กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 8 ธ.ค. 65
 
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 8 ธ.ค. นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ทำหน้าที่มอบเหรียญมิตรภาพทางการทูตให้แก่ Mr. Waldemar Andzel ประธาน “กลุ่มพันธมิตรไต้หวันในรัฐสภาโปแลนด์” เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติแก่ Mr. Andzel ที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้สร้างคุณประโยชน์ในการเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงลึกระหว่างไต้หวัน – โปแลนด์ ประจวบกับปีนี้เป็นวาระครบรอบ 30 ปีแห่งการจัดตั้งสำนักงานตัวแทนรัฐบาลไต้หวันในโปแลนด์ การเดินทางมาเยือนของ Mr. Andzel และการได้รับมอบเหรียญมิตรภาพทางการทูต เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนที่มีต่อกันอย่างแนบแน่น ระหว่างไต้หวัน – โปแลนด์ อีกทั้งยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงนัยสำคัญแห่งการให้การสนับสนุนไต้หวันของรัฐสภาโปแลนด์อีกด้วย
 
รมว.อู๋ฯ กล่าวขณะปราศรัยว่า Mr. Andzel ดำรงตำแหน่งเป็นประธานกลุ่มพันธมิตรที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของรัฐสภาโปแลนด์ และเป็นประธานร่วมของสโมสรฟอร์โมซา (Formosa Club) นับเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันความสัมพันธ์อันดีระหว่างไต้หวัน – โปแลนด์ในรัฐสภาโปแลนด์ และให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมในองค์การระหว่างประเทศอย่างหนักแน่นเสมอมา รมว.อู๋ฯ ขอแสดงความขอบคุณต่อ Mr. Andzel ที่ร่วมเป็นกระบอกเสียงให้การสนับสนุนไต้หวัน และร่วมเรียกร้องสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน ตลอดจนให้การสนับสนุนรัฐบาลสาธารณรัฐลิทัวเนีย เสริมสร้างความร่วมมือในเชิงลึกกับไต้หวัน นอกจากนี้ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 Mr. Andzel ยังได้เร่งกระตุ้นให้รัฐบาลโปแลนด์บริจาควัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 ให้ไต้หวัน เป็นจำนวน 400,000 โดส นอกจากนี้ รัฐบาลโปแลนด์ยังเป็นธุระจัดการเงินบริจาคจำนวน 3.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ไต้หวันร่วมบริจาคให้ยูเครน ผ่านคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (Governmental Strategic Reserves Agency, RARS) ที่จัดตั้งโดยรัฐบาลโปแลนด์ เพื่อให้ความช่วยเหลือในการจัดตั้งที่พักชั่วคราวสำหรับผู้ลี้ภัยชาวยูเครน โดยรมว.อู๋ฯ ยังได้แสดงความชื่นชมต่อคำพูดของ Mr. Andzel ที่กล่าวไว้ว่า “ขอเพียงไต้หวันได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากประชาคมโลก ก็จะสามารถมีอนาคตที่ดีงามและเจิดจรัสต่อไปอย่างแน่นอน” โดยรมว.อู๋ฯ ได้ยกย่องให้ Mr. Andzel เป็นมิตรสหายที่จริงใจของไต้หวัน
 
