กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 15 ก.ย. 65
เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์แก่ Mr. Philippe Leblanc ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ภาคภาษาฝรั่งเศสที่ประจำการอยู่ในภูมิภาคเอเชียของบรรษัทกระจายเสียงแคนาดา (CBC) โดยรมวอู๋.ฯ ได้ชี้แจงในประเด็นเชิงลึก อาทิ ภัยคุกคามไต้หวันจากจีน การผนึกกำลังสามัคคีของกลุ่มประเทศประชาธิปไตย และความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - แคนาดา ซึ่งเนื้อหาบทสัมภาษณ์ได้ถูกตีพิมพ์ในหัวข้อ “การแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการ” ผ่านรายการข่าว CBC และช่องทางอินเทอร์เน็ตที่หลากหลาย เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ตามเวลาในไต้หวัน
เนื้อหาบทสัมภาษณ์ระบุว่า ในวาระที่นายวลาดิเมียร์ ปูติน (Vladimir Putin) ผู้นำรัสเซีย และนายสีจิ้นผิง ผู้นำจีน จะเข้าพบปะหารือกันอย่างเป็นทางการในเร็ววันนี้ รมว.อู๋ฯ ได้แสดงจุดยืนและเรียกร้องต่อประชาคมโลกว่า นอกจากจีนจะต้องการมีบทบาทสำคัญในเวทีโลกแล้ว ยังต้องการที่จะขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการไปสู่ทั่วโลกด้วยเช่นกัน การบุกโจมตียูเครนของรัสเซียในช่วงที่ผ่านมา สร้างความวิตกกังวลแก่ประชาคมโลกเป็นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้น แสนยานุภาพทางกลาโหมของจีน ยิ่งมีอานุภาพทำลายล้างมากกว่ารัสเซียเป็นทวีคูณ ด้วยเหตุนี้ กลุ่มประเทศประชาธิปไตยจึงควรประสานสามัคคี เพื่อให้การต่อต้านและสกัดกั้นการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
รมว.อู๋ฯ เห็นว่า การธำรงรักษาสถานภาพเดิมของสองฝั่งช่องแคบไต้หวันเป็นนโยบายเพียงหนึ่งเดียวของไต้หวัน และเป็นกุญแจสำคัญในการคงไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพ อีกทั้งยังสอดคล้องต่อผลประโยชน์ร่วมกันของทุกฝ่าย โดยจีนมักจะชี้แจงบนเวทีนานาชาติอยู่บ่อยครั้งว่า ประชาชนชาวไต้หวันไม่ยอมรับรูปแบบ “1 ประเทศ 2 ระบบ” พร้อมทั้งประกาศแจ้งอย่างเปิดเผยว่า จีนจะไม่ละเว้นการใช้กำลังทางทหารเข้าครอบครองไต้หวัน หากมีความจำเป็น อย่างไรก็ตาม ไต้หวันเป็นเพียงส่วนหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์การแผ่ขยายอิทธิพลโดยภาพรวมของจีน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา จีนยังได้เข้าแทรกแซงสถานการณ์ความขัดแย้งในน่านน้ำทะเลจีนตะวันออก อีกทั้งส่งเรือรบเข้าลาดตระเวณในน่านน้ำทะเลจีนใต้ และทำการฝึกซ้อมรบในพื้นที่ระยะห่วงโซ่ที่ 1 (First Island Chain) ทางฝั่งตะวันออก และล่าสุดจีนและโซโลมอนได้มีการลงนามในข้อตกลงด้านความมั่นคง หรือแม้กระทั่งการที่จีนแผ่อิทธิพลไปสู่ศรีลังกาและพื้นที่มหาสมุทรอินเดีย ซึ่งล้วนแสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานของจีนที่ส่งผลกระทบไปสู่ทั่วโลก
รมว.อู๋ฯ ย้ำว่า เพื่อสกัดกั้นแผนการรุกรานจากประเทศอำนาจเผด็จการอย่างจีน ไต้หวันจะแสวงหาพลังสนับสนุนจากกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน ซึ่งพวกเราเชื่อมั่นว่า พลังการสนับสนุนอันแข็งแกร่งของประชาคมโลก จะเป็นปัจจัยสำคัญในการสกัดกั้นการรุกล้ำไต้หวันด้วยกำลังทางทหารจากจีนได้ โดยในต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จีนได้ดำเนินการซ้อมรบในพื้นที่รอบน่านน้ำของไต้หวัน แต่ผู้นำในกลุ่มประเทศประชาธิปไตยต่างก็ไม่หวาดหวั่นต่อแรงกดดันจากจีน และได้จัดคณะผู้แทนเดินทางมาเยือนไต้หวันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การสนับสนุนไต้หวันอย่างเป็นรูปธรรม โดยรมว.อู๋ฯ ได้แสดงการต้อนรับและชักชวนให้มิตรสหายจากแคนาดาและประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันเดินทางมาเยือนไต้หวันอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนคาดหวังที่จะเห็นไต้หวันและแคนาดา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ ระหว่างหน่วยงานบริหาร รัฐสภาและเจ้าหน้าที่คลังสมองแห่งชาติ อย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นต่อไป
รมว.อู๋ฯ เผยว่า ไต้หวัน – แคนาดาต่างให้ความสำคัญกับค่านิยมด้านเสรีภาพ ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน พร้อมเปี่ยมด้วยวัฒนธรรมอันหลากหลาย โดยนอกจากทั้งสองประเทศจะเสริมสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าอย่างต่อเนื่องแล้ว แคนาดายังได้ส่งเรือรบแล่นผ่านพื้นที่ภูมิภาคอินโด – แปซิฟิกเพื่อปฏิบัติภารกิจ “รักษาเสรีภาพการเดินเรือ” แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญต่อภูมิภาคอินโด – แปซิฟิกของรัฐบาลแคนาดา โดยไต้หวันคาดหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะยกระดับความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนระหว่างสองประเทศอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ยุทธศาสตร์อินโด – แปซิฟิกที่แคนาดากำหนดไว้
การประชุมใหญ่ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) เป็นการประชุมนานาชาติที่จัดขึ้น 3 ปีครั้ง เตรียมเปิดฉากขึ้น ณ เมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา ในช่วงปลายเดือนนี้ โดยรมว.อู๋ฯ ได้ใช้โอกาสนี้ขอบคุณรัฐบาลแคนาดา ที่ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมอย่างมีความหมายในองค์การระหว่างประเทศ อย่าง ICAO และ “องค์การอนามัยโลก” (WHO) พร้อมนี้ รมว.อู๋ฯ ยังขอเรียกร้องให้รัฐบาลแคนาดาให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าเป็นส่วนหนึ่งใน “ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP)” โดยไต้หวันได้เคารพตามกฎระเบียบทางการค้าเสรีตามมาตรฐานขั้นสูง ซึ่งการเข้าร่วมของไต้หวันจะมีส่วนช่วยในการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและการค้าแบบพหุภาคีในภูมิภาคต่อไป
บรรษัทกระจายเสียงแคนาดา (CBC) เป็นกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ของแคนาดาที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานที่สุด ซึ่งสาธารณชนสามารถรับชมผ่านสถานีโทรทัศน์ข่าวทั่วทุกพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง นับเป็นสื่อที่ทรงอิทธิพลเป็นอย่างยิ่งในหมู่ปัญญาชนและเจ้าหน้าที่แวดวงทางการเมือง ธุรกิจและนักวิชาการของแคนาดา
