ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
รมว.กต.ไต้หวันให้สัมภาษณ์แก่สมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์แห่งเนเธอร์แลนด์ (NOS) เรียกร้องให้พันธมิตรด้านประชาธิปไตยประสานสามัคคีในการต่อต้านการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการจากจีน
2022-11-28
New Southbound Policy。รมว.กต.ไต้หวันให้สัมภาษณ์แก่สมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์แห่งเนเธอร์แลนด์ (NOS) เรียกร้องให้พันธมิตรด้านประชาธิปไตยประสานสามัคคีในการต่อต้านการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการจากจีน (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)
รมว.กต.ไต้หวันให้สัมภาษณ์แก่สมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์แห่งเนเธอร์แลนด์ (NOS) เรียกร้องให้พันธมิตรด้านประชาธิปไตยประสานสามัคคีในการต่อต้านการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการจากจีน (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 26 พ.ย. 65
 
เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์แก่ Mr. Sjoerd den Daas ผู้สื่อข่าวจากสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์แห่งเนเธอร์แลนด์ (NOS) ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออก โดยรมว.อู๋ฯ ได้ชี้แจงบรรยายในประเด็นการแสวงหาพลังสนับสนุนจากประชาคมโลกของไต้หวัน เพื่อสกัดกั้นการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการจากจีน ข้อได้เปรียบของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ไต้หวัน และความสัมพันธ์แบบทวิภาคีระหว่างไต้หวัน – เนเธอร์แลนด์ เป็นต้น โดยเนื้อหาบทสัมภาษณ์ได้ถูกเผยแพร่ผ่านบทความในหัวข้อ “ไต้หวันเรียกร้องความสนับสนุนจากกลุ่มประเทศตะวันตก เพื่อต่อต้านการรุกรานจากจีน” (Taiwan vraagt steun Westen tegen vijandelijkheden China) เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ที่ผ่านมา นอกจากนี้ วีดิทัศน์ของบทสัมภาษณ์ยังได้รับการเผยแพร่ผ่าน รายการของ “องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งเนเธอร์แลนด์” (NPO) ซึ่งได้รับความสนใจและเสียงตอบรับเป็นอย่างดีในวงกว้าง
 
รมว.อู๋ฯ แถลงว่า ไต้หวันตั้งอยู่แนวหน้าในการต่อต้านการขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการจากจีน โดยความมั่นคงของไต้หวันมีความสำคัญต่อกลุ่มพันธมิตรด้านประชาธิปไตยทั่วโลกเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลจากนานาประเทศและสื่อมวลชนนานาชาติ จึงให้ความสำคัญต่อสถานการณ์การพัฒนาสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน เมื่อต้องเผชิญกับความทะเยอทะยานในการแผ่ขยายอิทธิพลของจีน และสถานการณ์ความตึงเครียดในสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน ประชาชนชาวไต้หวันมีความมุ่งมั่นในการปกป้องประเทศชาติของตนอย่างหนักแน่น โดยรัฐบาลจะเตรียมการให้พร้อม ด้วยการตระเตรียมกำลังพล ควบคู่ไปกับการยกระดับแสนยานุภาพด้านกลาโหมที่ขาดความสมดุล ตลอดจนเสริมสร้างความร่วมมือที่เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้นกับกลุ่มประเทศประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่อง ในการแสวงหาพลังสนับสนุนจากประชาคมโลก เชื่อว่าความสามัคคีของกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน จะเป็นพลังสำคัญในการสกัดกั้นที่เปี่ยมประสิทธิภาพ ทั้งนี้ เพื่อหยุดยั้งการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการจากจีน
 
ต่อกรณีสถานการณ์การพัฒนาความสัมพันธ์สองฝั่งช่องแคบไต้หวันหลังการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 รมว.อู๋ฯ ระบุว่า รัฐบาลจีนได้ประกาศอย่างหนักแน่นว่าจะไม่ยอมล้มเลิกการใช้กำลังอาวุธในการรุกรานไต้หวัน ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งการประกาศแถลงการณ์และรายงานที่เป็นลายลักษณ์อักษร อีกทั้งยังตีความญัตติที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ฉบับที่ 2758 ที่ประกาศไว้เมื่อปี 1971 ในทิศทางที่บิดเบือนจากความเป็นจริง โดยตั้งใจกำหนดให้ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับไต้หวันเข้าเป็นส่วนหนึ่งในระบบการปกครองของจีน และเนื่องด้วยปัญหาภายในประเทศของจีน ที่เกิดจากปัจจัยการชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจและความผกผันทางสังคม ยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่สามารถได้รับการควบคุมไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงส่งผลให้รัฐบาลจีนอาจมุ่งเป้ามาสู่การเข้ารุกรานไต้หวันด้วยกำลังทหาร เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชนในประเทศ
 
