กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 23 ก.ย. 65
 
เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา นายอวี๋ต้าเหลย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะตัวแทนของนายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีการร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ (MoU) และความตกลง รวม 6 รายการ ระหว่างไต้หวัน - เช็ก ในด้านเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ การศึกษา วัฒนธรรม สถาบันอุดมศึกษาและพิพิธภัณฑ์ เป็นต้น โดยมี Mr. Jiří Drahoš ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม สิทธิมนุษยชนและการร้องเรียน แห่งวุฒิสภาสาธารณรัฐเช็ก Ms. Radka Wildová รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ Ms. Jana Havlikova รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เข้าร่วมด้วย เพื่อเปิดบริบทหน้าใหม่ในการเสริมสร้างความร่วมมือและแลกเปลี่ยนในด้านต่างๆ ระหว่างทั้งสองฝ่ายอย่างต่อเนื่อง
 
ในช่วงแรก รมช.อวี๋ฯ ได้กล่าวขอบคุณ Mr. Drahoš ที่แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนไต้หวันอย่างหนักแน่น ด้วยการเดินทางเยือนไต้หวันท่ามกลางสถานการณ์ที่จีนดำเนินการซ้อมรบบริเวณน่านฟ้าและน่านน้ำของไต้หวัน พร้อมทั้งข่มขู่ไต้หวันทั้งทางวาจาและกำลังทหาร พร้อมนี้ รมช.อวี๋ฯ ยังได้ให้การยอมรับต่อความมุ่งมั่นร่วมกันระหว่างไต้หวัน - เช็ก ที่ได้กระตุ้นให้เกิดการลงนามใน MoU และความตกลงร่วมกันหลายฉบับในการเดินทางมาเยือนในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน รวมไปถึงการเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนทางค่านิยมและความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทานในกลุ่มประเทศประชาธิปไตย ผ่านการร่วมมือและแลกเปลี่ยนในด้านเทคโนโลยี การศึกษาและวัฒนธรรม เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อธำรงไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยและวิถีชีวิตแห่งเสรีภาพ โดยในช่วงท้าย รมช.อวี๋ฯ ยืนยันหนักแน่นว่า รัฐบาลไต้หวันจะประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลเช็กเกียอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายก้าวสู่บริบทใหม่ต่อไป
 
Mr. Drahoš กล่าวขณะปราศรัยว่า ตลอดระยะเวลาที่คณะตัวแทนพำนักอยู่ในไต้หวัน ต่างสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและเป็นกันเองเสมือนว่าอยู่ในประเทศบ้านเกิดของตน โดยการเดินทางในครั้งนี้ ตนได้เชิญเจ้าหน้าที่ภาครัฐและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี การศึกษา วัฒนธรรม การแพทย์ การป้องกันโรคระบาดและความมั่นคงทางไซเบอร์ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในคณะตัวแทน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นความสัมพันธ์ทางความร่วมมือแบบเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน ให้มีความใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ Mr. Drahoš ยังชี้ว่า ตนรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) รวมถึงเข้าพบปะพูดคุยกับนายซูเจินชาง นายกรัฐมนตรี นายโหยวซีคุณ ประธานสภานิติบัญญัติ และนายอู๋เจาเซี่ย รมว.กต.ไต้หวัน และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนหารือกันในทุกด้านอย่างใกล้ชิด เชื่อว่าจะสามารถสร้างคุณประโยชน์ในด้านการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่าย ให้เป็นไปในเชิงลึกได้อย่างแน่นอน
 
Mr. Drahoš และคณะรวม 14 คน มีกำหนดการเยือนไต้หวันในช่วงระหว่างวันที่ 18 – 23 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งบังเกิดผลสัมฤทธิ์มากมาย โดยในระหว่างนี้ คณะตัวแทนยังได้สัมผัสประสบการณ์การเยี่ยมชมโครงสร้างพื้นฐานทางการเมืองและเศรษฐกิจ รวมทั้งเข้าสัมผัสถึงวัฒนธรรมประเพณีของไต้หวัน โดยเชื่อว่าการลงนาม MoU และความตกลงรวม 6 ฉบับร่วมกันในครั้งนี้ จะมีส่วนช่วยในการรักษาความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจและประชาธิปไตยระหว่างสองประเทศ นอกจากนี้ ยังเป็นการวางรากฐานความร่วมมือเชิงลึกที่สำคัญในด้านเทคโนโลยี การศึกษาและวัฒนธรรมในภายภาคหน้าต่อไป