ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 12 ต.ค. 65
 
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 12 ต .ค. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับ “คณะตัวแทนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ” โดยปธน.ไช่ฯ แถลงว่า ไต้หวันยินดีที่จะสร้างความร่วมมือในเชิงลึกกับสหรัฐฯ และพันธมิตรด้านประชาธิปไตยทั่วโลก เพื่อร่วมธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในระดับภูมิภาคและระดับโลก ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า ไต้หวัน – สหรัฐฯ เป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจและความมั่นคงที่สำคัญระหว่างกัน ซึ่งที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายนอกจากจะร่วมผลักดันความตกลงทางการค้ามาตรฐานสูงระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ แล้ว ไต้หวันยังคาดหวังที่จะร่วมลงนาม “ความตกลงว่าด้วยการหลีกเลี่ยงและป้องกันการเก็บภาษีซ้ำซ้อน” (ADTA) กับสหรัฐฯ โดยเร็ววัน เพื่อสรรค์สร้างสภาพแวดล้อมด้านการลงทุนที่เอื้อประโยชน์ต่อกัน เพื่อให้ความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนแบบทวิภาคีเกิดความแนบแน่นมากยิ่งขึ้น ตลอดจนเสริมสร้างให้ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ดำเนินไปอย่างแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
 
ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า คณะตัวแทนกลุ่มนี้นับเป็นกลุ่มสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ กลุ่มที่ 8 ที่เดินทางมาเยือนทำเนียบประธานาธิบดีในปีนี้ โดยเฉพาะเป็นการเดินทางมาเยือนหลังการซ้อมรบของจีนในเดือนส.ค. ที่ผ่านมา ทำให้พวกเราสัมผัสได้ถึงพลังการสนับสนุนอันหนักแน่นของสหรัฐฯ และมิตรภาพของสมาชิกรัฐสภาแบบข้ามพรรคที่มีต่อไต้หวัน
 
หลายเดือนมานี้ ทั่วโลกได้ประจักษ์แล้วว่า การแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการ ส่งผลให้ประชาชนต้องประสบกับความทุกข์ทรมานที่เกิดจากภัยสงคราม ปธน.ไช่ฯ แสดงจุดยืนหนักแน่นว่า ไต้หวันยินดีสร้างความร่วมมือกับสหรัฐฯ และพันธมิตรด้านประชาธิปไตยทั่วโลก เพื่อร่วมธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในระดับภูมิภาคและระดับโลก
 
ปธน.ไช่ฯ เน้นย้ำว่า ไต้หวัน - สหรัฐฯ เป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจและความมั่นคงที่สำคัญระหว่างกัน ปธน.ไช่ฯ จึงขอใช้โอกาสนี้ขอบคุณคณะตัวแทนสมาชิกรัฐสภาที่ร่วมผลักดันแผนข้อเสนอนานาประการ เพื่อสำแดงให้เห็นถึงพลังสนับสนุนที่มีต่อไต้หวันอย่างเต็มที่ เช่น การบริจาควัคซีนให้ไต้หวันของสหรัฐฯ หรือการที่สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ ผลักดัน “ร่างกฎหมายการมอบอำนาจด้านกลาโหม” รวมถึงญัตติอื่นๆ ที่เป็นมิตรต่อไต้หวัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ทุกคนร่วมเป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวัน พร้อมทั้งมุ่งมั่นในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ให้เป็นไปในเชิงลึก ตลอดจนให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศอย่างเต็มที่
 
ปธน.ไช่ฯ รู้สึกขอบคุณสำหรับการที่คณะตัวแทนให้ความสำคัญต่อไต้หวัน รวมถึงการเร่งผลักดันร่างกฎหมายว่าด้วยการเสริมสร้างแสนยานุภาพด้านกลาโหมของไต้หวัน 
 
