สภาบริหาร วันที่ 22 ธ.ค. 65
เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ที่ผ่านมา นายซูเจินชาง นายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้รับฟังรายงานเกี่ยวกับ “มาตรการการเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนา สำหรับชาวจินเหมินและหมาจู่ในช่วงเทศกาลตรุษจีน” จากคณะกรรมการกิจการจีนแผ่นดินใหญ่ โดยนรม. ซูฯ กล่าวว่า การฟื้นฟูการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนสองฝั่งช่องแคบไต้หวันนับเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาล เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับสู่ถิ่นกำเนิดสำหรับพี่น้องประชาชนชาวจินเหมินและหมาจู่ พร้อมคำนึงถึงมาตรการป้องกันโรคระบาดในพื้นที่รอบนอกเกาะไต้หวัน ทางรัฐบาลไต้หวันจึงได้ประกาศบังคับใช้มาตรการข้างต้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน นับตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. – 6 ก.พ. 2023 โดยกำหนดให้ผู้ที่จะขออนุมัติการเดินทางภายใต้มาตรการดังกล่าว ต้องเป็นประชาชนชาวจินเหมินและหมาจู่หรือคู่สมรสที่เป็นชาวจีนแผ่นดินใหญ่เท่านั้น โดยรัฐบาลท้องถิ่นจะเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดทำรายชื่อ ควบคุมจัดระเบียบ พร้อมขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการวางแผนเที่ยวบินอย่างรัดกุม และคอยจับตาต่อสถานการณ์โรคระบาดล่าสุดในพื้นที่และการเปลี่ยนแปลงของความสามารถในการรองรับทางการแพทย์ ตลอดจนต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อป้องกันมิให้เชื้ออหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) แพร่ระบาดเข้าสู่ภายในประเทศ
นรม.ซูฯ กล่าวว่า เทศกาลตรุษจีนเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีที่สำคัญที่สุดของไต้หวัน และเป็นช่วงเวลาแห่งการกลับมารวมตัวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาของสมาชิกในครอบครัว เนื่องจากพื้นที่เกาะจินเหมินและหมาจู่ มีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่อยู่ละแวกใกล้เคียงกับจีนแผ่นดินใหญ่ ประชาชนที่มีความประสงค์จะกลับภูมิลำเนาไปร่วมฉลองเทศกาล จึงจำเป็นต้องโดยสารเครื่องบินหรือเรือ ซึ่งอาจไม่สะดวกนัก ด้วยเหตุนี้ ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) จึงได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ต่อการเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาของชาวจินเหมินและหมาจู่ โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นรม.ซูฯ ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งมอบความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่มีความประสงค์ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของภาคประชาชนพี่น้องจินเหมินหมาจู่และข้อเรียกร้องของผู้ว่าการประจำแต่ละพื้นที่
ในส่วนของมาตรการควบคุมพรมแดน นรม.ซูฯ ได้กำชับให้กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ เร่งดำเนินมาตรการควบคุมพรมแดนอย่างเคร่งครัด ด้วยการตรวจสอบว่า เรามีบุคลากรด้านการป้องกันโรคระบาดในพื้นที่ท่าเรือเพียงพอหรือไม่ การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่นดีหรือไม่ พร้อมทั้งคอยเฝ้าจับตาต่อสถานการณ์ล่าสุดของการแพร่ระบาดในพื้นที่ รวมถึงการตรวจสอบศักยภาพทางการแพทย์ เพื่อที่จะสามารถรับมือได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ นรม.ซูฯ ยังได้เรียกร้องให้คณะกรรมการกิจการการเกษตร กระทรวงการคลัง และหน่วยงานยามฝั่ง เร่งตรวจสอบ และดำเนินการคัดกรองสัตว์และพืชที่นำเข้าในสู่เขตอาณาไต้หวัน เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้เชื้ออหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) แพร่ระบาดเข้าสู่ภายในประเทศ