กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 18 เม.ย. 66
การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลกทั้ง 7 ประเทศ หรือกลุ่ม G7 ในปีนี้ มีกำหนดการจัดขึ้นที่จังหวัดนางาโนะ ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงระหว่างวันที่ 16 – 18 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยแถลงการณ์หลังเสร็จสิ้นการประชุมได้แสดงจุดยืนว่าด้วยสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันเป็นปัจจัยสำคัญที่ไม่สามารถขาดได้ในด้านความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองในประชาคมโลก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ทั้งสองฝ่ายแก้ไขปัญหาสองฝั่งช่องแคบด้วยสันติวิธี พร้อมทั้งได้มีการระบุให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในการประชุมสมัชชาอนามัยโลก (WHA) และการประชุมเฉพาะทางในองค์การอนามัยโลก (WHO) กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) รู้สึกยินดีเป็นอย่างมากสำหรับเนื้อความในแถลงการณ์ พร้อมทั้งขอขอบคุณเหล่าประเทศสมาชิก G7 สำหรับพลังเสียงสนับสนุนอันหนักแน่นที่มีต่อไต้หวัน
แถลงการณ์ฉบับนี้ยังได้มีการระบุถึงจุดยืนว่าด้วยความสำคัญของการธำรงรักษาเสรีภาพและการเปิดกว้างในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก โดยกลุ่มประเทศสมาชิก G7 จะร่วมเฝ้าจับตาต่อสถานการณ์ในทะเลจีนใต้และทะเลจีนตะวันออก พร้อมทั้งต่อต้านความทะเยอทะยานในการเปลี่ยนแปลงสถานภาพในปัจจุบันของช่องแคบไต้หวัน ด้วยการใช้กำลังอาวุธหรือการสร้างแรงกดดันเพื่อบีบบังคับ ตลอดจนยังเรียกร้องให้รัฐบาลจีน ร่วมเคารพหลักการและวัตถุประสงค์ของ “กฎบัตรแห่งสหประชาชาติ” ด้วยการยุติพฤติกรรมการข่มขู่ การสร้างแรงกดดันและการใช้กำลังอาวุธ เป็นต้น
กต.ไต้หวัน สังเกตเห็นว่า กระทรวงการต่างประเทศของจีนยังคงไม่ยอมรับและแก้ไขข้อเท็จจริงที่ได้รับการบิดเบือนเรื่อยมา แต่กลับตอกย้ำความผิดพลาดของตนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยการอ้างว่า ไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของประเทศจีนที่ไม่สามารถถูกแบ่งแยกได้ หนำซ้ำยังกล่าวหาว่าแถลงการณ์การประชุมรมว.ต่างประเทศของกลุ่มประเทศ G7 เป็นการหนุนหลังกลุ่มที่ต้องการแยกไต้หวันเป็นเอกราช ซึ่งหวังที่จะทำลายสถานภาพเดิมในปัจจุบันของช่องแคบไต้หวัน โดยกต.ไต้หวันขอประกาศจุดยืนอย่างหนักแน่นว่า ไต้หวันและสาธารณรัฐประชาชนจีน มิได้เป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงเสมอมา และเป็นสถานภาพเดิมของสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน อำนาจอธิปไตยของไต้หวันเป็นของประชาชนชาวไต้หวันทั่วประเทศเท่านั้น มีเพียงประชาชนชาวไต้หวันที่มีสิทธิกำหนดอนาคตของไต้หวันด้วยตนเอง
ไต้หวันในฐานะที่เป็นประเทศสมาชิกของภูมิภาคอินโด – แปซิฟิกที่มีความรับผิดชอบ จะปกป้องค่านิยมด้านประชาธิปไตย เสรีภาพ สิทธิมนุษยชนและหลักนิติธรรม ผ่านการเคลื่อนไหวที่เป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่องและยินดีที่จะเสริมสร้างความร่วมมือกับประเทศสมาชิก G7 ตลอดจนร่วมมุ่งมั่นรักษาเสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองในประชาคมโลก ให้คงอยู่สืบต่อไป