กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 24 เม.ย. 66
เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์แก่ Mr. Pablo Díez ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าว “หนังสือพิมพ์รายวัน ABC” ของสเปนที่ประจำการอยู่ในภูมิภาคเอเชีย โดยเนื้อหาบทสัมภาษณ์ถูกนำออกเผยแพร่ในหน้าแรกของหนังสือพิมพ์และในหน้าข่าวต่างประเทศเต็ม 2 หน้ากระดาษหนังสือพิมพ์ของฉบับวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา ภายใต้หัวข้อ “หากไต้หวันเกิดสงคราม นยจะส่งผลให้ร้อยละ 40 ของการค้าโลกเกิดภาวะชงักงัน” (Una guerra en Taiwán interrumpiría el 40% del comercio mundial) ซึ่งได้รับความสนใจในวงกว้างในหมู่ปัญญาชนชาวสเปนและกลุ่มประเทศในภูมิภาคลาตินอเมริกา
รมว.อู๋ฯ กล่าวว่า กลุ่มประเทศในทวีปยุโรปให้ความสำคัญต่อสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันเป็นอย่างมาก หลายปีมานี้ รัฐบาลฝรั่งเศสได้ให้การสนับสนุนสันติภาพและเสถียรภาพในไต้หวันอย่างต่อเนื่อง นโยบายที่เป็นมิตรต่อไต้หวันก็ยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ Ms. Ursula von der Leyen ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป Mr. Josep Borrell รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปและผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรปด้านการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคง ต่างก็แสดงจุดยืนว่าด้วยการธำรงรักษาสถานภาพในปัจจุบันของช่องแคบไต้หวันและสันติภาพในภูมิภาค อีกทั้ง Ms. Annalena Baerbock รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเยอรมนี ก็ได้แสดงทรรศนะในระหว่างการเดินทางเยือนจีนว่า ปัญหาความขัดแย้งในช่องแคบไต้หวัน ควรแก้ไขด้วยสันติวิธี ต่อต้านการเปลี่ยนแปลงสถานภาพเดิมตามความเห็นชอบเพียงฝ่ายเดียว
รมว.อู๋ฯ ระบุว่า ช่องแคบไต้หวันเป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญในระดับสากล ปริมาณการขนส่งสินค้าผ่านช่องแคบไต้หวันครองสัดส่วนกว่าร้อยละ 40 ของโลก หากเกิดสงครามขึ้นในช่องแคบไต้หวัน ระบบเศรษฐกิจโลกก็จะเผชิญหน้ากับความเสียหายครั้งใหญ่หลวง นอกจากนี้ แผ่นชิปในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่ผลิตโดยไต้หวัน ยังครองส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกกว่าร้อยละ 60 ของโลก โดยในจำนวนนี้ แผ่นชิปวงจรรวมที่ผลิตโดยเทคโนโลยีขั้นสูง ครองสัดส่วนกว่าร้อยละ 90 ของโลก หากเกิดสงครามขึ้นในช่องแคบไต้หวัน การค้าระหว่างประเทศทั่วโลกก็พลอยจะได้รับความเสียหายตามไปด้วย ด้วยเหตุนี้ การรักษาสถานภาพเดิมในช่องแคบไต้หวันจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง การที่สหรัฐฯ อนุมัติการจำหน่ายอาวุธยุทโธปกรณ์และจัดการฝึกอบรมทางทหารให้แก่ไต้หวันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการเสริมสร้างแสนยานุภาพในการป้องกันประเทศด้วยการพึ่งพาตนเองของไต้หวัน รมว.อู๋ฯ จึงขอใช้โอกาสนี้เรียกร้องให้นานาประเทศทั่วโลกควรแสดงจุดยืนว่าด้วยการต่อต้านการข่มขู่ด้วยกำลังทหารอย่างหนักแน่นและต่อเนื่อง เพื่อสกัดกั้นการรุกรานไต้หวันจากจีนด้วยกำลังทหาร
