กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 8 มิ.ย. 66
 
เพื่อฉลองวาระครบรอบ 30 ปีแห่งการจัดตั้งสำนักงานตัวแทนรัฐบาลขึ้นในดินแดนระหว่างกันของไต้หวัน - อิสราเอล เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และมหาวิทยาลัยตั้นเจียง (Tamkang University , TKU) จึงได้ร่วมจัด “การประชุมเชิงวิชาการและวัฒนธรรม ระหว่างไต้หวัน – อิสราเอล เนื่องในวาระครบรอบ 30 ปี” ขึ้น ณ TKU โดยได้เชิญนางเฉินเสี่ยวเชวี้ย รองอธิการบดี TKU นายอวี๋ต้าเหลย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และ Mr. Omer Caspi ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมอิสราเอลประจำกรุงไทเป เข้าร่วมในการประชุมครั้งนี้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการของไต้หวัน – อิสราเอล รวม 6 คน เข้าร่วมงานและร่วมบรรยายในประเด็นที่เกี่ยวข้อง
 
รมช.อวี๋ฯ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา ท้งสองฝ่ายได้ประสานความร่วมมือและร่วมแลกเปลี่ยนกันในด้านต่างๆ อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งได้มีการลงนามความตกลงความร่วมมือรวม 32 รายการ โดยในปีนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องขึ้นในประเทศของตน ได้แก่ นิทรรศการภาพถ่าย มหกรรมการท่องเที่ยว มหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ นิทรรศการภาพวาดของกลุ่มชนพื้นเมือง การประชุมสัมมนาด้านโอกาสทางธุรกิจ รวมถึงการเดินทางเยือนแลกเปลี่ยนของกลุ่มเยาวชนดีเด่นของทั้งสองฝ่าย และการจัดการบรรยายในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับไต้หวันในมหาวิทยาลัยของอิสราเอล เป็นต้น ซึ่งล้วนแล้วแต่แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพอันล้ำค่าระหว่างสองประเทศ
 
รมช.อวี๋ฯ กล่าวอีกว่า การประชุมเชิงวิชาการและวัฒนธรรมในครั้งนี้มีเนื้อหาที่หลากหลาย ทั้งการแบ่งปันประสบการณ์ด้านประชาธิปไตยของสองประเทศ มุมมองทางวิชาการต่อความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - อิสราเอล และแนวทางการรับมือกับข่าวปลอม เป็นต้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและการเรียนรู้ซึ่งกันและกันระหว่างทั้งสองฝ่าย โดยรมช.อวี๋ฯ ยังได้ขอแสดงความขอบคุณต่อ Mr. Caspi ที่ได้อุทิศตนเพื่อคุณประโยชน์ในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – อิสราเอล พร้อมคาดหวังที่จะสร้างความร่วมมือในเชิงลึกเพื่อรับมือกับความท้าทายระดับโลกร่วมกันในภายหน้าต่อไป
 
อิสราเอลเป็นหุ้นส่วนที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกับไต้หวัน ทั้งสองฝ่ายต่างยึดมั่นในค่านิยมด้านประชาธิปไตย เสรีภาพและสิทธิมนุษยชนร่วมกัน โดยในอนาคต ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – อิสราเอล จะได้รับการพัฒนาในเชิงลึก ควบคู่ไปกับการเปิดศักราชใหม่แห่งความร่วมมือในด้านต่างๆ ที่หลากหลายมากขึ้น บนพื้นฐานเดิมที่มีอยู่ต่อไป