ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 13 ก.ย. 65
เมื่อวันที่ 13 ก.ย. นายไล่ชิงเต๋อ รองประธานาธิบดีสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เข้าร่วมกิจกรรมพิธีเปิด “งานเฉลิมฉลองเนื่องในวาระครบรอบ 41 ปีแห่งวันประกาศอิสรภาพของเบลีซ และเดือนแห่งวัฒนธรรมเบลีซ” โดยรองปธน.ไล่ฯ ได้แสดงความขอบคุณต่อเบลีซที่ได้ร่วมเป็นกระบอกเสียงให้การสนับสนุนไต้หวันบนเวทีนานาชาติเสมอมา พร้อมทั้งระบุถึงความร่วมมือระหว่างสองประเทศในด้านต่างๆ อาทิ สาธารณสุข การแพทย์ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การเกษตร การศึกษา วัฒนธรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น ซึ่งบังเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมขึ้นมากมาย โดยรองปธน.ไล่ฯ คาดหวังที่จะเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมให้มิตรภาพระหว่างไต้หวัน - เบลีซ ดำเนินไปอย่างมีเสถียรภาพและเกิดความแนบแน่นยิ่งขึ้น
รองปธน.ไล่ฯ กล่าวขณะปราศรัยว่า ตลอดระยะเวลา 33 ปีที่ไต้หวัน – เบลีซได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการร่วมกัน ความสัมพันธ์ของสองประเทศได้ดำเนินไปในทิศทางที่ยั่งยืน โดยในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ทั้งสองประเทศได้ร่วมก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก ควบคู่ไปกับการประสานความร่วมมือกัน อีกทั้งเบลีซยังร่วมเป็นกระบอกเสียงให้การสนับสนุนไต้หวันบนเวทีนานาชาติอย่างหนักแน่นเสมอมา เพื่อให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในหน่วยงานต่างๆ ภายใต้ระบบสหประชาชาติ โดยเฉพาะ “การประชุมสมัชชาอนามัยโลก” (WHA) นอกจากนี้ ไต้หวันยังได้ให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มสตรี เยาวชนและผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ของเบลีซ ในการประกอบธุรกิจ บ่มเพาะบุคลากรและปล่อยสินเชื่อ ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้ประชานชาวเบลีซสามารถก้าวข้ามอุปสรรคไปได้อย่างราบรื่น อีกทั้งยังช่วยให้มิตรภาพระหว่างสองประเทศ ดำเนินไปอย่างมีเสถียรภาพและเกิดความแนบแน่นมากยิ่งขึ้น
รองปธน.ไล่ฯ กล่าวว่า ในเดือนมกราคมปีนี้ ข้าพเจ้าได้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เดินทางไปเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของ H.E. Xiomara Castro ประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสาธารณรัฐฮอนดูรัส โดยในระหว่างการเข้าร่วมพิธีฯ รองปธน.ไล่ฯ ได้มีโอกาสพูดคุยกับ Mr. John Briceño นายกรัฐมนตรีแห่งเบลีซ พร้อมทั้งเชิญชวนให้นรม. Briceño สละเวลาอันมีค่าเดินทางมาเยือนไต้หวัน โดยในเดือนมีนาคมของปีนี้ นรม. Briceño ได้นำคณะตัวแทนเดินทางมาเยือนไต้หวันตามคำเชื้อเชิญ ซึ่งนอกจากจะเข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในโครงการความร่วมมือระหว่างไต้หวัน - เบลีซ และประเด็นที่ทั้งสองประเทศให้ความสนใจร่วมกันกับประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) แล้ว นรม. Briceño ยังได้เดินทางเยือนนครไถหนาน เพื่อรับมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีคุนซาน เพื่อยกย่องเชิดชูความสามารถของ นรม. Briceño ด้านการบริหารประเทศ ที่สร้างความผาสุกให้แก่ประชาชนในประเทศ ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างมิตรภาพระหว่างสองประเทศ โดยรองปธน.ไล่ฯ แสดงความคิดเห็นว่า นี่เป็นการให้การต้อนรับอาคันตุกะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดครั้งหนึ่ง ซึ่งนอกจากจะเป็นการเสริมสร้างมิตรภาพระหว่างไต้หวัน - เบลีซแล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างมิตรภาพส่วนตัวระหว่างรองปธน.ไล่ฯ กับ นรม. Briceño อีกด้วย
