กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 4 ม.ค. 66
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 4 ม.ค. ที่ผ่านมา นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ในฐานะตัวแทนรัฐบาล ได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ (MOU) กับ Mr. Ihor Terekhov นายกเทศมนตรีเมืองคาร์คิฟ (Kharkiv) Mr. Oleksandr Syenkevych นายกเทศมนตรีเมืองมิโคลายีฟ (Mykolaiv) และ Ms. Hanna Hopko ประธานคณะกรรมการบริหาร ANTS องค์การนอกภาครัฐที่ได้รับมอบหมายจากกองบัญชาการทหารของเมืองเคอร์ซอน (Kherson) โดยกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) จะบริจาคเงินจำนวน 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่พื้นที่ข้างต้น ในการจัดซื้อเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์สร้างความอบอุ่น เพื่อช่วยบรรเทาความหนาวเหน็บในฤดูหนาวให้ประชาชนชาวยูเครนที่ได้รับผลกระทบจากภัยสงคราม ให้สามารถผ่านพ้นช่วงเวลาอันเลวร้ายนี้ไปได้อย่างราบรื่นในช่วงปีใหม่นี้
เมืองคาร์คิฟเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของยูเครน ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากพื้นที่ชายแดนรัสเซีย-ยูเครนไปทางใต้เพียง 30 กิโลเมตร ถือเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมหนัก วัฒนธรรมและการศึกษาของยูเครน หลังเกิดวิกฤตสงคราม พื้นที่แห่งนี้กลายเป็นเป้าหมายหลักในการโจมตีของกองทหารรัสเซีย ส่วนเมืองมิโคลายีฟและเมืองเคอร์ซอน ตั้งอยู่ในพื้นที่สงครามทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน โดยเมืองมิโคลายีฟเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมต่อเรือตามแนวชายฝั่งทะเลดำ ซึ่งประชาชนที่พำนักอาศัยอยู่ในพื้นที่ได้ร่วมกันขับไล่กองทัพรัสเซียอย่างกล้าหาญจนทำให้ทหารรัสเซียต้องถอนทัพออกจากพื้นที่ เพื่อมิให้เมืองท่าสำคัญต้องตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพรัสเซีย ทำให้ได้รับคำชมเชยจากประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน พร้อมขนานนามว่าเป็น “เมืองแห่งวีรชนชาวยูเครน” ส่วนเมืองเคอร์ซอนเป็นเส้นทางสำคัญในการผ่านไปสู่คาบสมุทรไครเมีย ซึ่งมีความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ โดยเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว กองทัพยูเครนสามารถปลดปล่อยเมืองเคอร์ซอน จากการครอบครองของรัสเซียมาเป็นเวลานานกว่า 8 เดือน ซึ่งภาพบรรยากาศเฉลิมฉลองความดีใจของประชาชนในพื้นที่ได้รับการเผยแพร่ไปสู่สายตาประชาคมโลก
สงครามรัสเซีย – ยูเครน ดำเนินมาเป็นเวลากว่า 300 วันแล้ว ตราบจนปัจจุบัน การโจมตีของกองทัพรัสเซียมิได้หยุดลงแม้ว่าจะเป็นวาระโอกาสขึ้นปีใหม่ก็ตาม โดยในระหว่างที่นานาประเทศกำลังเฉลิมฉลองเนื่องในเทศกาลปีใหม่ กองทัพรัสเซียก็ยังคงระดมโจมตีทางอากาศต่อยูเครนอย่างไม่ปราณีตลอดทั้งคืนข้ามปีไปจนถึงวันรุ่งขึ้น ปธน.เซเลนสกี ออกมาเปิดเผยว่า หลายพื้นที่ในยูเครนไม่มีไฟฟ้าใช้ท่ามกลางสภาพอากาศอันหนาวเหน็บ ประชาชนนับหมื่นแสนรายจึงต้องก้าวเข้าสู่ปีใหม่ไปพร้อมกับการต่อสู้กับความเหน็บหนาว
เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนชาวยูเครนต่อสู้กับความหนาวเหน็บ เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ไต้หวันจึงได้บริจาคเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังงานดีเซลให้แก่กรุงเคียฟ ของยูเครนโดยได้ลำเสียงส่งถึงพื้นที่แล้วเมื่อวันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยนายวิตาลี คลิตช์โก (Vitali Klitschko) นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ เป็นผู้รับมอบด้วยตนเอง โดยจะนำไปใช้ในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญและจุดให้ความอบอุ่นที่เทศบาลจัดตั้งขึ้น เพื่อช่วยบรรเทาความหนาวเหน็บให้แก่ประชาชนอย่างเร่งด่วน และเมื่อวันที่ 4 ม.ค. ที่ผ่านมา ไต้หวันยังได้ส่งมอบความช่วยเหลือเป็นการเพิ่มเติมให้แก่เมืองคาร์คิฟ เมืองมิโคลายีฟและเมืองเคอร์ซอน โดยมอบหมายให้หน่วยงานตรงหรือองค์การนอกภาครัฐ (NGO) ในพื้นที่ ทำการจัดซื้อเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์สร้างความอบอุ่น เพื่อร่วมต่อสู้กับอากาศอันหนาวเย็นไปพร้อมกับประชาชนชาวยูเครน และก้าวสู่ปี 2023 ไปด้วยกัน