ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 28 ก.ย. 65
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 28 ก.ย. ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เดินทางเยือนนครเกาสง เพื่อเข้าร่วม “การประชุมประจำปีของสภาหอการค้าไต้หวันแห่งโลก (World Taiwanese Chambers of Commerce, WTCC) สมัยที่ 28 และพิธีเปิดการประชุมคณะกรรมการบริหาร ครั้งที่ 3” โดยปธน.ไช่ฯ ได้ให้การยอมรับต่อผู้ประกอบการชาวไต้หวันว่าเป็นผู้นำทางอุตสาหกรรมในทุกแวดวง เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมไต้หวันให้ก้าวขึ้นสู่เวทีนานาชาติ โดยปธน.ไช่ฯ หวังว่า เราต้องทำให้ทั่วโลกมองเห็นทั้งพลังแห่งความดีและประจักษ์เห็นถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจของไต้หวัน เพื่อก้าวสู่การมีบทบาทสำคัญในกลไกทางเศรษฐกิจระดับโลกต่อไป
ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้ประกาศผ่อนมาตรการควบคุมพรมแดนทีละขั้น เพื่อบรรลุตามแผนการเปิดประเทศในเร็ววันนี้ เชื่อว่าทุกคนล้วนคาดหวังที่จะกลับไปใช้ชีวิตในแบบปกติโดยเร็ววัน
ปธน.ไช่ฯ กล่าวอีกว่า ตนขอเป็นตัวแทนรัฐบาลให้การต้อนรับทุกคน และขอบคุณ WTCC ที่สรรค์สร้างโอกาสให้เราได้ร่วมแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน โดยในการประชุมครั้งนี้ มีมิตรสหายจากสหรัฐฯ เดินทางมาเข้าร่วมด้วย โดยปธน.ไช่ฯ ยังจำได้ว่า เมื่อเดือนมี.ค. ปีนี้ ในระหว่างที่ Mr. Michael R. Pompeo อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้เดินทางเข้าพบที่ทำเนียบปธน. ปธน.ไช่ฯ ได้เชิญชวนให้ Mr. Pompeo เดินทางมาเยือนไต้หวันให้มากขึ้น ทำให้ปธน.ไช่ฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้มีโอกาสพบปะกันอีกครั้งในระยะเวลาอันสั้น
ปธน.ไช่ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนขอเป็นตัวแทนชาวไต้หวันในการต้อนรับการมาเยือนของอดีตรมว. Pompeo , Mr. Stephen Yates อดีตผู้ช่วยที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของอดีตรองประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ และ Mr. Whiton อดีตที่ปรึกษาระดับอาวุโสของกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหรัฐฯ โดยปธน.ไช่ฯ ได้แสดงความขอบคุณสำหรับการให้ความสำคัญและการสนับสนุนที่พวกเขามีต่อไต้หวัน ซึ่งกำหนดการเดินทางเยือนไต้หวันในครั้งนี้ คณะตัวแทนได้เดินทางเข้าเยี่ยมชมกิจการของภาคเอกชนในนครเกาสง เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนกับเหล่าผู้ประกอบการไต้หวันในแวดวงอุตสาหกรรม เชื่อว่าทั้งสองฝ่ายจะได้รับผลประโยชน์ร่วมกันอย่างแน่นอน นอกจากนี้ ปธน.ไช่ฯ ยังคาดหวังที่จะเห็นไต้หวัน - สหรัฐฯ เปิดฉากความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนระหว่างกันที่มากยิ่งขึ้น โดยปธน.ไช่ฯ ยังได้ใช้โอกาสนี้ แสดงความขอบคุณต่อมิตรสหายผู้ประกอบการชาวไต้หวันที่ร่วมมุ่งมั่นผลักดันกิจการทางการทูตควบคู่ไปด้วย เพื่อส่งเสริมให้นานาประเทศรู้จักไต้หวันเพิ่มมากขึ้น
ปธน.ไช่ฯ ระบุว่า ในช่วงเริ่มต้นของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 เหล่าสมาชิกของ WTCC ต่างร่วมบริจาคเงินและเวชภัณฑ์รวมทั้งสิ่งของจำเป็น เพื่อช่วยเหลือนานาประเทศทั่วโลกในการสกัดกั้นโรคระบาด และเมื่อยูเครนถูกรัสเซียรุกราน เหล่าสมาชิกก็ได้รวมกลุ่มกันเดินทางไปให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยยูเครนยังประเทศโปแลนด์ จึงเห็นได้ว่า มิตรสหายจาก WTCC ต่างก็ยืนอยู่แนวหน้าเพื่อยื่นมือให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ปธน.ไช่ฯ “ขอขอบคุณทุกคนเป็นอย่างมาก”
