ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
ปธน.ไช่อิงเหวินให้การต้อนรับ Mr. Carlos María López López ประธานสภาผู้แทนราษฎรสาธารณรัฐปารากวัย และ Mr. Samuelu Penitala Teo ประธานรัฐสภาตูวาลู พร้อมด้วยภริยาและคณะ
2023-01-10
New Southbound Policy。ปธน.ไช่อิงเหวินให้การต้อนรับ Mr. Carlos María López López ประธานสภาผู้แทนราษฎรสาธารณรัฐปารากวัย และ Mr. Samuelu Penitala Teo ประธานรัฐสภาตูวาลู พร้อมด้วยภริยาและคณะ (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)
ปธน.ไช่อิงเหวินให้การต้อนรับ Mr. Carlos María López López ประธานสภาผู้แทนราษฎรสาธารณรัฐปารากวัย และ Mr. Samuelu Penitala Teo ประธานรัฐสภาตูวาลู พร้อมด้วยภริยาและคณะ (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)

ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 9 ม.ค. 66
 
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 9 ม.ค. ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับ Mr. Carlos María López López ประธานสภาผู้แทนราษฎรสาธารณรัฐปารากวัย โดยปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า เมื่อเผชิญหน้ากับการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการ พวกเราพันธมิตรประชาธิปไตย จึงควรเร่งเสริมสร้างความร่วมมือ จึงจะสามารถปกป้องวิถีชีวิตแห่งประชาธิปไตยให้คงอยู่ต่อไปได้ พร้อมนี้ ปธน.ไช่ฯ ยังคาดหวังที่จะเห็นไต้หวัน – ปารากวัยร่วมมุ่งมั่นเสริมสร้างความร่วมมือ เพื่อสร้างคุณประโยชน์ที่เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้นให้แก่ประชาคมโลกต่อไป
 
ปธน.ไช่ฯ กล่าวขณะปราศรัยว่า นับเป็นครั้งแรกที่ Mr. López เดินทางเยือนไต้หวัน และเป็นครั้งแรกของคณะตัวแทนที่เดินทางมาเยือนไต้หวันด้วยเช่นกัน เชื่อว่าการเดินทางมาเยือนของอาคันตุกะกลุ่มนี้ จะสามารถกระตุ้นการพัฒนาความสัมพันธ์แบบทวิภาคีระหว่างไต้หวัน – ปารากวัยให้ก้าวไปสู่อีกขั้นที่รุดหน้ามากยิ่งขึ้น
 
ปธน.ไช่ฯ ระบุว่า ตลอดระยะเวลา 6 ปีกว่าที่ผ่านมา ไต้หวัน - ปารากวัยได้แลกเปลี่ยนเชิงลึกในประเด็นต่างๆ อย่างมากมาย ในปี 2016 หลังจากที่ปธน.ไช่ฯ เข้ารับตำแหน่งผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ก็ได้เดินทางเยือนปารากวัยเป็นประเทศแรก ในปี 2018 หลังจากที่ H.E. Mario Abdo Benítez ประธานาธิบดีสาธารณรัฐปารากวัยขึ้นดำรงตำแหน่ง ก็ได้เดินทางเยือนไต้หวันเป็นประเทศแรกเช่นกัน สะท้อนให้เห็นถึงมิตรภาพอันแนบแน่นระหว่างสองประเทศ
 
ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า พวกเรารู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้เห็นทั้งสองฝ่ายประสานความร่วมมือแบบทวิภาคี จนบังเกิดผลสัมฤทธิ์ขึ้นมากมาย อาทิ “มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระหว่างไต้หวัน - ปารากวัย” ที่จัดตั้งขึ้นอย่างสำเร็จราบรื่น ก้าวสู่การเป็นแหล่งบ่มเพาะบุคลากรด้านวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์ของปารากวัย
 
ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไต้หวัน - ปารากวัย ก็ได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะยังคงอยู่ในสถานการณ์ความท้าทาย แต่มูลค่าการค้าแบบทวิภาคีในระหว่างเดือนมกราคม - ตุลาคม ก็ทะลุ 220 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ โดยพวกเราคาดหวังที่จะเห็นทั้งสองฝ่ายเสริมสร้างความร่วมมือในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นให้เกิดแนวคิดใหม่ๆ และเป็นการสร้างสวัสดิการและความผาสุกให้แก่ภาคประชาชนของสองประเทศต่อไป
 
ปธน.ไช่ฯ กล่าวขอบคุณรัฐบาลปารากวัยที่เป็นกระบอกเสียงให้การสนับสนุนไต้หวันเสมอมาเป็นเวลายาวนาน โดยเมื่อปีที่แล้ว สมาชิกรัฐภสาจำนวนมากได้ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศอย่าง “การประชุมสมัชชาอนามัยโลก” (WHA) “องค์การการบินพลเรือน” (ICAO) และ “อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” (UNFCCC) ผ่านรูปแบบ “หนังสือเรียกร้องคนละฉบับ” โดยพลังสนับสนุนอันหนักแน่นเหล่านี้ ล้วนสร้างความอบอุ่นให้แก่พวกเราชาวไต้หวันเป็นอย่างมาก
 
ปธน.ไช่ฯ เน้นย้ำว่า เมื่อเผชิญหน้ากับการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการ พวกเราพันธมิตรประชาธิปไตย จึงควรเร่งเสริมสร้างความร่วมมือ จึงจะสามารถปกป้องวิถีชีวิตแห่งประชาธิปไตยให้คงอยู่ต่อไปได้ คณะตัวแทนที่เดินทางมาเยือนไต้หวันในครั้งนี้ล้วนแล้วแต่เป็นมิตรสหายสำคัญของไต้หวัน พวกเราคาดหวังที่จะเห็นทั้งสองประเทศมุ่งมั่นประสานความร่วมมือในการสร้างคุณประโยชน์ที่เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้นให้แก่ประชาคมโลกต่อไป
 
ในลำดับถัดไป Mr. López ได้ขึ้นกล่าวปราศรัย โดยระบุว่า ปารากวัยเป็นประเทศพันธมิตรของไต้หวัน เช่นเดียวกันกับที่ไต้หวันเป็นประเทศพันธมิตรของปารากวัย ทั้งสองประเทศได้สานสัมพันธ์ทางการทูตร่วมกันมาเป็นเวลานานกว่า 65 ปีแล้วตราบจนปัจจุบัน แม้ว่าจะทั้งสองประเทศจะห่างไกลกันในแง่ของที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ แต่มิตรภาพและความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศจะยังคงยืนยงต่อไปอย่างแนบแน่น
 
Mr. López แสดงความขอบคุณและให้การยอมรับต่อไต้หวันสำหรับความร่วมมือและความมุ่งมั่นในการให้ความช่วยเหลือภายใต้โครงการต่างๆ Mr. López กล่าวว่า ไต้หวันได้จัดสรรทุนการศึกษาเพื่อส่งเสริมให้นักศึกษาปารากวัยได้รับโอกาสในการเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาของไต้หวัน เพื่อสัมผัสกับรูปแบบการเรียนการสอนที่แตกต่างออกไป และยังส่งเสริมให้เยาวชนรุ่นใหม่ของปารากวัย เข้ารับการฝึกอบรมภายใต้โครงการ “มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระหว่างไต้หวัน - ปารากวัย” เพื่อให้เกิดการพัฒนาในด้านกายภาพและจิตวิทยารวมไปถึงทักษะความเชี่ยวชาญ เพื่อให้พวกเขาเตรียมความพร้อมสำหรับการประกอบอาชีพในภายภาคหน้าต่อไป
 
