กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 7 ก.ย. 65
Ms. Stephanie Murphy, D-FL รองประธาน “คณะทำงานเฉพาะกิจด้านข่าวกรองและการปฏิบัติการพิเศษ” ของคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้นำคณะตัวแทนเดินทางมาเยือนไต้หวันในระหว่างวันที่ 7 – 9 ก.ย. โดยสมาชิกคณะ ซึ่งล้วนเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ ประกอบด้วย Mr. Scott Franklin, R-FL , Mr. Kai Kahele, D-HI , Mr. Joe Wilson, R-SC , Mr. Andy Barr, R-KY , Mr. Darrell Issa, R-CA , Ms. Claudia Tenney, R-NY และ Ms. Kat Cammack, R-FL รวม 8 คน โดยนายเถียนจงกวง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เดินทางไปให้การต้อนรับ Ms. Murphy และคณะ ยังท่าอากาศยานนานาชาติเถาหยวนด้วยตนเอง เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา เพื่อแสดงการต้อนรับการมาเยือนของคณะตัวแทนด้วยใจจริง
คณะตัวแทนดังกล่าว เป็นคณะของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ สมัยที่ 117 กลุ่มใหญ่ที่สุดที่เดินทางมาเยือนไต้หวัน โดยในระหว่างนี้ Ms. Murphy และคณะ มีกำหนดการจะเข้าพบคารวะประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) พร้อมเข้าพบปะพูดคุยกับนายกู้ลี่สง เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และเข้าร่วมรับประทานอาหารในงานเลี้ยงรับรองที่จัดโดยนายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ทั้งนี้ เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนเชิงลึกในประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ความมั่นคงในภูมิภาค รวมถึงเศรษฐกิจและการค้า เป็นต้น
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา Ms. Murphy ได้เฝ้าจับตาสถานการณ์ความมั่นคงของสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน พร้อมยื่นเสนอ “ร่างกฎหมายว่าด้วยการเบิกยืมอาวุธเพื่อใช้ในการปกป้องประชาธิปไตยไต้หวัน” (Taiwan Democracy Defense Lend-Lease Act) เมื่อเดือนก.ค. ที่ผ่านมา ตลอดจนได้ยื่นเสนอร่างแก้ไขกฎหมายที่เป็นมิตรต่อไต้หวัน ในระหว่าง “การประชุมพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณด้านกลาโหมแห่งชาติ ปี 2023” (NDAA 2023) โดยได้เรียกร้องให้สหรัฐฯ จัดตั้งกลไก “การจำลองสถานการณ์รุกล้ำดินแดนระดับประเทศ” แบบข้ามหน่วยงานภาครัฐ เพื่อประเมินสถานการณ์ความเป็นไปได้ที่ไต้หวันจะถูกรุกรานในอนาคต โดยสมาชิกคณะตัวแทนที่เดินทางเยือนไต้หวันในครั้งนี้ ประกอบด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจาก 2 พรรคการเมืองหลักของสหรัฐฯ ซึ่งก็คือพรรคเดโมแครตและพรรคริพับลิกัน และเป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการที่ดูแลควบคุมกิจการในด้านต่างๆ ที่สำคัญระดับประเทศ อาทิ “การทหาร” “การต่างประเทศ” และ “งบประมาณประจำปี” ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นมิตรสหายคนสำคัญของไต้หวัน โดยจะเห็นได้จากการยื่นเสนอญัตติที่เป็นมิตรและร่วมลงนามในหนังสือเรียกร้องเพื่อให้การสนับสนุนการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ การเสริมสร้างความมั่นคงของไต้หวัน การยกระดับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้า และการจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด – 19 ให้แก่ไต้หวันเป็นประเทศอันดับต้นๆ รวมไปถึงการเรียกร้องให้ไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมใน “องค์การอนามัยโลก” (WHO) เป็นต้น
ตราบจนปัจจุบันในปีนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ได้มอบหมายให้กลุ่มสมาชิกรัฐสภา 7 กลุ่ม สมาชิกวุฒิสภาและผู้แทนราษฎร รวม 28 คน ซึ่งในจำนวนนี้ แบ่งเป็นวุฒิสมาชิก 9 คน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 14 คน จากพรรคเดโมแครต 14 คน และจากพรรคริพับลิกัน 14 คน เดินทางเยือนไต้หวัน ท่ามกลางสถานการณ์ที่รัฐบาลจีนได้สร้างความยั่วยุด้วยกำลังทหารโดยไร้ซึ่งความรับผิดชอบ และการยกระดับความตึงเครียดในภูมิภาค รัฐสภาสหรัฐฯ มิได้มีความหวั่นเกรง หนำซ้ำยังจัดคณะตัวแทนกลุ่มใหญ่เดินทางมาเยือนไต้หวันอีกครั้ง แสดงให้เห็นถึงพลังสนับสนุนไต้หวันโดยไม่แบ่งแยกฝักฝ่ายของรัฐสภาสหรัฐฯ อย่างหนักแน่น