ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 11 ต.ค. 65
 
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 11 ต.ค. ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับ “คณะตัวแทนของ Ms. Judy Sgro ประธานสมาคมความสัมพันธ์อันดีระหว่างสมาชิกรัฐสภาไต้หวัน - แคนาดา และประธานคณะกรรมาธิการการค้าแห่งสภาผู้แทนราษฎรของแคนาดา” โดยปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า ไต้หวัน – แคนาดาเป็นพันธมิตรด้านการค้าที่สำคัญระหว่างกัน จึงคาดหวังที่จะเห็นทั้งสองประเทศเสริมสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าระหว่างกัน ในเชิงกว้างมากยิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันต่อไป โดยปธน.ไช่ฯ ยังใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อแคนาดาที่ให้ความสำคัญและให้การสนับสนุนไต้หวันอย่างหนักแน่นเสมอมา พร้อมคาดหวังที่จะเห็นทั้งสองประเทศเร่งเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนในด้านต่างๆ ในเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งประสานความร่วมมือในการธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก ให้คงอยู่สืบต่อไป
 
ปธน.ไช่ฯ กล่าวขณะปราศรัยว่า ข้าพเจ้ารู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้มีโอกาสพบปะกับ Ms. Judy Sgro และ Mr. Angelo Iacono สองสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของแคนาดาอีกครั้ง และขอต้อนรับ Mr. Simon-Pierre Savard-Tremblay , Mr. Richard Martel และ Mr. Chris Lewis สำหรับการเดินทางมาเยือนไต้หวันในครั้งนี้ด้วยใจจริง
 
ปธน.ไช่ฯ ระบุว่า ในครั้งนี้ Ms. Sgro นำคณะตัวแทนเดินทางมาเยือนไต้หวันในฐานะ “ประธานสมาคมความสัมพันธ์อันดีระหว่างสมาชิกรัฐสภาไต้หวัน - แคนาดา” และ “ประธานณะกรรมาธิการการค้าแห่งสภาผู้แทนราษฎรของแคนาดา” เพื่อเข้าร่วมพิธีฉลองวันชาติสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ซึ่งมีนัยยะสำคัญต่อการแลกเปลี่ยนแบบทวิภาคีระหว่างไต้หวัน - แคนาดาเป็นอย่างมาก ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่รัฐสภาแคนาดารวบรวมคณะตัวแทนเดินทางเยือนไต้หวัน หลังสถานการณ์โรคโควิด – 19 ที่กินเวลากว่า 2 ปีเศษ ปธน.ไช่ฯ จึงขอต้อนรับการมาเยือนของมิตรสหายจากแดนไกลในครั้งนี้ด้วยใจจริง โดยในวันที่ 13 ต.ค. ที่จะถึงนี้ ไต้หวันก็จะเปิดประเทศอย่างเป็นทางการแล้ว เชื่อว่าจะสามารถฟื้นฟูการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศกับพันธมิตรจากทั่วโลกได้เฉกเช่นเดิม
 
ปธน.ไช่ฯ เน้นย้ำว่า ไต้หวัน – แคนาดาเป็นพันธมิตรด้านการค้าที่สำคัญระหว่างกัน โดยกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียทั้งหมด ไต้หวันถือเป็นประเทศที่มีการพัฒนาทางการค้าแบบทวิภาคีกับแคนาดาได้อย่างรุดหน้ามากที่สุด เฉพาะในปีที่แล้ว มูลค่าการค้าแบบทวิภาคีระหว่างไต้หวัน – แคนาดา สามารถทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ต่อเนื่องจากในปี ค.ศ. 1995 เป็นต้นมา
 
ปธน.ไช่ฯ เผยว่า เมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้ ไต้หวัน – แคนาดาได้ร่วมประกาศเปิดการอภิปรายเชิงสำรวจว่าด้วย “ความตกลงว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ (Foreign Investment Promotion and Protection Agreement, FIPA)” จากการร่วมลงนามความตกลงฉบับนี้ จะส่งผลให้ทั้งสองประเทศร่วมพัฒนาสภาพแวดล้อมด้านการลงทุนที่เปิดกว้าง  โปร่งใสและเป็นมิตร ตลอดจนเป็นการเสริมสร้างความเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจและการค้าแบบทวิภาคีในเชิงลึกมากยิ่งขึ้น
 
ปธน.ไช่ฯ ยังระบุว่า ในปีที่แล้ว ไต้หวันได้ยื่นเรื่องขออนุมัติเข้าร่วม “ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก” (Comprehensive and Progressive Agreement of Trans-Pacific Partnership, CPTPP) อย่างเป็นทางการ ไต้หวัน – แคนาดามีข้อได้เปรียบที่สามารถเกื้อหนุนซึ่งกันและกันได้ในด้านเศรษฐกิจ พวกเราคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า แคนาดาจะร่วมให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วม CPTPP เพื่อส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าที่เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น อันจะนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันสืบต่อไป
 
ปธน.ไช่ฯ ยังระบุอีกว่า รัฐบาลแคนาดาร่วมเป็นกระบอกเสียงให้การสนับสนุนไต้หวันในเวทีนานาชาติอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสนับสนุนให้ไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศ ปธน.ไช่ฯ ขอทำหน้าที่เป็นตัวแทนภาคประชาชนชาวไต้หวัน แสดงความขอบคุณอย่างสูงสุดด้วยใจจริง
 