Mr. López กล่าวว่า ภายใต้พื้นฐานของหลักการว่าด้วยการเคารพซึ่งกันและกัน เชื่อว่า ไต้หวัน – ปารากวัยจะร่วมมุ่งมั่นประสานความร่วมมืออย่างต่อเนื่องในประชาคมโลกต่อไป เพื่อให้ทุกคนประจักษ์ว่า ประชาชนสามารถพัฒนาให้ประเทศเกิดความเจริญรุ่งเรืองได้ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เปี่ยมด้วยสันติภาพและเสถียรภาพ ตลอดจนคาดหวังที่จะเห็นมิตรภาพและความสัมพันธ์ทางความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ได้รับการพัฒนาและเสริมสร้างในเชิงลึกอย่างต่อเนื่องต่อไป
 
นอกจากนี้ เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 9 ม.ค. ปธน.ไช่ฯ ยังได้ให้การต้อนรับ Mr. Samuelu Penitala Teo ประธานรัฐสภาตูวาลู พร้อมด้วยภริยาและคณะ โดยปธน.ไช่ฯ ได้แสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลและรัฐสภาตูวาลู สำหรับการสนับสนุนอันหนักแน่นที่มีต่อไต้หวันอย่างเป็นรูปธรรมเสมอมา โดยในปี 2023 เมื่อทั่วโลกต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายนานาชาติ อย่างภาวะการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังยุคโควิด – 19 หรือการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ไต้หวัน – ตูวาลูจะมุ่งมั่นในการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตลอดจนสร้างคุณประโยชน์ด้านการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองที่เพิ่มมากขึ้นให้แก่ทั่วโลกต่อไป
 
ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา Mr. Teo และรัฐบาลตูวาลูต่างให้การสนับสนุนไต้หวันอย่างหนักแน่นด้วยวิธีการที่เป็นรูปธรรม โดยในปีที่แล้ว จะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะในเวทีนานาชาติใด อาทิ การประชุมสหประชาชาติ การประชุมสมัชชาอนามัยโลก (WHA) เจ้าหน้าที่ภาครัฐตูวาลูได้ร่วมเป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวัน เพื่อสนับสนุนให้ไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศ โดยปธน.ไช่ฯ ในฐานะตัวแทนประชาชนชาวไต้หวัน ขอแสดงความขอบคุณด้วยใจจริงต่อรัฐบาลและรัฐสภาตูวาลู
 
ปธน.ไช่ฯ ระบุว่า หลายปีมานี้ แม้ว่าทั่วโลกจะเผชิญหน้ากับความท้าทายจากสถานการณ์โรคโควิด – 19 แต่ไต้หวัน – ตูวาลูกลับเสริมสร้างความร่วมมือเชิงลึกในด้านต่างๆ ระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง อาทิ การที่รัฐบาลไต้หวันจัดตั้งทุนการศึกษาเพื่อเป็นการส่งมอบโอกาสให้นักศึกษาตูวาลูเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาของไต้หวันได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว Mr. Kausea Natano นายกรัฐมนตรีตูวาลู ได้นำคณะตัวแทนเดินทางเยือนไต้หวัน ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ร่วมบรรลุฉันทามติในความร่วมมือด้านพลังงานสะอาด เพื่อก้าวสู่เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ภายในปี 2050
 
โดยการเดินทางเยือนในครั้งนี้ของ Mr. Teo ยังจะมีการร่วมลงนามในแถลงการณ์ร่วมกับนายโหยวซีคุณ ประธานสภานิติบัญญัติไต้หวัน เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนระหว่างรัฐสภาของสองประเทศ
 
ในลำดับถัดไป Mr. Teo ได้ขึ้นกล่าวปราศรัย โดยระบุว่า รัฐสภาและภาคประชาชนชาวตูวาลู ต่างให้การยอมรับต่อผลสัมฤทธิ์ที่ยอดเยี่ยมของไต้หวัน โดยเฉพาะภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ที่รุนแรง ในปี 2020 ไต้หวันเร่งมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาสาธารณสุขโลก และปัญหาเฉพาะหน้าในหลากหลายประเด็น เพื่อสร้างประโยชน์สุขและปกป้องสาธารณชน ซึ่งสมควรได้รับการยกย่องจากประชาคมโลก
 
