กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 12 ก.ย. 65
Mr. Karolis Žemaitis รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและนวัตกรรมของ สาธารณรัฐลิทัวเนีย คนใหม่ นำคณะตัวแทนที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ภาครัฐและผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเลเซอร์และเทคโนโลยีชีวภาพ รวม 28 คน เดินทางมาเยือนไต้หวันในวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยได้เปิดฉากการดำเนินตามแผนการเพื่อแสวงหาความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจ การค้าและเทคโนโลยีแบบทวิภาคีกับไต้หวัน นับตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย. รวมระยะเวลา 5 วัน ซึ่งวัตถุประสงค์ของการนำคณะตัวแทนผู้ประกอบการเทคโนโลยีขั้นสูงของลิทัวเนียเดินทางเยือนไต้หวันในครั้งนี้ ก็เพื่อจุดประสงค์ในการขยายความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมแบบทวิภาคี พร้อมเสริมสร้างความเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจและการค้า กระทรวงการต่างประเทศ ขอต้อนรับการมาเยือนของ Mr. Žemaitis และคณะด้วยใจจริง
โดยในระหว่างนี้ นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) จะจัดงานเลี้ยงรับรองเพื่อให้การต้อนรับแก่ Mr. Žemaitis และคณะ ในระหว่างการเยือนในครั้งนี้ คณะตัวแทนมีกำหนดการเข้าพบปะเจ้าหน้าที่คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาแห่งชาติ (NDC) และกระทรวงเศรษฐการ อีกทั้งยังมีกำหนดการเข้าเยี่ยมชมสถาบันวิจัยเทคโนโลยีทางอุตสาหกรรม และองค์กรธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อแสวงหาโอกาสความร่วมมือในอุตสาหกรรมที่เป็นข้อได้เปรียบของทั้งสองฝ่าย ทั้งในด้านเทคโนโลยีเลเซอร์และเทคโนโลยีชีวภาพ เป็นต้น เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนด้านประชาธิปไตยระหว่างไต้หวัน – ลิทัวเนีย และความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุตสาหกรรมในกลุ่มประเทศประชาธิปไตยทั่วโลก
ต่อกรณีที่รัฐบาลจีนเพิ่มแรงกดดันต่อไต้หวัน ผ่านการข่มขู่ด้วยกำลังทหารในพื้นที่รอบน่านน้ำสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน เพื่อต้องการเปลี่ยนแปลงสถานภาพสองฝั่งช่องแคบไต้หวันในปัจจุบัน Mr. Gabrielius Landsbergis รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐลิทัวเนีย ได้ระบุขณะเผยแพร่บทความลงบนสื่อแนวหน้าของอังกฤษเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ว่า การเดินทางเยือนไต้หวันของ Ms. Nancy Pelosi ประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐฯ ไม่สามารถนำมาเป็นข้ออ้างในการก่อพฤติกรรมรุกล้ำไต้หวันด้วยการฝึกซ้อมรบในพื้นที่รอบน่านน้ำของไต้หวันได้โดยพลการ โดยความมุ่งมั่นในการยืนหยัดต่อหลักการประชาธิปไตยและเสรีภาพของประชาชนชาวไต้หวัน 23.5 ล้านคน ไม่ควรถูกมองข้าม พร้อมเน้นย้ำว่า “โลกเสรีไม่ควรยินยอมให้ไต้หวันเป็นประเทศที่ 2 ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นเดียวกับยูเครน” (The free world can't allow Taiwan to become a second Ukraine)
ท่ามกลางวิกฤตสถานการณ์ระหว่างประเทศ อย่างสถานการณ์โรคโควิด – 19 สงครามระหว่างรัสเซีย - ยูเครน วิกฤตพลังงานและอาหาร ที่ลัทธิอำนาจนิยมเร่งฉวยโอกาสในการประยุกต์ใช้เพื่อคุกคามประชาธิปไตย เสรีภาพ และความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศ การนำคณะตัวแทนเดินทางเยือนไต้หวันของ Mr. Žemaitis ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงสปิริตแห่งการเอื้อประโยชน์และการประสานสามัคคีซึ่งกันและกัน ของพันธมิตรระหว่างไต้หวัน – ลิทัวเนียที่เป็นประเทศผู้นำด้านประชาธิปไตยเช่นเดียวกัน โดยไต้หวันจะเสริมสร้างความร่วมมือกับลิทัวเนียในการธำรงรักษาค่านิยมด้านประชาธิปไตยและเสรีภาพ ภายใต้พื้นฐานแนวคิดที่ยึดมั่นร่วมกัน เพื่อเพิ่มพูนพลังแห่งความดีในการมุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป ตลอดจนร่วมจับมือกันเพื่อสร้างผลประโยชน์ที่เกื้อกูลกันในอุตสาหกรรมชั้นนำระดับโลกต่อไป