ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
นายหลี่ฉุน รมช.กต.ไต้หวัน เข้าร่วมการประชุมโต๊ะกลมที่จัดขึ้นในกรุงเคียฟเป็นครั้งแรกหลังสงครามรัสเซีย - ยูเครน ผ่านรูปแบบออนไลน์ โดยได้ส่งผ่านข้อความที่ว่า การผนึกกำลังระหว่างกลุ่มประเทศประชาธิปไตย สามารถสกัดกั้นผู้รุกรานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากทุกฝ่าย
2023-04-25
New Southbound Policy。นายหลี่ฉุน รมช.กต.ไต้หวัน เข้าร่วมการประชุมโต๊ะกลมที่จัดขึ้นในกรุงเคียฟเป็นครั้งแรกหลังสงครามรัสเซีย - ยูเครน ผ่านรูปแบบออนไลน์ โดยได้ส่งผ่านข้อความที่ว่า การผนึกกำลังระหว่างกลุ่มประเทศประชาธิปไตย สามารถสกัดกั้นผู้รุกรานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากทุกฝ่าย (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)
นายหลี่ฉุน รมช.กต.ไต้หวัน เข้าร่วมการประชุมโต๊ะกลมที่จัดขึ้นในกรุงเคียฟเป็นครั้งแรกหลังสงครามรัสเซีย - ยูเครน ผ่านรูปแบบออนไลน์ โดยได้ส่งผ่านข้อความที่ว่า การผนึกกำลังระหว่างกลุ่มประเทศประชาธิปไตย สามารถสกัดกั้นผู้รุกรานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากทุกฝ่าย (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 22 เม.ย. 66
 
เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ที่ผ่านมา นายหลี่ฉุน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ตอบรับคำเชิญขององค์การ ANTS Network และองค์การ International Center for Ukrainian Victory (ICUV) ซึ่งเป็นองค์การนอกภาครัฐที่มีชื่อเสียงของยูเครน เข้าร่วมกล่าวปราศรัยในพิธีเปิดการประชุมโต๊ะกลม ภายใต้หัวข้อ “เหตุใดชัยชนะของยูเครนที่มีต่อรัสเซีย จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการสกัดกั้นการรุกรานไต้หวันของจีนด้วยกำลังทหารได้อย่างเห็นผล” โดย Ms. Yulia Klymenko สมาชิกรัฐสภายูเครนและคณะกรรมการในกลุ่มพันธมิตรไต้หวันในรัฐสภายูเครน และนายหวังติ้งอวี่ กรรมาธิการ คณะกรรมาธิการการต่างประเทศและกลาโหม สภานิติบัญญัติ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ก็ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
 
รมช.หลี่ฯ กล่าวว่า สถานการณ์การรุกรานยูเครนของรัสเซีย ได้ส่งผลกระทบให้เกิดวิกฤตกผู้ลี้ภัยครั้งใหญ่ที่สุด หลังสิ้นสุดสถานการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีประชาชนชาวยูเครนกว่า1,000 ล้านคน หนีภัยไปยังประเทศต่างๆในทวีปยุโรป และมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนกว่า 400,000 ราย
 
นอกจากนี้ รมช.หลี่ฯ ยังชี้แจงว่า ไต้หวัน – ยูเครนเป็นประเทศแนวหน้าที่ต้องเผชิญกับการแผ่ขยายของอำนาจเผด็จการ การที่มิตรสหายชาวยูเครนประสบกับภัยสงครามในครั้งนี้ ประชาชนชาวไต้หวันต่างรู้สึกเจ็บปวดไม่แพ้กัน โดยหลังสงครามรัสเซีย - ยูเครน ปะทุขึ้น รัฐบาลไต้หวันได้ร่วมประณามพฤติกรรมป่าเถื่อนของรัฐบาลรัสเซียในทันที  อีกทั้งภาคประชาชนของไต้หวันยังได้ยื่นมือให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ลี้ภัยชาวยูเครนด้วยการระดมเงินบริจาค จำนวน 40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และสิ่งของจำเป็น รวมน้ำหนักกว่า 700 ตัน แสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณแห่งการยืนหยัดเคียงข้างระหว่างภาคประชาชนไต้หวัน - ยูเครน ที่พร้อมต่อสู้ในการปกป้องเสรีภาพ ประชาธิปไตยและอำนาจอธิปไตยของประเทศชาติ เพื่อร่วมสกัดกั้นการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการ
 
