ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 27 ต.ค. 65
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 27 ต.ค. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับสมาชิกกลุ่มพันธมิตรไต้หวันในรัฐสภายูเครนและสมาชิกรัฐสภาสาธารณรัฐลิทัวเนีย โดยได้เน้นย้ำว่า ไต้หวัน - ยูเครน - ลิทัวเนีย ล้วนเป็นประเทศแนวหน้าที่ต้องเผชิญหน้ากับการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการ ด้วยเหตุนี้ เราจึงเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อสถานการณ์ที่ยูเครนต้องประสบอยู่ในปัจจุบัน โดยไต้หวันจะเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งของยูเครนตลอดไป นอกจากนี้ ปธน.ไช่ฯ ยังได้แสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลลิทัวเนียที่ได้จัดตั้งสำนักงานตัวแทนรัฐบาล ระหว่างไต้หวัน – ลิทัวเนีย ขึ้นในดินแดนของกันและกัน ท่ามกลางการเผชิญหน้าต่อแรงกดดันในระดับสูงจากจีน ทั้งนี้ เพื่อต้องการที่จะรักษามิตรภาพระหว่างไต้หวัน – ลิทัวเนียให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น เชื่อว่าในอนาคต กลุ่มประเทศประชาธิปไตยอย่างไต้หวัน ยูเครนและลิทัวเนีย จะร่วมสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนด้านประชาธิปไตยในเชิงลึก เพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังสามัคคีในการร่วมกันสกัดกั้นการแผ่ขยายของอำนาจเผด็จการ
ปธน.ไช่ฯ ระบุว่า นับตั้งแต่รัสเซียเข้ารุกรานยูเครนเมื่อเดือนก.พ. ที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศของทั่วโลก รวมถึงค่านิยมด้านเสรีภาพและสิทธิมนุษยชน โดยสงครามที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ทำให้พันธมิตรด้านประชาธิปไตยทั่วโลกตระหนักว่า พวกเราจำเป็นต้องสานสามัคคี ในการร่วมกันต่อต้านการแผ่ขยายของอำนาจเผด็จการ
ปธน.ไช่ฯ เน้นย้ำว่า ไต้หวัน ยูเครน และลิทัวเนีย ต่างเป็นประเทศในแนวหน้าที่ต้องเผชิญกับการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการ ด้วยเหตุนี้ เราจึงเกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อสถานการณ์ที่ยูเครนต้องประสบอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งหลังจากที่ไต้หวันได้ทราบข่าว ก็ได้ร่วมประณามรัสเซียที่ทำการรุกรานดินแดนยูเครน พร้อมทั้งประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย ควบคู่ไปพร้อมกับนานาประเทศทั่วโลก ซึ่งไม่เพียงแต่ภาครัฐของไต้หวันที่มุ่งมั่นให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ภาคประชาชนของไต้หวันต่างก็ตอบสนอง ด้วยการเข้าร่วมเป็นหนึ่งในการรับบริจาคสิ่งของจำเป็นอย่างกระตือรือร้น เพื่อส่งมอบความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ภัยให้แก่ผู้ลี้ภัยชาวยูเครนอย่างทันท่วงที
นอกจากนี้ ปธน.ไช่ฯ ยังได้แสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลลิทัวเนีย ที่ได้จัดตั้งสำนักงานตัวแทนรัฐบาล ระหว่างไต้หวัน – ลิทัวเนีย ขึ้น ในดินแดนระหว่างกัน ท่ามกลางการเผชิญหน้าต่อแรงกดดันในระดับสูงจากรัฐบาลจีน ทั้งนี้ เพื่อต้องการที่จะรักษามิตรภาพระหว่างไต้หวัน – ลิทัวเนียให้คงอยู่อย่างยาวนาน โดยบทพิสูจน์เหล่านี้ล้วนแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณแห่งการปกป้องค่านิยมด้านประชาธิปไตยและเสรีภาพ รวมถึงการเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน การประสานสามัคคีระหว่างไต้หวัน ลิทัวเนีย และยูเครน เพื่อสกัดกั้นการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการ
