ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
ไต้หวันประกาศรายงานแห่งชาติ ภายใต้ “อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบ” (ICERD) ขึ้นเป็นครั้งแรก
2022-12-15
New Southbound Policy。ไต้หวันประกาศรายงานแห่งชาติ ภายใต้ “อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบ” (ICERD) ขึ้นเป็นครั้งแรก (ภาพจากกระทรวงมหาดไทย)
ไต้หวันประกาศรายงานแห่งชาติ ภายใต้ “อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบ” (ICERD) ขึ้นเป็นครั้งแรก (ภาพจากกระทรวงมหาดไทย)

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง วันที่ 14 ธ.ค. 65
 
เมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา กระทรวงมหาดไทย สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้จัดงานแถลงข่าวว่าด้วยการประกาศรายงานแห่งชาติ ภายใต้ “อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบ” (ICERD) เป็นครั้งแรก โดยมีนายหลัวปิ่งเฉิง รัฐมนตรีประจำสภาบริหาร สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ที่รับผิดชอบภารกิจด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และประธานการประชุมประสานงานด้านการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ มาทำหน้าที่เป็นประธานในงานแถลงข่าวครั้งนี้ โดยมีนายเฉินจงเยี่ยน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมชี้แจงมาตรการการผลักดันตามอนุสัญญา ICERD อย่างเป็นรูปธรรมตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เพื่อแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลไต้หวันได้มุ่งมั่นขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมความเสมอภาคและเคารพความหลากหลายทางสังคม
 
รมว.หลัวฯ กล่าวว่า สิ่งที่ทำให้ไต้หวันได้รับความสนใจจากประชาคมโลก นอกจากผลสัมฤทธิ์ทางเศรษฐกิจแล้ว ยังรวมไปถึงความก้าวหน้าด้านการพัฒนาสิทธิมนุษยชนอีกด้วย แม้ว่าไต้หวันจะมิใช่ประเทศสมาชิกของสหประชาชาติ (UN) แต่กลับยึดมั่นตามมาตรฐานสิทธิมนุษยชนนานาชาติ ด้วยการให้คำมั่นในการบรรลุปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน พร้อมทั้งนำรูปแบบการตรวจสอบของสหประชาชาติ (UN) มาใช้ในการอ้างอิง ผนวกกับประสบการณ์ในพื้นที่ จัดตั้งกลไกการผลักดันและการตรวจสอบการดำเนินการตามอนุสัญญาในรูปแบบไต้หวันขึ้น
 
“ICERD” เป็นหนึ่งในอนุสัญญา 9 ฉบับภายใต้ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน และเป็นอนุสัญญาระหว่างประเทศเพียงฉบับเดียวที่ไต้หวันได้มีการร่วมลงนาม ผ่านการอนุมัติและเก็บรักษาไว้ตราบจนปัจจุบัน ก่อนที่สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) จะถอนตัวจาก UN ซึ่งมีผลบังคับใช้ทางกฎหมายในประเทศ โดยในปี 2022 ไต้หวันผลักดันให้เกิดผลสัมฤทธิ์ด้านการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนนานาประการ โดยการประกาศรายงานแห่งชาติ ภายใต้อนุสัญญา ICERD ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกนี้ ถือเป็นพัฒนาการที่สร้างหลักประกันด้านสิทธิมนุษยชนที่สำคัญอีกก้าวหนึ่ง
 
รมช.เฉินฯ กล่าวว่า ในระหว่างขั้นตอนการร่างรายงานแห่งชาติ มีกลุ่มเอกชนและองค์การสิทธิมนุษยชนที่มีความสนใจต่อประเด็นข้างต้น เข้าร่วมเพื่อเสนอข้อชี้แนะที่เป็นประโยชน์ทั้งหมด 34 กลุ่ม โดยกระทรวงมหาดไทยได้รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องเข้าไว้เป็นส่วนหนึ่งในรายงานแห่งชาติที่จัดแถลงข่าวขึ้นในครั้งนี้ เพื่อให้รายงานฉบับนี้มีความสมบูรณ์เพิ่มมากขึ้น ควบคู่ไปกับการแสดงให้เห็นถึงนโยบายและความมุ่งมั่นของรัฐบาลที่เร่งผลักดันภารภิจภายใต้ ICERD อย่างเต็มที่