปาเลา ปารากวัย เซนต์คิตส์และเนวิส เซนต์ลูเซีย เซนต์วินเซนต์ และตูวาลู ได้ประกาศแถลงการณ์ร่วม โดยมีเนื้อความที่ระบุถึงการแสดงความห่วงใยต่อไต้หวัน เกี่ยวกับกรณีที่จีนจงใจทำลายสถานภาพเดิมของสองฝั่งช่องแคบไต้หวันโดยใช้กำลังทหารรุกล้ำเขตแดนของไต้หวัน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสันติภาพและเสถียรภาพในสองฝั่งช่องแคบไต้หวันและในภูมิภาค ตลอดจนให้การยอมรับและชื่นชมไต้หวันว่า สามารถรับมือต่อภัยคุกคามจากจีนได้อย่างมีสติ กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ขอแสดงความขอบคุณประเทศพันธมิตรด้วยใจจริง ที่ร่วมเป็นกระบอกเสียงให้การสนับสนุนไต้หวันอย่างหนักแน่น พร้อมทั้งรักษาไว้ซึ่งมิตรภาพอันดีระหว่างกันอย่างยั่งยืน
กลุ่มประเทศพันธมิตรไต้หวันได้แสดงจุดยืนในการให้ความสำคัญต่อสันติภาพและเสถียรภาพ พร้อมทั้งยังให้คำมั่นว่าจะร่วมธำรงรักษาความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศบนพื้นฐานของกฎระเบียบสากล ตลอดจนเน้นย้ำถึง “กฎบัตรของสหประชาชาติ (UN)” ที่มีวัตถุประสงค์และหลักการว่าด้วยการธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพระหว่างประเทศ ซึ่งระบุไว้ว่า ไม่ว่าจะเกิดความขัดแย้งในรูปแบบใดในระหว่างประเทศ ก็ต้องอาศัยแนวทางแห่งสันติภาพในการแก้ไขปัญหา โดยกลุ่มประเทศพันธมิตรต่างเรียกร้องให้ UN และประชาคมโลก ร่วมเรียกร้องให้จีนยุติพฤติกรรมคุกคามด้วยการฝึกซ้อมทางทหารในพื้นที่บริเวณโดยรอบของไต้หวัน รวมถึงความมุ่งหมายในการเปลี่ยนแปลงสถานภาพเดิมระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน ซึ่งนัยยะของสถานภาพเดิมในปัจจุบันคือ ทั้งสองประเทศมิได้เป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน โดยจีนควรที่จะยึดถือตามเส้นมัธยฐานในช่องแคบไต้หวันอย่างเคร่งครัด
รัฐบาลไต้หวันขอใช้โอกาสนี้ ประณามจีนอีกครั้งที่พยายามใช้กำลังอาวุธในการข่มขู่ไต้หวัน เพื่อต้องการบรรลุเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงสถานภาพของสองฝั่งช่องแคบไต้หวันแต่เพียงฝ่ายเดียว รวมถึงพฤติกรรมการรุกล้ำทางการทหารดังกล่าว ไม่เพียงแต่จะทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค หากแต่ยังส่งผลกระทบต่อการคมนาคมและการค้าระหว่างประเทศเป็นอย่างมาก นอกจานี้ ในช่วงหลายปีมานี้ จีนพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงของญัตติที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ฉบับที่ 2758 ที่ประกาศในปีค.ศ. 1971 พร้อมกดดันให้ UN ยอมรับคำกล่าวอ้างของจีน และกีดกันไม่ให้ไต้หวันเข้าร่วมในกลไกการประชุมหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องในองค์การระหว่างประเทศ กต.ไต้หวันจึงขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกตระหนักถึงพฤติกรรมที่ทำลายความสงบเรียบร้อยอย่างไร้ความรับผิดชอบของจีน พร้อมร่วมประณามและกระตุ้นให้จีนเคารพต่อ “กฎบัตรของ UN” ในหลักการว่าด้วยการห้ามใช้อาวุธในการแก้ไขปัญหา ซึ่งจีนควรยุติพฤติกรรมต่างๆ ที่เป็นภัยคุกคามต่อไต้หวันและประชาคมโลกโดยเร็ว
กลุ่มประเทศพันธมิตรของไต้หวันให้การสนับสนุนไต้หวันเสมอมาอย่างหนักแน่น โดยได้ร่วมเป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวันผ่านทุกช่องทางในทุกเวทีนานาชาติ แสดงให้เห็นถึงการยึดมั่นในค่านิยมสากลด้านประชาธิปไตยและเสรีภาพระหว่างไต้หวันและกลุ่มประเทศพันธมิตร อีกทั้งยังประสานความร่วมมือในการต่อต้านพฤติกรรมการยั่วยุทางกำลังทหารของรัฐบาลจีน เพื่อต้องการทำลายสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค ตลอดจนร่วมธำรงรักษาความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศ ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของกฎระเบียบสากล