ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 31 ส.ค. 65
Ms. J. Uduch Sengebau Senior รองประธานาธิบดีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมแห่งสาธารณรัฐปาเลา พร้อมด้วยคณะ ได้เสร็จสิ้นการเดินทางเยือนไต้หวันเป็นระยะเวลา รวม 5 วัน เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่ผ่านมา และได้เดินทางกลับมาตุภูมิเมื่อช่วงเช้าของวันเดียวกัน โดยในช่วงเช้าของวันที่ 31 ส.ค. ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และนายไล่ชิงเต๋อ รองประธานาธิบดี ได้ร่วมเจรจากับรองปธน. Uduch พร้อมด้วยคณะ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ซึ่งปธน.ไช่ฯ และรองปธน.ไล่ฯ ได้แสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลปาเลาที่แสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณแห่งการเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันระหว่างพันธมิตรด้านประชาธิปไตย และร่วมเป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวันในเวทีนานาชาติอย่างหนักแน่นเสมอมา พร้อมให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมในองค์การระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า การเดินทางมาเยือนไต้หวันในครั้งนี้ของรองปธน. Uduch ได้กระตุ้นให้ทั้งสองฝ่ายร่วมลงนามในความตกลงและบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ (MoU) หลายประการ อาทิ “ความตกลงว่าด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกันด้านคดีอาญา” “บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์” และ “ความตกลงทางความร่วมมือว่าด้วยการเสริมสร้างความสามารถด้านการบริหารจัดการความเสี่ยงที่เกิดจากภัยพิบัติ และการแบ่งปันเทคโนโลยีด้านการป้องกันภัยพิบัติ” ปธน.ไช่ฯ หวังว่า ไต้หวัน - ปาเลา จะร่วมพัฒนาการแลกเปลี่ยนแบบข้ามแวดวง เพื่อสร้างความผาสุกให้แก่ประชาชนทั้งสองประเทศสืบต่อไป
ปธน.ไช่ฯ ชี้อีกว่า ไต้หวันและปาเลาต่างก็เป็นประเทศที่อยู่กลางมหาสมุทรซึ่งมีความกระตือรือร้นเช่นเดียวกัน และเป็นประเทศที่ยึดมั่นในค่านิยมสากลด้านประชาธิปไตยและเสรีภาพเช่นเดียวกัน ตลอดระยะเวลา 20 กว่าปีที่ผ่านมา ไต้หวันและปาเลาได้ร่วมสร้างรากฐานที่มั่นคงในความร่วมมือด้านต่างๆ แบบทวิภาคี ภายใต้แนวคิดที่ยึดมั่นร่วมกัน โดยเราจะร่วมแลกเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเสริมสร้างมิตรภาพระหว่างภาคประชาชนให้เกิดความแนบแน่นยิ่งขึ้นไป
ปธน.ไช่ฯ ชี้อีกว่า เมื่อเดือนมี.ค. ปีที่แล้ว ตนได้ให้การต้อนรับ Mr. Surangel S. Whipps, Jr. ประธานาธิบดีสาธารณรัฐปาเลา พร้อมด้วยภริยา ณ ทำเนียบประธานาธิบดี โดยในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 เราได้ร่วมกันผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจ โดยหลังเสร็จสิ้นการเยือนในครั้งนั้น ปธน. Whipps พร้อมด้วยภริยา ก็ได้โดยสารเที่ยวบิน ตามโครงการ “Travel Bubble ระหว่างไต้หวัน - ปาเลา” ที่จัดขึ้นครั้งแรก เพื่อกลับสู่ปาเลาด้วย
นอกจากนี้ เมื่อเดือนเม.ย. ปีนี้ รัฐบาลปาเลายังได้ติดต่อให้รัฐบาลไต้หวันมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตัวแทนเดินทางเข้าร่วม “การประชุมใหญ่ว่าด้วยมหาสมุทรของเรา” (Our Ocean Conference, OOC) โดยปธน.ไช่ฯ ได้มอบหมายให้นายจางจื่อจิ้ง รัฐมนตรีว่าการทบวงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สภาบริหารไต้หวัน เข้าร่วม โดยรมว.จางฯ ได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์การรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไต้หวัน พร้อมอภิปรายแนวทางการรับมือร่วมกับตัวแทนจากนานาประเทศ นอกจากนี้ ในระหว่างการประชุม เรือลาดตระเวณของไต้หวันและปาเลา ต่างร่วมปฏิบัติภารกิจการรักษาความมั่นคงในพื้นที่น่านน้ำอย่างแข็งขัน ซึ่งนอกจากจะเป็นการประสานความร่วมมือด้านการป้องกันชายฝั่งของทั้งสองประเทศแล้ว ยังถือเป็นการก้าวสู่หลักชัยใหม่ เพื่อร่วมธำรงรักษาสันติภาพ ความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาคให้คงอยู่สืบไป