รองปธน.ไล่ฯ กล่าวว่า ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไต้หวัน - เบลีซ มีการขยายตัวเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมูลค่ารวมการค้าและเศรษฐกิจในปี 2021 เพิ่มขึ้นจากปี 2020 กว่าร้อยละ 78% นอกจากนี้ ในวันที่ 15 มกราคม ทั้งสองประเทศยังได้ร่วมลงนามความตกลงทางความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ (ECA) ระหว่างกัน โดยไต้หวันยินดีที่จะลดหย่อนภาษีนำเข้าสินค้าเบลีซ รวม 199 รายการ ส่วนเบลีซก็ยินดีที่จะลดหย่อนภาษีนำเข้าสินค้าไต้หวันรวม 33 รายการ เพื่อเป็นการส่งเสริมการค้าระหว่างกัน
รองปธน.ไล่ฯ ยังได้แถลงว่า นอกเหนือจากความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าแล้ว ทั้งสองประเทศยังได้ร่วมแลกเปลี่ยนกันในด้านวัฒนธรรมอย่างใกล้ชิด ในเดือนมีนาคมปีนี้ เบลีซได้สร้างสรรค์ผลงานโคมไฟรูปทรง “หลุมน้ำเงิน” อันเป็นเอกลักษณ์การท่องเที่ยวในเบลีซ เพื่อนำมาจัดแสดงในเทศกาลโคมไฟไต้หวัน ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากภาคประชาชน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตเบลีซประจำไต้หวันยังได้เข้าร่วมกิจกรรมรถอาหารเคลื่อนที่รอบเกาะไต้หวัน เพื่อประชาสัมพันธ์อาหารเลิศรสของกลุ่มประเทศพันธมิตรไต้หวันในภูมิภาคอเมริกากลาง ที่จัดขึ้นโดยสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าภูมิภาคอเมริกากลาง เพื่อส่งเสริมให้ไต้หวันเกิดความเข้าใจต่อวัฒนธรรมและอาหารของเบลีซอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยกิจกรรมนี้ยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างภาคประชาชนของสองประเทศอีกด้วย รองปธน.ไล่ฯ จึงขอใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อ H.E. Candice Pitts เอกอัครราชทูตเบลีซประจำไต้หวันที่ได้มุ่งมั่นเพื่อกิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรมข้างต้นเหล่านี้
นอกจากนี้ รองปธน.ไล่ฯ ยังได้ใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อเบลีซสำหรับการให้การสนับสนุนไต้หวัน โดยเฉพาะในช่วงที่รัฐบาลจีนจัดซ้อมรบในพื้นที่รอบน่านน้ำของไต้หวัน พร้อมทั้งข่มขู่ไต้หวันทั้งทางวาจาและกำลังอาวุธ ทั้งนรม. Briceño Mr. Eamon Courtenay รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ Ms. Valerie Woods ประธานรัฐสภา ต่างก็ได้ให้การสนับสนุนไต้หวันอย่างเปิดเผย โดยท่ามกลางช่วงเวลาที่มีความสำคัญเช่นนี้ รองปธน.ไล่ฯ ได้หยิบยกหัวข้องานเฉลิมฉลองเนื่องในวาระครบรอบ 41 ปีแห่งวันประกาศอิสรภาพของเบลีซ ที่ว่า “องอาจกล้าหาญ ภาคภูมิใจและแข็งแกร่ง” (Valiant and Bold, Proud and Strong) เพื่อแสดงให้เห็นถึงจุดยืนของไต้หวัน รองปธน.ไล่ฯ แถลงว่า ไต้หวันจะรับมือกับภัยคุกคามจากจีนด้วยความเยือกเย็น ความมีเหตุผลและจะไม่ยั่วยุให้เกิดประเด็นพิพาทใดๆ รวมถึงจะไม่เพิ่มความตึงเครียดให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างกัน แต่จะสู้สุดกำลังเพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศ และธำรงรักษาประชาธิปไตยและเสรีภาพ ให้คงอยู่ต่อไป