ปธน.ไช่ฯ ระบุว่า แผนริเริ่มทางการค้าไต้หวัน - สหรัฐฯ แห่งศตวรรษที่ 21 ได้เปิดฉากการประชุมขึ้นแล้วในช่วงที่ผ่านมา โดยทั้งสองฝ่ายต่างประสานงานกันอย่างใกล้ชิด โดยมีกำหนดการจะเปิดการเจรจารอบแรกในเร็ววันนี้ ซึ่งที่ผ่านมา นอกจากทั้งสองฝ่ายจะร่วมผลักดันความตกลงทางการค้ามาตรฐานสูงระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ แล้ว ไต้หวันยังคาดหวังที่จะร่วมลงนาม “ความตกลงว่าด้วยการหลีกเลี่ยงและป้องกันการเก็บภาษีซ้ำซ้อน” (ADTA) กับสหรัฐฯ ในเร็ววัน เพื่อสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมด้านการลงทุนที่เอื้อประโยชน์ต่อกัน ปธน.ไช่ฯ คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สมาชิกรัฐสภาที่อยู่ ณ ที่นี้ จะร่วมให้การสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง
 
Ms. Eddie Bernice Johnson, D-TX ประธานคณะกรรมาธิการด้านวิทยาศาสตร์ อวกาศและเทคโนโลยี แห่งสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกา กล่าวขณะปราศรัยว่า การที่ข้าพเจ้ากำหนดเดินทางมาไต้หวันในสัปดาห์นี้ ก็เพื่อต้องการเข้าร่วมพิธีเฉลิมฉลองวันชาติ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และต้องการเรียกร้องให้ประชาคมโลกตระหนักว่า สหรัฐฯ มีความมุ่งมั่นที่จะยึดถือคำมั่นในการธำรงรักษาไว้ซึ่งเสรีภาพและความมั่นคงในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก มากขึ้นกว่าเมื่อครั้งอดีต ไต้หวันจึงถือเป็นประภาคารแห่งความหวังของประชาธิปไตยในภูมิภาคเอเชียในอนาคต และเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่สำคัญของสหรัฐฯ และพันธมิตรทั่วโลก ซึ่งความสัมพันธ์นี้มีความสำคัญต่อความมั่นคงระดับประเทศและความมั่นคงทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก
 
นอกจากนี้ Ms. Johnson ยังระบุว่า รัฐเท็กซัสและไต้หวันมีความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันมาอย่างยาวนาน บนพื้นฐานของการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว Ms. Johnson จึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ผู้ประกอบการผลิตแผ่นเวเฟอร์ชั้นนำของไต้หวันอย่างบริษัท Global Wafers Co.,Ltd. ประกาศจะทุ่มทุนรวม 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อก่อตั้งโรงงานผลิตในรัฐเท็กซัส ท่ามกลางสถานการณ์ที่ทั่วโลกขาดแคลนแผ่นเวเฟอร์อย่างในปัจจุบัน โดยแผ่นเวเฟอร์ที่ผลิตจากโรงงานแห่งนี้ จะนำมาใช้ในการผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งจะสามารถสร้างตำแหน่งงาน รวม 1,500 ตำแหน่งให้แก่ประชาชนในเมืองเชอร์แมน (Sherman) อีกทั้งยังถือเป็นโรงงานผลิตแผ่นเวเฟอร์แห่งแรกของสหรัฐฯ ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมาด้วย
 
Ms. Johnson กล่าวอีกว่า ในฐานะที่ตนเป็นประธานคณะกรรมาธิการด้านวิทยาศาสตร์ อวกาศและเทคโนโลยี แห่งสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกา จึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เห็นสถาบันอเมริกาในไต้หวัน (AIT) สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำสหรัฐฯ (TECRO) ได้ร่วมลงนามความตกลงทางความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (STA) ระหว่างกันเมื่อปี 2020 โดย Ms. Johnson คาดหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และการวิจัยที่เกี่ยวข้องระหว่างกันต่อไป โดยตราบจนปัจจุบัน ไต้หวัน - สหรัฐฯ ได้ประสานความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมากมาย อาทิ สภาพอากาศ พลังงานนิวเคลียร์ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มะเร็งปอด ชั้นบรรยากาศของโลก สาธารณสุขและเวชศาสตร์การป้องกัน เป็นต้น
 
ในตอนท้าย Ms. Johnson คาดหวังที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างรัฐเท็กซัสและไต้หวัน ให้มีความแนบแน่นยิ่งๆ ขึ้นไป ตลอดจนต้องการที่จะร่วมหารือกับปธน.ไช่ฯ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างโอกาสและอนาคตที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ประชาชนทั้งสองประเทศสืบต่อไป