รมช.หลี่ฯ ยังระบุว่า หลังจากที่ Ms. Nancy Pelosi อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐฯ ได้เดินทางเยือนไต้หวันเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2022 จีนได้ใช้เหตุข้างต้นเป็นข้ออ้างในการซ้อมรบรอบน่านน้ำไต้หวันเพื่อเป็นการข่มขู่ไต้หวัน นอกจากนี้ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา จีนยังได้หยิบยกข้ออ้างในกรณีที่ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) พบปะพูดคุยกับ Mr. Kevin McCarthy ประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐฯ ในระหว่างการแวะเยือนสหรัฐฯ เมื่อช่วงที่ผ่านมา  ทำการซ้อมรบรอบน่านน้ำไต้หวัน  วัตถุประสงค์เพื่อต้องการเปลี่ยนแปลงสถานภาพเดิมของช่องแคบไต้หวันตามความเห็นชอบของตนเพียงฝ่ายเดียว ซึ่งส่งผลกระทบรุนแรงต่อความมั่นคงของไต้หวัน รวมไปถึงสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก
 
รมช.หลี่ฯ เน้นย้ำว่า เมื่อปี 2014 ประชาคมโลกได้ปล่อยปละละเลยให้รัสเซียเข้ารุกรานไครเมียตามอำเภอใจ และนำไปสู่สงครามรัสเซีย - ยูเครนในวันนี้ หากความทะเยอทะยานในการแผ่ขยายอิทธิพลของจีนไม่ถูกสกัดกั้นไว้เสียแต่เนิ่นๆ จะเกิดเป็นภัยคุกคามและผลกระทบต่อทั่วโลก ซึ่งมิได้จำกัดเพียงเฉพาะในไต้หวันเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ รมช.หลี่ฯ จึงขอเรียกร้องให้กลุ่มประเทศประชาธิปไตยประสานความร่วมมือกันอย่างสามัคคี เพื่อร่วมสกัดกั้นการผนึกกำลังกันระหว่างอำนาจเผด็จการทั่วโลก
 
โดยรมช.หลี่ฯ ยังได้ใช้โอกาสนี้ ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของภาครัฐบาลและประชาชนชาวไต้หวัน แสดงความขอบคุณต่อสหภาพยุโรป โปแลนด์ เยอรมนี อังกฤษ และกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน ที่ได้ออกแถลงการณ์เน้นย้ำถึงความสำคัญของสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน ต่อต้านการเปลี่ยนแปลงสถานภาพเดิมด้านความมั่นคงในช่องแคบไต้หวัน และการใช้กำลังอาวุธของจีน โดยรมช.หลี่ฯ ยังแสดงจุดยืนว่า การผนึกกำลังระหว่างกลุ่มประเทศประชาธิปไตย จะสามารถสกัดกั้นผู้รุกรานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไต้หวันยินดีที่จะประสานความร่วมมือกับพันธมิตรด้านประชาธิปไตย ปกป้องเสรีภาพ เสถียรภาพ การเปิดกว้าง และความสงบเรียบร้อยเพื่อมุ่งสู่ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันต่อไป เชื่อว่ายูเครน ไต้หวันและประชาธิปไตย จะได้รับชัยชนะในท้ายที่สุด ซึ่งการเข้าร่วมการประชุมของรมช.หลี่ฯ ในครั้งนี้ ได้รับการตอบรับที่ดีจากทุกแวดวงในประชาคมโลก