ปธน.ไช่ฯ ยังระบุอีกว่า พวกเราคาดหวังที่จะมุ่งมั่นร่วมกับทุกคน ในการขยายแผนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจและการค้าของไต้หวันไปสู่ทั่วโลก โดยรัฐบาลรู้สึกห่วงใยต่อสถานการณ์ที่ทุกคนต้องเผชิญหน้าในต่างแดน จึงได้จัดวางแผนฟื้นฟูเยียวยา เพื่อช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการก้าวผ่านอุปสรรคและความท้าทายจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 โดยคณะกรรมการกิจการชาวจีนโพ้นทะเล สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) จะเฝ้าจับตามองอย่างใกล้ชิดต่อความท้าทายที่ทุกคนต้องเผชิญหน้าหรือประสบกับปัญหาด้านการบริหารงานในต่างแดน เพื่อให้การสนับสนุนแก่ทุกคนอย่างเต็มที่ในขอบเขตที่สามารถช่วยเหลือได้
ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า ขณะนี้ ไต้หวันยังคงมุ่งหน้าพัฒนาเพื่อก้าวสู่ประชาคมโลกอย่างต่อเนื่อง และนานาประเทศทั่วโลกต่างก็เดินเข้าหาไต้หวัน พร้อมทั้งเห็นความสำคัญของไต้หวันเพิ่มมากขึ้น ตราบจนถึงเดือนกันยายนปีนี้ ยอดสะสมการลงทุนรวม ภายใต้ “โครงการการลงทุนในไต้หวัน 3 โครงการ” มีมูลค่ารวม 1.8 ล้านล้านเหรียญไต้หวันจากองค์กรธุรกิจจำนวน 1,250 ราย
โดยปธน.ไช่ฯ ได้หยิบยกกรณีตัวอย่างของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของไต้หวัน ที่เป็นไฮไลท์หลักซึ่งนานาประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญ โดยแขกอาคันตุกะจากต่างประเทศจำนวนมากที่เดินทางมาเยือนไต้หวัน รวมถึงคณะตัวแทนของเช็กเกียที่เดินทางมาเยือนเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ต่างก็แสดงเจตนารมณ์ต่อปธน.ไช่ฯ อย่างชัดเจนว่า คาดหวังที่จะเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนทางอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กับไต้หวันในเชิงลึก โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลก็ได้มุ่งมั่นยกระดับจุดเด่นของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งรวมถึงการก่อตั้งสถาบันวิจัยเซมิคอนดักเตอร์ ที่ได้ประสานความร่วมมือกับ 6 สถาบันระดับอุดมศึกษาในประเทศ เพื่อเร่งบ่มเพาะบุคลากร ซึ่งในขณะเดียวกัน พวกเราก็ได้มุ่งมั่นสรรค์สร้างให้เกิดเป็นคลัสเตอร์ของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในไต้หวัน
ปธน.ไช่ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ช่วง 2 ปีมานี้ นายเฉินฉีม่าย ผู้ว่าการนครเกาสงได้เร่งผลักดันภารกิจที่หลากหลาย เพื่อส่งเสริมให้เกาสง ก้าวสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะด้านเทคโนโลยีขั้นสูงในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเมื่อเดือนที่แล้ว นิคมอุตสาหกรรมในเขตหนานจื่อของนครเกาสง ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานในเครือบริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) ได้เสร็จสิ้นการจัดพิธีวางศิลาฤกษ์แล้ว คาดว่าจะเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการในปี 2024 ซึ่งในช่วงต้นคาดการณ์ว่ามูลค่าการผลิตต่อปีจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 150,000 ล้านเหรียญไต้หวัน เชื่อว่า หลายคงคิดเห็นเหมือนตน ที่เห็นถึงการพัฒนาที่ดีในอนาคตของนครเกาสง
ปธน.ไช่ฯ ชี้ว่า นอกจากในส่วนของเซมิคอนดักเตอร์แล้ว “กระทรวงพัฒนาดิจิทัล” ก็ได้ถูกจัดตั้งขึ้นเมื่อเดือนที่แล้วเช่นกัน โดยพวกเรามุ่งมั่นที่จะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการในภาคธุรกิจให้เปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล และเพื่อเสริมสร้างให้สภาพแวดล้อมการพัฒนาทางเศรษฐกิจดิจิทัลของไต้หวัน มีความสมบูรณ์เพิ่มมากขึ้น อันจะเป็ฯการส่งเสริมการพัฒนาของภาคอุตสาหกรรมต่อไป