Mr. Teo ระบุว่า นับตั้งแต่ที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 มาจนปัจจุบัน ตูวาลูได้รับความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากไต้หวันทั้งในด้านอุปกรณ์และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ รวมไปถึงงบประมาณต่างๆ เพื่อให้รัฐบาลตูวาลูสามารถส่งมอบวัคซีนให้แก่ประชาชนที่มีคุณสมบัติสอดคล้อง ทั้งนี้ เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ภายในประเทศ โดยกลไกการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมของไต้หวัน สะท้อนให้เห็นว่า ไต้หวันมีความสามารถและยินดีช่วยเหลือประเทศที่รายรอบ ประเทศพันธมิตรและประเทศที่มีความต้องการ ด้วยเหตุนี้ ตูวาลูจึงจะให้การสนับสนุนและยื่นเสนอข้อเรียกร้องเพื่อให้ไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศ ในฐานะผู้สังเกตการณ์ อย่างต่อเนื่องต่อไป
 
Mr. Teo แถลงว่า ตูวาลูเป็นพันธมิตรประเทศแรกในพื้นที่แถบมหาสมุทรแปซิฟิกของไต้หวัน โดยทั้งสองได้ร่วมสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตนับตั้งแต่ปี 1979 เป็นต้นมา ภาคประชาชนของตูวาลูยินดีที่จะเห็นมิตรภาพระหว่างสองประเทศดำเนินต่อไปในเชิงลึก รวมไปถึงคาดหวังที่จะให้ไต้หวันอัดฉีดงบประมาณในโครงการความร่วมมือในตูวาลูเพิ่มมากขึ้น ซึ่งรวมไปถึงการเสริมสร้างกลไกการให้บริการสาธารณะ อย่างเครื่องมือสื่อสารและเครือข่ายอินเทอร์เน็ต รวมไปถึงการพัฒนามนุษย์ สุขภาพ การเกษตร เทคโนโลยีและวัฒนธรรม เป็นต้น
 
นอกจากนี้ Mr. Teo ยังชี้แจงว่า การบ่มเพาะบุคลากรมีความสำคัญต่อตูวาลูเป็นอย่างมาก หลายปีมานี้ ตูวาลูเกิดปัญหาการขาดแคลนพยาบาล จึงจำเป็นต้องเรียกร้องขอกำลังคนจากสาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิและสาธารณรัฐคิริบาส Mr. Teo ใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อการให้เงินสนับสนุนของไต้หวัน ที่ช่วยเชื่อมโยงหลักสูตรวิชาชีพการพยาบาลของมหาวิทยาลัยแห่งชาติฟิจิ (Fiji National University) ในรูปแบบออนไลน์ เพื่อส่งเสริมให้พยาบาลตูวาลูได้รับใบประกาศนียบัตร ตราบจนเดือนธันวาคม ปี 2022 มีพยาบาลตูวาลูสิบกว่าคน สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติฟิจิ โดยในอนาคตจะมีพยาบาลที่มีใบประกอบวิชาชีพช่วยให้การดูแลรักษาประชาชนชาวตูวาลูเพิ่มมากขึ้น
 
ตูวาลูจะมุ่งมั่นผลักดันการทูตรัฐสภาและโครงการความร่วมมือที่เกี่ยวข้องต่อไป ควบคู่ไปกับการธำรงรักษาค่านิยมสากลด้านประชาธิปไตย ความยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนต่อไป ซึ่งค่านิยมเหล่านี้ล้วนเป็นหลักการที่ไต้หวันก็ร่วมยึดมั่นเช่นเดียวกัน  โดยทั้งสองประเทศจะต้องเสริมสร้างความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรลุเป้าหมายด้านประชาธิปไตย หลักนิติธรรม สันติภาพและสิทธิมนุษยชนให้คงอยู่อย่างสมบูรณ์สืบต่อไป