กระทรวงคมนาคม วันที่ 17 พ.ค. 66
เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่ผ่านมา ตามเวลาในเขตพื้นที่สหรัฐฯ นายหวังกั๋วฉาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้นำคณะตัวแทนเดินทางเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเอเปคด้านการคมนาคมขนส่ง ครั้งที่ 11 (11th APEC Transportation Ministers' Meeting) ที่จัดขึ้น ณ เมืองดีทรอยต์ในรัฐมิชิแกน โดยมี Mr. Pete Buttigieg รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของสหรัฐฯ ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม โดยการประชุมในครั้งนี้ รมว.หวังฯ ได้ใช้เวลาว่างจากการประชุมร่วมจัดการเสวนาแบบทวิภาคีกับ รมว. Buttigieg โดยมีผู้เข้าร่วมที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมการท่า กรมการบินพลเรือน กรมทางหลวงและทางรถไฟ กรมการขนส่งทางเรือและทางอากาศ และผู้อำนวยการสถานบันวิจัยการคมนาคม รวมถึงตัวแทนผู้ประกอบการไต้หวัน เข้าร่วมหารือกันในประเด็นต่างๆ อาทิ ความร่วมมือด้านการขนส่งทางเรือภายใต้แนวคิดการอนุรักษ์โลก ความร่วมมือด้านห่วงโซ่อุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้า การบริหารควบคุมอากาศยานไร้คนขับ และความมั่นคงของระบบรางรถไฟ เป็นต้น โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสหรัฐฯ ต่างรู้สึกประทับใจต่อแนวทางและผลสัมฤทธิ์ที่เจ้าหน้าที่ไต้หวันร่วมแบ่งปัน โดยทั้งสองฝ่ายยินดีที่จะประสานการติดต่อกับหน่วยงานที่ดูแลในประเด็นต่างๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อพัฒนาไปสู่การแลกเปลี่ยนและความร่วมมือในภายภาคหน้าร่วมกันต่อไป
ในระหว่างการประชุม ภายใต้หัวข้อ “ห่วงโซ่อุปทานและความเชื่อมโยง” รมว.หวังฯ ได้แบ่งปันประสบการณ์แนวทางการเสริมสร้างความทรหดของระบบห่วงโซ่อุปทานที่ประสบความสำเร็จของไต้หวัน โดยรมว.หวังฯ ชี้ว่า ไต้หวันยังคงสามารถดำเนินภารกิจการคมนาคมขนส่งทางทะเลและทางอากาศได้อย่างมีเสถียรภาพ ภายใต้ผลกระทบที่เกิดจากสถานการณ์โรคโควิด – 19 ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจขยายตัวเติบโตไปได้อย่างต่อเนื่อง จึงเห็นได้ว่า ในช่วงโควิด – 19 อุตสาหกรรมการขนส่งทางเรือและทางอากาศของไต้หวัน มีการขยายตัวเติบโตที่สวนกระแส จนสามารถทำรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกด้วย นอกจากนี้ รมว.หวังฯ ยังได้แบ่งปันมาตรการต่างๆ ที่ไต้หวันใช้เพื่อเสริมสร้างความทรหดของโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ พร้อมทั้งแนะนำอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 3 (Terminal 3) และโครงการก่อสร้างรันเวย์แห่งที่ 3 ของท่าอากาศยานนานาชาติเถาหยวน รวมไปถึงศูนย์จัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์หมายเลข 7 ในท่าเรือเกาสง ที่เตรียมจะเปิดใช้อย่างเป็นทางการในเร็ววันนี้ ทั้งนี้ เพื่อต้องการที่จะนำเสนอให้รัฐมนตรีเอเปคประจักษ์เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของรัฐบาลไต้หวัน ในการจัดสร้างให้ท่าอากาศยานไต้หวันเป็นต้นแบบท่าอากาศยานในภูมิภาคเอเชียตะวันออก รวมไปถึงการเป็นท่าเรือศูนย์กลางในการขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์
นอกจากนี้ ในระหว่างการประชุมภายใต้หัวข้อ “บทบาทของหน่วยงานด้านการขนส่งในประเด็นการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ” รมว.หวังฯ ได้ใช้โอกาสนี้ ร่วมแบ่งปันแนวทางการอัดฉีดงบประมาณอุดหนุนในระบบขนส่งมวลชน โดยที่ผ่านมา ท่าเรือในไต้หวันได้รับเครื่องหมายรับรองท่าเรือที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Ecoports) จากองค์การ European Sea Ports Organisation (ESPO) ประกอบกับการที่ไต้หวันเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งอย่างกระตือรือร้น ล้วนเป็นการแสดงให้เห็นถึงการมุ่งสู่ทิศทางที่ดียิ่งขึ้นของไต้หวัน เป็นต้น
นอกจากนี้ ในการประชุมครั้งนี้ รมว.หวังฯ ยังมีโอกาสได้ร่วมพูดคุยกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมของเวียดนาม โดยเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายต่างยินดีที่จะพลิกฟื้นการแลกเปลี่ยนด้านนโยบายและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ภายใต้กรอบ “บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการคมนาคมขนส่ง ระหว่างไต้หวัน - เวียดนาม” ที่ร่วมลงนามไปเมื่อปี 2015 ซึ่งได้มีการมอบหมายผู้ประสานติดต่อสำหรับการประชุมความร่วมมือด้านการขนส่งระหว่างไต้หวัน – เวียดนาม รอบ 2 ต่อไป นอกจากนี้ รมว.หวังฯ ยังได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมแห่งสิงคโปร์ ในประเด็นสถานการณ์ความคืบหน้าของการผลักดันรถบัสพลังงานไฟฟ้าและรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้าด้วย