กระทรวงเศรษฐการ วันที่ 20 ก.พ. 66
การประชุมเจรจาทางเศรษฐกิจระดับรัฐมนตรีช่วยว่าการระหว่างไต้หวัน – ลิทัวเนีย ครั้งที่ 2 ได้เปิดฉากขึ้นเมื่อวันที่ 20 ก.พ. โดยมีนายเฉินเจิ้งฉี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐการ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และ Mr. Karolis Zemaitis รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐการและนวัตกรรมแห่งสาธารณรัฐลิทัวเนีย ร่วมทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมในครั้งนี้ โดยเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) ว่าด้วยความร่วมมือทางอุตสาหกรรมเลเซอร์ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม โดยได้เชิญนางหวังเหม่ยฮัว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการ เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน โดยรมว.หวังฯ กล่าวว่า ความร่วมมือทางอุตสาหกรรมระหว่างไต้หวัน – ลิทัวเนีย ได้บังเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเชื่อว่าความร่วมมือทางอุตสาหกรรมเลเซอร์ที่ร่วมลงนามระหว่างกันในครั้งนี้ จะนำมาซึ่งโอกาสทางธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงของทั้งสองประเทศ
โดยการประชุมเจรจาทางเศรษฐกิจระหว่างไต้หวัน - ลิทัวเนียในครั้งนี้ นอกจากจะทำการร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นห่วงโซ่อุปทานที่หลากหลาย การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสีเขียวและการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลแล้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการของทั้งสองฝ่ายยังได้ร่วมสนทนาเกี่ยวกับนโยบายทางเศรษฐกิจ เพื่อหารือกันในทิศทางความร่วมมือในอนาคต รมช.เฉินฯ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ระบบเศรษฐกิจโลกได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย อาทิ สถานการณ์โรคโควิด – 19 สงครามรัสเซีย – ยูเครน และความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างสหรัฐฯ - จีน โดยไต้หวันจะเร่งเสริมสร้างความร่วมมือกับกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันอย่างลิทัวเนีย เพื่อเสริมสร้างความทรหดของห่วงโซ่อุปทานด้านประชาธิปไตย นอกจากนี้ ความร่วมมือในด้านต่างๆ ระหว่างไต้หวัน – ลิทัวเนีย อาทิ เซมิคอนดักเตอร์ เลเซอร์และนวัตกรรม ก็ได้บังเกิดผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน
รมช. Zemaitis กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมานี้ แม้ว่าลิทัวเนียจะเผชิญหน้ากับความท้าทายนานาประการ อย่างวิกฤตด้านพลังงาน อันเกิดจากผลกระทบของสงครามรัสเซีย – ยูเครน แต่ก็ยังสามารถทุบสถิติสูงสุดในด้านการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) โดยมีอัตราการขยายตัวเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 สะท้อนให้เห็นถึงความทรหดด้านเศรษฐกิจของลิทัวเนีย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ลิทัวเนียได้ให้ความสำคัญต่อความร่วมมือกับไต้หวันในด้านต่างๆ โดยเป้าหมายในปีนี้คือการเร่งผลักดันความร่วมมือในด้านต่างๆ ให้บังเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ตลอดจนมุ่งเป้าไปที่การแสวงหาโอกาสความร่วมมือทางธุรกิจ
นับเป็นครั้งที่ 2 ที่รมช. Zemaitis เดินทางเยือนไต้หวันต่อเนื่องจากเมื่อเดือนกันยายน ปี 2022 ที่รมช. Zemaitis ได้นำคณะตัวแทนผู้ประกอบการเดินทางเยือนไต้หวัน ซึ่งคณะตัวแทนผู้ประกอบการ ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งลิทัวเนีย (LPK) และสมาคมวิศวกรรมและเทคโนโลยีแห่งลิทัวเนีย (LINPRA) รวม 30 ราย นอกจากนี้ กต.ไต้หวันยังได้ร่วมจัดกิจกรรม “วันโอกาสธุรกิจลิทัวเนีย ปี 2023” และ “รุกขยายตลาดสู่ยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก - งานแถลงข่าวว่าด้วยโอกาสธุรกิจและการลงทุนในลิทัวเนีย” เพื่อแสวงหาโอกาสธุรกิจและเชื่อมโยงกลุ่มผู้ประกอบการของสองประเทศในเชิงลึกมากยิ่งขึ้น
โดยในครั้งนี้ ไต้หวัน – ลิทัวเนียได้ร่วมลงนาม MoU รวม 3 ฉบับ อาทิ “MoU ว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์วิจัยพัฒนานวัตกรรมเลเซอร์ความเร็วสูง” ระหว่างสถาบันวิจัยเทคโนโลยีทางอุตสาหกรรม (ITRI) และสมาคมเลเซอร์แห่งลิทัวเนีย (Lithuania Laser Association) นอกจากนี้ สภาอุตสาหกรรมแห่งลิทัวเนีย ยังได้ทยอยร่วมลงนาม MoU กับสมาคมอุตสาหกรรมและการค้า (The Chinese National Association of Industry and Commerce , CNAIC) และสภาอุตสาหกรรมไต้หวัน (Chinese National Federation of Industries, CNFI) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนของกลุ่มผู้ประกอบการทั้งสองฝ่าย ตลอดจนเพื่อแสวงหาโอกาสทางความร่วมมือระหว่างกันในภายภาคหน้าสืบต่อไป