ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 6 เม.ย. 66
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น หรือเทียบเท่ากับช่วงรุ่งสางของวันที่ 6 เม.ย. ตามเวลาในกรุงไทเป คณะตัวแทนตาม “แผนการเยือนหุ้นส่วนประชาธิปไตยเพื่อความรุ่งเรืองร่วมกัน” ที่นำโดยประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เดินทางเยือนหอสมุดและพิพิธภัณฑ์โรนัลด์ เรแกน (Ronald Reagan Presidential Library and Center) เพื่อพูดคุยหารือกับ Mr. Kevin McCarthy ประธานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกา พร้อมทั้งเข้าร่วมการรประชุมผู้นำแบบทวิภาคีกับสมาชิกสภาแบบข้ามพรรคของสหรัฐฯ โดยหลังเสร็จสิ้นการประชุม ปธน.ไช่ฯ ก็ได้ร่วมประกาศแถลงการณ์ร่วมกับ Mr. McCarthy อย่างเปิดเผยด้วย
ปธน.ไช่ฯ กล่าวระหว่างแถลงการณ์ว่า ข้าพเจ้ารู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่มีโอกาสได้มาเยือนหอสมุดประธานาธิบดีเรแกนอีกครา พร้อมทั้งมีโอกาสพบปะพูดคุยกับ Mr. McCarthy และสมาชิกสภาของสหรัฐฯ โดยปธน.ไช่ฯ ได้แสดงความขอบคุณสำหรับการต้อนรับอันแสนอบอุ่นจาก Mr. McCarthy รวมไปถึงการที่ Mr. McCarthy ได้เชิญชวนให้สมาชิกผู้นำสภาแบบข้ามพรรค สละเวลาอันมีค่าเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ โดยการเข้ามีร่วมและการสนับสนุนจากบรรดาสมาชิกทุกคน ทำให้ประชาชนชาวไต้หวันตระหนักเห็นว่า พวกเรามิได้ถูกกีดกันให้อยู่เพียงลำพังอย่างโดดเดี่ยว
ปธน.ไช่ฯ ชี้ว่า หอสมุด Ronald Reagan Presidential Library and Center นับเป็นสถานที่นัดพบที่ดีที่สุด ที่พวกเราจะมีโอกาสในการแสดงความเคารพต่ออดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผู้นำประเทศระดับโลกที่ได้รับการยกย่องสูงสุด ท่ามกลางยุคสมัยที่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต้องประสบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ประธานาธิบดี โรนัลด์ เรแกน แห่งสหรัฐฯ ได้สวมบทบาทที่สำคัญในการผนึกกำลังร่วมกับสมาชิกสภาสหรัฐฯ ในการปกป้องและรักษาไว้ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ ให้ยืนยงมาตราบจนถึงทุกวันนี้ โดยหลักประกัน 6 ประการที่ปธน.เรแกนได้ยื่นเสนอในปีค.ศ. 1982 และ “กฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวัน” ซึ่งเป็นกฎหมายที่ได้รับความเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์จากรัฐสภาสหรัฐฯ ถือเป็นรากฐานที่สำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วน ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งมั่นคงยาวนานมาเป็นเวลากว่า 40 ปี โดยในช่วงเวลาดังกล่าว พวกเราชาวไต้หวันต่างมุ่งมั่นธำรงรักษาสันติภาพ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมความเจริญรุ่งเรือง และร่วมเป็นสักขีพยานแห่งการพัฒนาทางประชาธิปไตยอันยั่งยืน
ปธน.ไช่ฯ ชี้อีกว่า เชื่อว่าขณะนี้ทุกคนคงตระหนักเห็นแล้วว่า สันติภาพที่พวกเราธำรงรักษาไว้ตลอดมาและประชาธิปไตยที่พวกเรามุ่งมั่นสรรค์สร้าง กำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ปัจจุบัน โลกแห่งประชาธิปไตยกำลังถูกคุกคามอย่างหนัก การรักษาไฟประภาคารแห่งเสรีภาพมิให้มอดดับลง จึงนับว่าเป็นภารกิจที่มีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ของทุกประเทศ ปธน.เรแกน เคยกล่าวไว้ว่า “เสรีภาพมิใช่สมบัติที่สามารถส่งต่อรุ่นสู่รุ่น แต่เป็นสุ่งที่ผู้คนในทุกยุคสมัยต้องต่อสู้และปกป้องเสรีภาพอย่างมุ่งมั่นด้วยตนเอง”
ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า ในระหว่างการเจรจากับผู้นำรัฐสภาเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา ตนได้เน้นย้ำจุดยืนว่าด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจในการธำรงรักษาสถานภาพเดิมที่เปี่ยมด้วยสันติภาพของไต้หวัน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนชาวไต้หวันสามารถใช้ชีวิตในสังคมที่เปี่ยมด้วยเสรีภาพและการเปิดกว้างต่อไป โดยในระหว่างการประชุม ปธน.ไช่ฯ ยังได้อ้างอิงแนวคิดของปธน.เรแกนที่ว่า “หากต้องการธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพ จำเป็นต้องเสริมสร้างแสนยานุภาพของตนเองให้แข็งแกร่งเสียก่อน”
ปธน.ไช่ฯ ในฐานะตัวแทนของประชาชนชาวไต้หวันกล่าวแสดงความขอบคุณต่อสมาชิกสภาแบบข้ามพรรคในรัฐสภาสหรัฐฯ พร้อมทั้งแสดงความขอบคุณต่อเหล่าสมาชิกสภาสหรัฐฯ ที่ได้ยื่นเสนอร่างกฎหมายว่าด้วยการสร้างความแข็งแกร่งให้ไต้หวันและการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ โดยร่างกฎหมายเหล่านี้สามารถช่วยสร้างศักยภาพด้านการป้องกันประเทศให้แก่ไต้หวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการสร้างความเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ พร้อมให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญ เชื่อว่าจะมีส่วนช่วยในการธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพ ความเจริญรุ่งเรืองและผลประโยชน์ร่วมกันของพวกเราในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก ให้คงอยู่สืบไป