Mr. Andzel กล่าวเน้นย้ำขณะปราศรัยว่า ไต้หวัน – โปแลนด์ เป็นพันธมิตรที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นที่ยึดมั่นในค่านิยมด้านประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนเช่นเดียวกัน จึงคอยเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันเสมอมา พร้อมร่วมเผชิญหน้าและรับมือกับบททดสอบและความท้าทายนานาประการ โดยหลายปีมานี้ ทั้งสองประเทศมีการพัฒนาทางความร่วมมือที่รุดหน้าในด้านต่างๆ ทั้งเศรษฐกิจ เทคโนโลยีชีวภาพและวัฒนธรรม โดย Mr. Andzel คาดหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นไต้หวัน – โปแลนด์ เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกันที่เพิ่มมากขึ้นในด้านอุตสาหกรรมข้อได้เปรียบที่สำคัญ นอกจากนี้ Mr. Andzel ยังได้แสดงจุดยืนอย่างหนักแน่นว่า รัฐสภาโปแลนด์ให้การสนับสนุนความมั่นคงและสันติภาพในสองฝั่งช่องแคบไต้หวันอย่างหนักแน่นเสมอมา โดย Mr. Andzel จะยังคงให้การสนับสนุนและร่วมเป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวันต่อไปในรัฐสภาโปแลนด์และสโมสรฟอร์โมซา รวมไปถึงกรอบโครงสร้างทางความร่วมมือแบบพหุภาคีระหว่างโปแลนด์ สหรัฐฯ และไต้หวัน
 
โดยในช่วงกลางวันของวันเดียวกันนั้น รมว.อู๋ฯ ได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับ Mr. Andzel และคณะตัวแทน โดยทั้งสองฝ่ายต่างร่วมแลกเปลี่ยนเชิงกว้างในประเด็นต่างๆ อาทิ เศรษฐกิจและการค้า ความร่วมมือทางการแพทย์ อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ความสัมพันธ์สองฝั่งช่องแคบไต้หวัน และสถานการณ์ล่าสุดในยูเครน เป็นต้น Mr. Andzel กล่าวขอบคุณไต้หวันสำหรับเงินบริจาคจำนวน 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และผลิตภัณฑ์ยา เพื่อให้ความช่วยเหลือในการจัดตั้งที่พักชั่วคราวสำหรับผู้ลี้ภัยชาวยูเครน เป็นจำนวน 3 ล้านคน รมว.อู๋ฯ กล่าวชี้แจงว่า รัฐบาลไต้หวันและกรุงเคียฟได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการให้ความช่วยเหลือในการจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องกำเนิดไฟฟ้า และส่งมอบผ้าห่มและเสบียงอาหาร เพื่อช่วยบรรเทาความหนาวเหน็บในฤดูหนาวให้ประชาชนชาวยูเครนสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาอันเลวร้ายนี้ไปได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ รัฐบาลไต้หวันยังได้เตรียมจัดสรรเงินทุนจำนวน 56 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการช่วยฟื้นฟูบูรณะโครงสร้างพื้นฐานในยูเครนหลังวิกฤตสงคราม ซึ่งไต้หวันมีความยินดีที่จะเสริมสร้างความร่วมมือในการผลักดันร่วมกับโปแลนด์ต่อไป
 
สำหรับกรณีความสัมพันธ์สองฝั่งช่องแคบไต้หวัน รมว.อู๋ฯ เน้นย้ำว่า ประชาชนชาวไต้หวันรักและยึดมั่นในสันติภาพ  โดยไต้หวันจะไม่เป็นฝ่ายท้าทายให้สถานการณ์ทวีความตึงเครียดยิ่งขึ้น ทั้งยังเปิดกว้างในการเจรจาระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน มีเพียงรัฐบาลจีนที่ยังคงส่งเครื่องบินและเรือรบมาก่อกวนไต้หวันอย่างต่อเนื่อง และประกาศว่าจะไม่ล้มเลิกการใช้กำลังอาวุธโจมตีไต้หวัน พร้อมทั้งตั้งเงื่อนไขทางการเมืองในการเปิดการเจรจาระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน ซึ่งประชาชนชาวไต้หวันมิอาจยอมรับได้ เมื่อเผชิญหน้ากับภัยคุกคามจากลัทธิอำนาจนิยม รมว.อู๋ฯ เน้นย้ำว่า ความมั่นคงของไต้หวัน รวมไปถึงสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน ต้องการพลังสนับสนุนจากประชาคมโลก ไต้หวันขอแสดงความขอบคุณรัฐบาลโปแลนด์สำหรับการสนับสนุนให้ไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศ และการจับตาต่อสถานการณ์ความมั่นคงในช่องแคบไต้หวันต่อไป