รองปธน. Uduch กล่าวขณะปราศรัยว่า ตนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้าพบปธน.ไช่ฯ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ และขอแสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลไต้หวันที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยในระหว่างการเดินทางเยือนในครั้งนี้ เราได้ร่วมลงนามในความตกลงที่สำคัญ 3 รายการ ซึ่งครอบคลุมทั้งในด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเตรียมความพร้อมด้านการรับมือภัยพิบัติ การให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในด้านคดีอาญา และความร่วมมือด้านการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนเหล่านี้ ต่างสอดคล้องกับประเด็นหลักที่ปธน. Whipps ประกาศไว้ในพันธกิจประจำปี 2022 ซึ่งก็คือการสร้างหลักประกันและความมั่นคงให้แก่ประชาชนชาวปาเลา
นอกจากนี้ รองปธน. Uduch ยังคาดหวังที่จะเดินทางมาเยือนไต้หวันอีกครั้งในเร็ววันนี้ เพื่อเข้าเยี่ยมคารวะปธน.ไช่ฯ ด้วยตนเอง โดยรองปธน. Uduch ยังกล่าวว่า ในฐานะที่ตนดำรงตำแหน่งหน้าที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จึงหวังที่จะห็นทั้งสองประเทศร่วมผลักดันกลไกที่สามารถเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน ในด้านความร่วมมือทางคดีอาญา การตรวจสอบความมั่นคงในกิจการทางทะเล การบริหารความเสี่ยงที่เกิดจากภัยพิบัติ และเทคโนโลยีสารสนเทศ ต่อไป
รองปธน. Uduch ยังชี้อีกว่า ในฐานะที่ดำรงตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการด้านการรับมือภัยพิบัติแห่งชาติ จึงหวังที่จะเร่งดำเนินการภารกิจในเชิงลึก เพื่อร่วมเป็นกระบอกเสียงบนเวทีนานาชาติในด้านการเตรียมพร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และจัดตั้งชุมชนที่เปี่ยมด้วยความยืดหยุ่น
รองปธน. Uduch เห็นว่า ไต้หวันและปาเลาต่างก็มีผืนมหาสมุทรอันกว้างใหญ่เช่นเดียวกัน แต่มีเนื้อที่ประเทศค่อนข้างจำกัด เนื่องจากมีน่านน้ำที่กว้างใหญ่ ปาเลาจึงให้ความสำคัญในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะเครื่องมือตรวจสอบข้อมูลระยะไกล เพื่อยกระดับการเฝ้าจับตาความเคลื่อนไหวในพื้นที่น่านน้ำทะเล
โดยรองปธน. Uduch ยังกล่าวว่า นอกจากการปราบปรามพฤติกรรมผิดกฎหมาย รัฐบาลปาเลายังมุ่งมั่นในการปกป้องประชาชนและทรัพยากรทางธรรมชาติ ด้วยเหตุนี้ การประยุกต์ใช้นิติวิทยาศาสตร์ในการแสวงหาความยุติธรรมให้ภาคประชาชนในระหว่างการตรวจสอบทางคดีอาญา จึงเป็นสิ่งสำคัญ
นอกจากนี้ รองปธน. Uduch ยังได้แสดงความชื่นชมต่อสตรีชาวไต้หวันที่ร่วมแสดงบทบาทที่สำคัญในหน่วยงานภาครัฐ รองปธน. Uduch หวังว่า ความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนแบบทวิภาคีระหว่างไต้หวัน - ปาเลา และการประสานติดต่อระหว่างกันอย่างใกล้ชิด จะสามารถส่งผลในเชิงบวกต่อความเสมอภาคทางเพศ ที่รัฐบาลปาเลาเร่งมุ่งมั่นผลักดันอยู่ในปัจจุบัน โดยขณะนี้ สมาชิกรัฐสภาปาเลาที่เป็นสตรี ครองสัดส่วนไม่ถึงร้อยละ10 แต่ในไต้หวันกลับมีสัดส่วนกว่าร้อยละ 50 โดยการบรรลุหลักการความเสมอภาคเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ทั่วโลกควรยึดไว้เป็นแบบอย่าง ซึ่งรองปธน. Uduch หวังที่จะเห็นไต้หวันก้าวสู่การเป็นผู้นำในด้านการส่งเสริมศักยภาพสตรี และการเรียกร้องความเสมอภาคทางเพศระดับสากลต่อไป
การเดินทางมาเยือนของรองปธน. Uduch ในครั้งนี้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ที่เข้าดำรงตำแหน่งรองปธน.แห่งปาเลาในเดือนม.ค.ปี 2021 เป็นต้นมา กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ขอขอบคุณรัฐบาลปาเลาและรองปธน. Uduch สำหรับการสนับสนุนไต้หวันอย่างหนักแน่น โดยไต้หวันจะเร่งเสริมสร้างความร่วมมือในด้านต่างๆ ในเชิงลึกกับปาเลาอย่างต่อเนื่องต่อไป ทั้งในด้านการเกษตรและการประมงง การแพทย์สาธารณสุข การศึกษาและวัฒนธรรม การท่องเที่ยวและพลังงานสะอาด เป็นต้น