กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 4 ต.ค. 65
เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา นายอู่เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้จัดเลี้ยงอาหารค่ำต้อนรับ Mr. Klaus-Peter Willsch ประธานกลุ่มพันธมิตรไต้หวันแห่งรัฐสภาเยอรมนี และคณะผู้แทนจากกลุ่มพันธมิตรไต้หวันในรัฐสภาเยอรมนี โดยรมว.อู๋ฯ เริ่มต้นด้วยการกล่าวแสดงความยินดีด้วยใจจริงที่ได้มีโอกาสต้อนรับคณะผู้แทนที่เป็นสมาชิกรัฐสภาเยอรมนี ซึ่งเดินทางมาเยือนไต้หวันเป็นกลุ่มแรกในรอบ 3 ปี พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณที่เยอรมนีให้การสนับสนุนไต้หวันอย่างเต็มที่ ตลอดจนให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนแบบทวิภาคี บนพื้นฐานค่านิยมที่ยึดมั่นร่วมกันเสมอมา
สมาชิกคณะผู้แทนในครั้งนี้ ประกอบด้วย ประธานและรองประธานกลุ่มพันธมิตรไต้หวันแห่งรัฐสภาเยอรมนี และสมาชิกรัฐสภาจาก 6 พรรคการเมืองของเยอรมนี แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพอันดีที่รัฐสภาเยอรมนีมีต่อไต้หวัน โดยรมว.อู๋ฯ กล่าวอีกว่า ไต้หวันและเยอรมนี เป็นพันธมิตรที่ยึดมั่นในเสรีภาพ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชนและหลักธรรมาภิบาลเช่นเดียวกัน โดยทั้งสองฝ่ายได้ร่วมแลกเปลี่ยนและประสานความร่วมมือในด้านต่างๆ มากมาย ทั้งเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การศึกษาและวิจัยเชิงวิทยาศาสตร์ เป็นต้น
รมว.อู๋ฯ ย้ำว่า ขณะนี้ทั่วโลกต้องเผชิญหน้ากับการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการ โดยกลุ่มประเทศลัทธิอำนาจนิยม ซึ่งต้องการทำลายความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของกฎกติกาสากล นอกจากสถานการณ์การบุกโจมตียูเครนของรัสเซียแล้ว จีนยังใช้ข้ออ้างจากการเดินทางมาเยือนไต้หวันของ Ms. Nancy Pelosi ประธานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ มาจุดชนวนในการซ้อมรบและข่มขู่ไต้หวันด้วยกำลังทหาร โดยมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนแปลงสถานภาพเดิมของสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน ตลอดจนคุกคามสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จีนได้คุกคามและขัดขวางไต้หวันมิให้เข้าร่วมในองค์การระหว่างประเทศ เพื่อต้องการกีดกันให้ไต้หวันอยู่นอกระบบต่างๆ ในประชาคมโลก อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลและประชาชนเยอรมันให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมในองค์การอนามัยโลก และองค์การระหว่างประเทศต่างๆ อย่างเต็มที่ ประกอบกับการเดินทางมาเยือนไต้หวันท่ามกลางสถานการณ์ที่มีความสุ่มเสี่ยง อันเนื่องมาจากการที่ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายจากจีนอย่างมิสามารถคาดเดาได้ แสดงให้เห็นถึงพลังสนับสนุนอันหนักแน่นจากรัฐบาลเยอรมนีที่มีต่อไต้หวัน นอกจากรมว.อู๋ฯ จะกล่าวแสดงความขอบคุณแล้ว ยังคาดหวังที่จะเห็นทั้งสองฝ่ายสร้างความร่วมมือแบบทวิภาคีในเชิงลึกระหว่างกันด้วย ทั้งนี้ เพื่อธำรงรักษาเสรีภาพ การเปิดกว้าง สันติภาพและเสถียรภาพในพื้นที่สองฝั่งช่องแคบไต้หวันและภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก ให้คงอยู่สืบต่อไป
Mr. Willsch กล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรไต้หวันได้วางแผนการเดินทางเยือนไต้หวันมาเป็นเวลานานแล้ว แต่ถูกเลื่อนออกไปเนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 และการเลือกตั้งครั้งใหญ่ในเยอรมนีที่จัดขึ้นในปี 2021 โดยการเดินทางในครั้งนี้ Mr. Willsch และรองประธานจากทุกพรรคการเมือง ต่างเอาชนะอุปสรรคนานาประการที่ขวางหน้า เพื่อบรรลุเป้าหมายการเดินทางมาเยือนไต้หวัน ซึ่งนอกจากจะแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวของกลุ่มพันธมิตรไต้หวันในรัฐสภาเยอรมนีแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงการให้ความสนับสนุนไต้หวันอย่างเป็นรูปธรรมอีกด้วย
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเชิงกว้างในประเด็นการค้าเสรีแบบทวิภาคีระหว่างไต้หวัน – เยอรมนี นโยบายพลังงานหมุนเวียนของไต้หวัน การซื้อขายสิทธิ์ในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การรับมือกับปัญหาการขาดแคลนพลังงานในช่วงฤดูหนาวที่หนาวจัดในเยอรมนี ประสบการณ์การเปลี่ยนผ่านจากพลังงานแบบดั้งเดิมสู่พลังงานหมุนเวียนของเยอรมนี และการซ้อมรบในพื้นที่สองฝั่งช่องแคบของจีน เพื่อแบ่งปันมุมมองที่หลากหลายระหว่างกัน
ในช่วงท้าย รมว.อู๋ฯ ได้อวยพรให้ Mr. Willsch และคณะ ประสบความสำเร็จในการเดินทางเยือนไต้หวันในครั้งนี้ พร้อมทั้งเชิญชวนให้เข้าร่วมสัมผัสกับประเพณีและวัฒนธรรมที่เข้าถึงได้ง่ายของไต้หวัน ตลอดจนคาดหวังว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันและเยอรมนี จะได้รับการพัฒนาในเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง บนพื้นฐานอันแข็งแกร่งที่มีอยู่เดิมต่อไป