รมว.อู๋ฯ กล่าวว่า ระยะที่ผ่านมา สาธารณรัฐฮอนดูรัสประสบกับภาวะวิกฤตหนี้สาธารณะอย่างรุนแรง โดยได้เรียกร้องขอความช่วยเหลือทางการเงินเป็นมูลค่ามหาศาลจากไต้หวัน ซึ่งเกินกว่าขอบเขตการให้การสนับสนุนแก่ประเทศพันธมิตรตามธรรมเนียมดั้งเดิมของไต้หวัน ซึ่งที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้ให้สัญญาจอมปลอมเพื่อหลอกล่อให้สาธารณรัฐคอสตาริกา สาธารณรัฐเอลซัลวาดอร์และสาธารณรัฐโดมินิกัน หันมาผูกสัมพันธไมตรีกับจีนแทน แต่หลังจากที่จีนพิชิตเป้าหมายทางการทูตแล้ว ก็ได้ละเลยต่อคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ หรือแม้แต่บีบบังคับให้ประเทศที่ขอความช่วยเหลือ จมอยู่ในกับดักหนี้สินมหาศาล ยกตัวอย่างเช่นในกรณีเขื่อนชลประทานในเอกวาดอร์ ส่วนการให้ความช่วยเหลือใน “รูปแบบไต้หวัน” เป็นการช่วยปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางการแพทย์ การฝึกอบรมบุคลากร การพัฒนาทางดิจิทัล และการยกระดับประสิทธิภาพของภาครัฐ เพื่อสร้างความผาสุกให้แก่ภาคประชาชนโดยตรง โดยไต้หวันจะมุ่งมั่นเสริมสร้างความสัมพันธ์ในเชิงลึกกับประเทศพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมให้มิตรภาพหยั่งรากลึกและเติบโตขึ้นอย่างสวยงาม
รมว.อู๋ฯ ยังได้ชี้แจงว่า แม้ว่าอิทธิพลของจีนจะทรงพลัง แต่ไต้หวันกลับได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและรัฐสภาจากหลายประเทศทั่วโลก และไต้หวันได้เร่งจัดการเจรจาเพื่อลงนามความตกลงด้านการลงทุนและการค้ากับนานาประเทศอย่างกระตือรือร้น ซึ่งการเจรจาทางการค้าระหว่างไต้หวันกับสหรัฐฯ และแคนาดา มีความคืบหน้าไปด้วยดี พวกเรายังคาดหวังที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิก “ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก” (CPTPP) โดยคาดหวังว่าในอนาคตจะสามารถได้รับการสนับสนุนจากประชาคมโลกเพิ่มมากขึ้น เพื่อคว้าโอกาสในเวทีนานาชาติที่ไต้หวันพึงได้รับต่อไป
รมว.อู๋ฯ เน้นย้ำว่า ไต้หวัน - สเปน เป็นประเทศประชาธิปไตยที่ยกย่องค่านิยมสิทธิมนุษยชน เสรีภาพและประชาธิปไตย ในระยะที่ผ่านมา รัฐสภาสเปนได้แสดงความคาดหวังที่จะยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้เป็นไปในเชิงลึก โดยทั้งสองประเทศได้มีการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวระหว่างกันมาเป็นเวลานาน โดยพวกเราจะเร่งเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางความร่วมมือด้านการค้า เศรษฐกิจ การศึกษาและวัฒนธรรม ให้เป็นไปในเชิงลึก ต่อกรณีที่ประชาชนสัญชาติไต้หวันได้กระทำความผิดฐานฉ้อโกง จึงถูกรัฐบาลสเปนส่งตัวไปรับโทษที่จีน รมว.อู๋ฯ รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง พร้อมคาดหวังว่า ในอนาคต ทั้งสองประเทศจะร่วมลงนามความตกลงทางความร่วมมือด้านกระบวนการยุติธรรมทางคดีอาญา เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดเหตุอันน่าสลดเช่นนี้ขึ้นอีกในภายภาคหน้า