ปธน.ไช่ฯ ระบุว่า ภายใต้การชี้แนะและการส่งมอบกำลังใจจาก Mr. Zygimantas Pavilionis รองประธานคณะกรรมการกิจการยุโรปแห่งรัฐสภาลิทัวเนีย จึงทำให้ Mr. Oleksandr Merezhko ประธานคณะกรรมการกิจการนโยบายการต่างประเทศแห่งรัฐสภายูเครน เร่งจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรไต้หวันในรัฐสภายูเครนขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์ที่ต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันจากจีน ตลอดจนได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภาแบบข้ามพรรค รวม 15 คน
ปธน.ไช่ฯ เผยว่า สภานิติบัญญัติ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ก็ได้ขานรับต่อมาตรการข้างต้น ด้วยการจัดตั้ง “สมาคมสมาชิกรัฐสภาระหว่างไต้หวัน - ยูเครน” ขึ้นในเดือนนี้ โดยคณะตัวแทนที่เดินทางมาเยือนไต้หวันในครั้งนี้ ได้เดินทางเข้าเยี่ยมเยือนหน่วยงานข้างต้นที่จัดตั้งขึ้นในสภานิติบัญญัติแล้วในวันที่ผ่านมา ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ การแลกเปลี่ยนแบบทวิภาคียิ่งมีนัยยะพิเศษเพิ่มมากขึ้น เชื่อว่าในอนาคต ไต้หวัน – ยูเครนจะเร่งเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนด้านประชาธิปไตยในเชิงลึกร่วมกัน ตลอดจนร่วมแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้นต่อไป
ปธน.ไช่ฯ ยังชี้แจงเพิ่มเติมว่า เราได้จัดสรรงบประมาณเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ยูเครนในการบูรณะฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานของประเทศชาติ ร่วมกับกลุ่มพันธมิตรที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันในทวีปยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก พร้อมทั้งคาดหวังที่จะเห็นประชาชนชาวยูเครนกลับสู่วิถีชีวิตปกติที่สงบสุขดังเดิมโดยเร็ววัน
ในช่วงท้าย ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า ไต้หวันจะเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งของยูเครนตลอดไป โดยปธน.ไช่ฯ เชื่อมั่นว่า กลุ่มประเทศประชาธิปไตยอย่างไต้หวัน ยูเครนและลิทัวเนีย จะเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังสามัคคีในการต่อต้านการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการต่อไป
Ms. Kira Rudik ประธานกลุ่มพันธมิตรไต้หวันในรัฐสภายูเครน กล่าวระหว่างปราศรัยว่า ข้าพเจ้ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้เข้าเยี่ยมคารวะปธน.ไช่ฯ พร้อมกล่าวขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่แสนอบอุ่นในงานเลี้ยงฉลองมิตรภาพในค่ำคืนที่ผ่านมา ตลอดจนรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ทราบว่า นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ประกาศจะส่งมอบความช่วยเหลือให้ยูเครนในขอบเขตที่เพิ่มมากขึ้น โดยทั้งสื่อมวลชน สมาชิกรัฐสภาและประชาชนชาวยูเครน ต่างก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก
Ms. Rudik กล่าวว่า ข้าพเจ้ารู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมากที่ไต้หวันให้การสนับสนุนแก่ยูเครน ด้วยการประกาศคว่ำบาตรรัสเซียโดยไม่ลังเล ท่ามกลางภัยสงครามในยูเครนที่ร้อนระอุ โดยไต้หวันยังได้ประกาศว่า “พวกเราอยู่เคียงข้างยูเครน” ถือว่ามีนัยยะสำคัญต่อชาวยูเครนเป็นอย่างมาก โดยการเดินทางมาเยือนไต้หวันในครั้งนี้ ถือเป็นการแสดงความขอบคุณด้วยใจจริงต่อรัฐบาลและประชาชนชาวไต้หวัน