รมว.อู๋ฯ กล่าวว่า ประสบการณ์อันเลวร้ายที่เกิดขึ้นในฮ่องกงและยูเครน ทำให้ไต้หวันและประชาคมโลกนำมาใช้เป็นข้อคิดได้ ซึ่งทั้งจีนและรัสเซียต่างก็มีความทะเยอทะยานในการร่วมวางแผนเพื่อขยายอิทธิพลไปสู่ทั่วโลก ด้วยการก่อความวุ่นวายทั้งในสองฝั่งช่องแคบและภูมิภาคยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก โดยสงครามระหว่างรัสเซีย – ยูเครน ทำให้กลุ่มประเทศตะวันตกตระหนักได้ว่า กลุ่มประเทศประชาธิปไตยควรร่วมมือกันในการสกัดกั้นการรุกรานจากรัสเซีย มิเช่นนั้น ภัยคุกคามที่เกิดจากการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการ จะคืบคลานเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ
 
นอกจากนี้ รมว.อู๋ฯ ยังได้แสดงความชื่นชมต่อความมุ่งมั่นของประชาชนยูเครน ในการต่อต้านการรุกรานจากประเทศภายนอกในช่วงระหว่างสงคราม รวมไปถึงจิตวิญญาณอันหนักแน่นในการปกป้องเสรีภาพและประชาธิปไตย ซึ่งสร้างความประทับใจให้ประชาชนชาวไต้หวันเป็นอย่างมาก รมว.อู๋ฯ กล่าวอีกว่า พวกเราไม่คาดหวังที่จะก่อสงคราม แต่หากไต้หวันเกิดวิกฤตสงครามขึ้นจริง ประชาชนไต้หวันก็จะร่วมสำแดงความมุ่งมั่นในการปกป้องประเทศเช่นเดียวกับประชาชนยูเครนอย่างแน่นอน
 
สำหรับ การเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ประจำปี 2022 ที่รวม 9 รายการไว้ในการเลือกตั้งครั้งเดียว หรือที่ทราบกันในนาม “การเลือกตั้งแบบ nine-in-one” รมว.อู๋ฯ เน้นย้ำว่า ประชาชนชาวไต้หวันเข้าร่วมใช้สิทธิในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งอย่างกระตือรือร้น แสดงให้เห็นถึงอำนาจอธิปไตยของไต้หวัน และเป็นการป่าวประกาศให้โลกรับรู้ว่า พวกเราคือประเทศประชาธิปไตย ที่มิได้อยู่ภายใต้การปกครองของประเทศใดๆ นอกจากนี้ นับวันประชาธิปไตยของไต้หวันจะยิ่งแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น จนสามารถก้าวสู่การเป็นต้นแบบการพัฒนาทางการเมืองให้แก่กลุ่มประเทศประชาธิปไตยทั่วโลกสามารถใช้อ้างอิงได้
 
เมื่อกล่าวถึงประเด็นการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – เนเธอร์แลนด์และการลงทุนด้านอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ รมว.อู๋ฯ ชี้ว่า ระบบนิเวศทางอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่มีความสมบูรณ์พร้อมและมีความทรหดของไต้หวัน ตั้งอยู่บนพื้นฐานประสบการณ์ในการพัฒนาที่สั่งสมมาเป็นระยะเวลานานกว่า 30 ปี ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – เนเธอร์แลนด์ ในด้านเศรษฐกิจและการค้า นับวันยิ่งมีความแนบแน่นมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากการที่บริษัท ASML Holding N.V. บริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของเนเธอร์แลนด์ ประกาศว่าจะทุ่มงบประมาณเพื่อลงทุนในไต้หวันในมูลค่าที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ เชื่อว่าจะสามารถเสริมสร้างความเชื่อมโยงและความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าแบบทวิภาคีให้เป็นไปในเชิงลึกต่อไป นอกจากนี้ รมว.อู๋ฯ ยังได้เน้นย้ำว่า ไต้หวันจะเร่งเสริมสร้างความร่วมมือในด้านต่างๆ กับกลุ่มพันธมิตรด้านประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่อง เพื่อสรรค์สร้างระบบห่วงโซ่อุปทานของแผ่นชิปวงจรรวม ที่มั่นคงและเปี่ยมด้วยความทรหดต่อไป