กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 2 ธ.ค. 65
เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา นายไช่หมิงเยี่ยน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์แก่ Mr. Filip Styczyński ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศโปแลนด์ (TVP World) โดยรมช.ไช่ฯ ได้ชี้แจงต่อประเด็นว่าด้วยการให้ความช่วยเหลือต่อยูเครนของไต้หวัน ข้อคิดที่ไต้หวันได้จากสงครามรัสเซีย - ยูเครน และความเป็นไปได้ที่จีนจะเข้ารุกรานไต้หวัน เป็นต้น โดยเนื้อหาบทสัมภาษณ์ได้ถูกเผยแพร่ผ่านบทความในหัวข้อ “รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน : พวกเราจะมุ่งมั่นธำรงรักษาดินแดนของเราให้คงอยู่ต่อไป” (We will continue to hold our ground: Taiwanese Dep FM) เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความสนใจและเสียงตอบรับเป็นอย่างดีในวงกว้าง
รมช.ไช่ฯ กล่าวในระหว่างการสัมภาษณ์ว่า สงครามที่รัสเซียบุกโจมตียูเครนเป็นสัญญาณเตือนภัยต่อยุโรปและนานาประเทศทั่วโลก ไต้หวัน – ยูเครน ต่างต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามที่เกิดจากการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการ ความมุ่งมั่นและความกล้าหาญของรัฐบาลและประชาชนชาวยูเครน ได้สร้างความประทับใจให้ประชาชนชาวไต้หวันเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลและประชาชนไต้หวันจึงได้ร่วมระดมทุนเป็นจำนวนเงินกว่า 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และร่วมบริจาคเวชภัณฑ์การป้องกันโรคระบาดให้ประชาชนชาวยูเครนอีกเป็นจำนวนกว่า 600 ตัน อีกทั้งรัฐบาลไต้หวันยังได้ร่วมประณามพฤติกรรมการโจมตีดินแดนยูเครนของรัสเซีย พร้อมทั้งระงับการส่งออกสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูงรวม 57 รายการให้แก่รัสเซีย ซึ่งเป็นการร่วมคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย ควบคู่ไปพร้อมกับประชาคมโลก
รมช.ไช่ฯ ชี้ว่า รัฐบาลจีนจับตาต่อสถานการณ์สงครามรัสเซีย – ยูเครนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นหลักอ้างอิงในการกำหนดระยะเวลาและยุทธศาสตร์ในการบุกโจมตีไต้หวัน เพื่อรับมือต่อภัยคุกคามจากจีน ในปี 2023 ไต้หวันจึงได้จัดสรรงบประมาณด้านกลาโหมเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 ครองสัดส่วนร้อยละ 2.4 ของ GDP ซึ่งรัฐบาลไต้หวันนอกจากจะผลักดันอุตสาหกรรมกลาโหมอย่างกระตือรือร้น ด้วยการเสริมสร้างแสนยานุภาพทางกลาโหมภายใต้ยุทธศาสตร์การทำสงครามไร้สมมาตร อีกทั้งยังได้เร่งปรับปรุงแสนยานุภาพทางการทหาร อาทิ เรือรบ ระบบขีปนาวุธ และระบบป้องกันภัยทางอากาศ โดยไต้หวันจะมุ่งมั่นปกป้องดินแดนไต้หวันอย่างแน่วแน่ต่อไป หากจีนดำเนินมาตรการรุกล้ำเขตแดนไต้หวัน จะต้องประสบกับแรงต่อต้านที่คาดไม่ถึงอย่างแน่นอน
ต่อกรณีสถานการณ์สองฝั่งช่องแคบไต้หวัน ภายหลังการเดินทางเยือนไต้หวันของนางแนนซี่ เพโลซี่ ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ รมช.ไช่ฯ กล่าวว่า กองทัพปลดแอกประชาชนจีนได้จัดซ้อมรบในพื้นที่รอบน่านน้ำไต้หวัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันและประเทศโดยรอบในภูมิภาค ซึ่งเป็นการล้ำเส้นขีดความอดทนของประชาคมโลก จำเป็นต้องให้ความสำคัญอย่างจริงจังและร่วมกันยับยั้ง โดยรมช.ไช่ฯ เรียกร้องให้ประชาคมโลกสำแดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณแห่งความสามัคคี ด้วยการให้การสนับสนุนไต้หวันอย่างเต็มกำลัง เพื่อสกัดกั้นความพยายามและความทะเยอทะยานของรัฐบาลจีนอย่างมีประสิทธิภาพ
รมช.ไช่ฯ เน้นย้ำว่า ไต้หวันคาดหวังที่จะธำรงรักษาความสัมพันธ์อันดีและมีเสถียรภาพกับจีน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ต่างก็ให้การสนับสนุนการพัฒนาความสัมพันธ์สองฝั่งช่องแคบไต้หวันอย่างมีเสถียรภาพ แต่ไต้หวันเป็นสังคมประชาธิปไตย และได้ตระหนักถึงสถานการณ์ในฮ่องกงที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ประกอบกับประชาชนชาวไต้หวันไม่ยอมรับ “หลักการจีนเดียว” รวมถึงอนาคตของไต้หวันมิอาจถูกจำกัดให้อยู่ภายใต้การข่มขู่ของจีน อีกทั้งไม่สามารถสละอำนาจอธิปไตยและวิถีชีวิตแห่งประชาธิปไตยและเสรีภาพได้