Ms. Sgro เริ่มต้นกล่าวปราศรัยด้วยการแสดงความชื่นชมต่อการจัดพิธีเฉลิมฉลองเนื่องในวาระครบรอบ 111 ปีของการก่อตั้งสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้อย่างสวยงามอลังการ โดย Ms. Sgro ได้แสดงจุดยืนว่า ข้าพเจ้ารักไต้หวันและประชาชนชาวไต้หวัน พร้อมเห็นว่าประชาชนชาวไต้หวันหลายคนรู้สึกภาคภูมิใจต่อสถานภาพของตนเอง และรู้สึกภาคภูมิใจต่อผลสัมฤทธิ์ที่เกิดจากความมุ่งมั่นของคณะรัฐบาล
 
Ms. Sgro กล่าวว่า ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินได้แสดงจุดยืนในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเขาจะนำสาระสำคัญกลับไปแบ่งปันสู่เหล่ารัฐมนตรีของแคนาดาต่อไป โดยปธน.ไช่ฯ ได้ชี้แจงถึงภารกิจสำคัญที่จำเป็นต้องจัดเรียงลำดับก่อน - หลัง ซึ่งสอดคล้องกับประเด็นที่รัฐบาลแคนาดาให้ความสนใจ หากอ้างอิงในมุมมองของรัฐบาลแคนาดา ไต้หวันเป็นประเทศที่มีผลประโยชน์เกี่ยวพันที่สำคัญของแคนาดา ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่ทั้งสองประเทศสามารถเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน มิใช่เพียงการเป็นผู้รับหรือผู้ให้ในทิศทางเดียว โดยไต้หวันถือเป็นพันธมิตรที่มีคุณค่าสำคัญของประชาคมโลก และเป็นประภาคารที่เปี่ยมด้วยเสถียรภาพและความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ อีกทั้งยังเป็นประเทศที่กล้าก้าวออกมาให้การสนับสนุนผู้อื่นอย่างไม่หวั่นเกรงต่ออำนาจเผด็จการ
 
Ms. Sgro แถลงว่า  ผลสัมฤทธิ์ด้านการป้องกันโรคระบาดของไต้หวัน ส่งเสริมให้ทั่วโลกประจักษ์เห็นถึงความมุ่งมั่นและความสามารถของไต้หวันได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่ผลสัมฤทธิ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่ทั่วโลกยังสามารถเล็งเห็นถึงขีดความสามารถที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน และผลสัมฤทธิ์ที่อาจก่อตัวขึ้นในอนาคตด้วยพลังศักยภาพของไต้หวัน อีกทั้งยังเป็นการสื่อให้เห็นว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งที่มิสามารถขาดได้ในด้านสันติภาพและเสถียรภาพทั่วโลก
 
Ms. Sgro กล่าวว่า  ไต้หวันยังได้ยื่นมือให้ความช่วยเหลือแก่ยูเครนหลังจากที่ถูกรัสเซียรุกราน  อาทิ การบริจาคเงินและสิ่งของจำเป็นให้แก่ผู้ลี้ภัยชาวยูเครน Ms. Sgro จึงขอแสดงความขอบคุณในฐานะตัวแทนทั่วโลกและชาวยูเครนในแคนาดา โดยไต้หวันยังคงสามารถยืนหยัดได้ด้วยตนเองท่ามกลางสถานการณ์อันผกผัน จึงถือเป็นประภาคารแห่งความหวังสำหรับหลายๆ คน
 
Ms. Sgro ชี้ว่า ไต้หวันสำแดงให้เห็นถึงแนวทางการเคารพต่อกฎระเบียบที่ระบุในกรอบข้อตกลง CPTPP อย่างรัดกุม Ms. Sgro เชื่อว่า ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มพันธมิตรไต้หวันในรัฐสภาแคนาดาหรือสมาชิกรัฐสภากลุ่มอื่นๆ ต่างก็คาดหวังที่จะเห็นไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมใน CPTPP โดยเร็ววัน
 
“ความตกลงว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ (FIPA) ก็มีความสำคัญเป็นอย่างมากเช่นกัน Ms. Sgro รับทราบว่า รัฐมนตรีของทั้งสองประเทศต่างร่วมหารือในการอภิปรายเชิงสำรวจที่เกี่ยวข้อง ระหว่างกันอย่างราบรื่น โดยโอกาสเช่นนี้ถือเป็นโอกาสด้านการลงทุนที่สำคัญสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการของทั้งสองประเทศ ความสัมพันธ์แบบทวิภาคีระหว่างไต้หวัน - แคนาดา ก็มีความสำคัญ และสมควรที่จะเสริมสร้างให้เป็นไปในเชิงลึกต่อไป เพื่อให้ผลสัมฤทธิ์ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างสองประเทศเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก
 
Ms. Sgro เชื่อมั่นว่า ไต้หวัน – แคนาดามีโอกาสทางความร่วมมือในด้านยุทธศาสตร์อินโด – แปซิฟิก ซึ่งภูมิภาคอินโด – แปซิฟิกเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญ ด้วยเหตุนี้ สันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคนี้จึงมีความสำคัญต่อประชาคมโลกด้วยเช่นกัน