Ms. Rudik ใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อปธน.ไช่ฯ ที่เป็นต้นแบบของผู้นำที่เป็นสตรี เนื่องจากในภาวะสงคราม ผู้นำที่เป็นสตรีจำเป็นต้องแบกรับภาระที่หนักอึ้งกว่าปกติ 2 – 3 เท่า หรือกว่า 10 เท่า ซึ่งผู้หญิงต้องทำหน้าที่ครอบคลุมทั้งการต่อสู้รับมือ การดูแลครอบครัว และการเป็นต้นแบบ ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
Mr. Pavilionis กล่าวขณะปราศรัยว่า ข้าพเจ้าเคยดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปัจจุบันเป็นนักการเมือง ข้าพเจ้ามีความคิดเห็นเช่นเดียวกับพันธมิตรทั่วโลกที่ร่วมต่อสู้เพื่อปกป้องเสรีภาพ ซึ่งกล่าวไว้ว่า ทั่วโลกไม่มีการแบ่งแยกภูมิภาคหรือพรรคการเมือง มีเพียงประชาชนหรือประเทศที่สนับสนุนหรือต่อต้านเสรีภาพเท่านั้น
Mr. Pavilionis กล่าวว่า พวกเราถือเป็นผู้บุกเบิกโลกในอนาคต เนื่องจากเราจำเป็นต้องก้าวข้ามกรอบของโครงสร้างแบบเดิมๆ เพื่อแสวงหาแนวทางการแก้ไขปัญหา ช่วงที่ผ่านมา มีผู้นำและองค์การระหว่างประเทศบางแห่งที่เห็นพ้องกับความเลวร้าย และเข้าร่วมด้วยการให้เงินทุนในการสนับสนุน ซึ่งก็เหมือนกับเป็นการลงทุนให้กับวลาดีมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย แต่ในขณะนี้ พวกเราทั่วโลกได้รับผลกระทบอย่างหนัก และต้องทนทุกข์ทรมานกับภัยสงครามที่เกิดขึ้น โดยพวกเราจำเป็นต้องเร่งสกัดกั้นเพื่อให้สถานการณ์ยุติลงโดยเร็ว พร้อมทั้งสรรค์สร้างโลกที่สามารถระงับการเบ่งอำนาจของลัทธิอำนาจนิยม ให้ถูกควบคุมอยู่ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ และไม่สามารถโจมตีโลกของเราได้อีกต่อไป พร้อมนี้ ยังคาดหวังที่จะเห็นพวกเราเสริมสร้างความร่วมมือและจัดตั้งรูปแบบและการเชื่อมโยงระหว่างกันด้วย
Ms. Hanna Hopko ตัวแทนองค์การนอกภาครัฐของยูเครน และอดีตสมาชิกรัฐสภายูเครน กล่าวขณะปราศรัยว่า ขณะนี้ รัฐบาลและประชาชนยูเครนต่างตระหนักแล้วว่า จำเป็นต้องจัดตั้งความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนและกลุ่มพันธมิตรร่วมกับไต้หวัน พร้อมยุติความสัมพันธ์ทุกประการกับจีน เนื่องจากสถานการณ์การรุกรานโดยรัสเซียในครั้งนี้ ชาวยูเครนมิได้รับความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากจีนเลย ในระหว่างที่ Ms. Hopko ดำรงตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการกิจการการต่างประเทศแห่งรัฐสภายูเครน Ms. Hopko ไม่เคยเห็นด้วยที่ยูเครนจะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการประชุมสุดยอดผู้นำระหว่างจีน และ 17 ประเทศในทวีปยุโรปกลางและตะวันออก การที่ไต้หวันส่งมอบความช่วยเหลือ ในช่วงเวลาที่ประชาชนชาวยูเครนประสบกับความยากลำบากมากที่สุด ถือเป็นที่สิ่งสำคัญมาก ซึ่งพวกเราจะจดจำไว้ตลอดไป
Ms. Hopko ชี้แจงว่า การเดินทางมาเยือนไต้หวันของคณะตัวแทนในครั้งนี้ ก็เพื่อต้องการร่วมอภิปรายแนวทางการคว้าชัยชนะของยูเครน โดยไต้หวันจะยืนเคียงข้างยูเครนเสมอ และจะร่วมคว้าชัยชนะไปพร้อมกับยูเครน
Ms. Hopko แถลงว่า ในระหว่างสถานการณ์สงคราม พวกเราสัมผัสได้ถึงความสนับสนุนของไต้หวัน ซึ่งพวกเรารู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมาก หลังจากได้รับชัยชนะแล้ว พวกเรายังมีภารกิจที่รอการบูรณะฟื้นฟูอีกจำนวนมาก อาทิ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ความมั่นคงและการศึกษา จึงขอใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อรมว.อู๋ฯ และกลุ่มเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้ร่วมกำหนดโครงการความร่วมมือด้านต่างๆ รวม 20 รายการ อันเป็นการสร้างความฮึกเหิมให้กับชาวยูเครนเป็นอย่างมาก สำหรับแนวคิดการเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วน Ms. Rudik จะเร่งแสวงหาแนวทางในการบรรลุเป้าหมายข้างต้นในรัฐสภาให้เกิดขึ้นในเร็ววันอย่างแน่นอน