กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 14 มี.ค. 66
เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ที่ผ่านมา นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์แก่ Mr. Björn Djurberg ผู้อำนวยการสถานีวิทยุ Sveriges Radio (SR) ซึ่งเป็นสถานีวิทยุแห่งชาติของสวีเดน สาขากรุงปักกิ่ง โดยเนื้อหาบทสัมภาษณ์ได้รับการเผยแพร่ผ่านรายการข่าวของสถานีวิทยุ SR อย่าง “บทสัมภาษณ์พิเศษ” “P1 Morgon” และ “Ekot” เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ที่ผ่านมา และได้มีการอัปโหลดขึ้นเว็บไซต์สถานี SR เพื่อให้สามารถรับฟังผ่านทางออนไลน์ได้ด้วย ซึ่งได้รับความสนใจจากทุกแวดวงในสวีเดนเป็นวงกว้าง
รมว.อู๋ฯ กล่าวว่า จีนใช้ข้ออ้างจากการที่นางแนนซี เพโลซี (Nancy Pelosi) ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เดินทางเยือนไต้หวัน มาทำการซ้อมรบครั้งใหญ่ในน่านน้ำรอบไต้หวัน โดยเครื่องบินรบได้รุกล้ำเข้าสู่เขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ของไต้หวันและเส้นแบ่งเขตกึ่งกลางช่องแคบไต้หวันบ่อยครั้ง ประกอบกับการก่อสงครามจิตวิทยาเพื่อสร้างความวิตกกังวลให้แก่ประชาชนชาวไต้หวันอย่างต่อเนื่อง หลายสิบปีมานี้ เส้นกึ่งกลางช่องแคบไต้หวันเป็นปัจจัยที่ช่วยธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันและระดับภูมิภาค แต่จีนกลับต้องการทำลายสถานภาพเดิมที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน พร้อมทั้งกล่าวอ้างว่า ช่องแคบไต้หวันมิใช้น่านน้ำสากล นอกจากนี้ จีนยังมักกล่าวอ้างในองค์การระหว่างประเทศอยู่เสมอว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน เพื่อพยายามวางพื้นฐานทางกฎหมายสำหรับรองรับการรุกรานไต้หวัน ซึ่งล้วนแล้วแต่พิสูจน์ให้เห็นว่า การข่มขู่จากจีนมีอยู่จริงและมีอานุภาพในการทำลายล้างที่สูงมาก
รมว.อู๋ฯ ชี้ว่า ความทะเยอทะยานในการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการจากจีน ไม่เพียงแค่มุ่งเป้าไปที่ไต้หวันเท่านั้น หากเกิดสงครามในช่องแคบไต้หวัน กลุ่มประเทศในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิกและทั่วโลกก็จะได้รับผลกระทบพ่วงด้วยเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุนี้ ไต้หวันจึงเร่งจัดตั้งแนวทางการปกป้องประชาธิปไตยร่วมกับกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันอย่างกระตือรือร้น เพื่อรับมือกับสถานการณ์ข้างต้น รมว.อู๋ฯ เน้นย้ำว่า แทนที่จะคาดเดาว่าจีนจะเข้ารุกรานเมื่อใด สู้เอาเวลามาสร้างหลักประกันให้แก่ศักยภาพการป้องกันประเทศด้วยการพึ่งพาตนเองจะเป็นประโยชน์กว่า เพื่อให้จีนตระหนักว่า การรุกรานไต้หวันด้วยกำลังอาวุธจะต้องพบเจอกับบทเรียนราคาแพง สงคราม ไม่มีผู้ชนะที่แท้จริง ซึ่งรวมถึงจีนด้วย พวกเราจำเป็นต้องเตรียมการรับมือให้พร้อม เพื่อใช้พลังการป้องปรามและสกัดกั้นการใช้กำลังอาวุธรุกรานไต้หวันของจีน
รมว.อู๋ฯ กล่าวว่า ยูเครนใช้แสนยานุภาพทางการทหารที่ขาดความสมดุลมาต่อต้านการรุกรานดินแดนจากประเทศมหาอำนาจอย่างรัสเซียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการแสวงหาพลังสนับสนุนจากประชาคมโลกอย่างกระตือรือร้น ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการเปิดโลกทัศน์และสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ภาคประชาชนไต้หวัน ซึ่งนอกจากประชาชนชาวไต้หวันจะมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการปกป้องประเทศ พร้อมมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาอำนาจอธิปไตย ประชาธิปไตยและเสรีภาพให้คงอยู่ต่อไปแล้ว รัฐบาลยังจะเร่งผลักดันการปฏิรูปทางการทหารอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับแสนยานุภาพทางการทหารที่ขาดความสมดุล และผูกสัมพันธ์กับพันธมิตรระหว่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้น โดยในช่วงท้าย รมว.อู๋ฯ เน้นย้ำว่า ไต้หวันจะร่วมพัฒนาความสัมพันธ์กับผู้ใด จีนไม่มีสิทธิ์ก้าวก่าย
