ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 28 มิ.ย. 66
เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 28 มิ.ย. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับคณะตัวแทนที่นำโดย “Mr. Mike Rogers ประธานคณะกรรมาธิการด้านกลาโหมแห่งสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ” โดยปธน.ไช่ฯ ได้แสดงความขอบคุณต่อรัฐสภาสหรัฐฯ ที่ให้ความสำคัญต่อความมั่นคงของไต้หวันอย่างหนักแน่นเสมอมาแบบไม่แบ่งแยกฝักฝ่าย พร้อมทั้งให้การสนับสนุนไต้หวันด้วยวิธีการที่เป็นรูปธรรม โดยปธน.ไช่ฯ คาดหวังที่จะแก้ไขปัญหาการเก็บภาษีซ้ำซ้อนที่กลุ่มผู้ประกอบการหรือบุคคล ต้องเผชิญหน้าในปัจจุบัน ควบคู่ไปกับการกระตุ้นการลงทุนและแลกเปลี่ยนทางอุตสาหกรรมระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า ไต้หวันในฐานะที่เป็นประเทศแนวหน้าที่ปกป้องค่านิยมด้านประชาธิปไตยอย่างมุ่งมั่น พวกเราจะเร่งสร้างความร่วมมือกับสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านเศรษฐกิจและกลาโหม เพื่อธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก ให้คงอยู่สืบไป
ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า คณะตัวแทนที่ร่วมเดินทางมาเยือนไต้หวันในครั้งนี้ ต่างให้ความสำคัญกับการพัฒนาสถานการณ์ล่าสุดระหว่างประเทศเป็นอย่างมาก รวมไปถึงความท้าทายที่กลุ่มประเทศที่ยึดมั่นในค่านิยมด้านประชาธิปไตยและเสรีภาพ ต้องเผชิญหน้า อีกทั้งยังให้ความช่วยเหลือในการร่วมปกป้องความมั่นคงทางกลาโหมในพื้นที่สหรัฐฯ และพันธมิตรด้านประชาธิปไตย ผ่านการจัดการประชุมประชาพิจารณ์และการยื่นเสนอญัตติอย่างกระตือรือร้น ในที่ประชุมคณะกรรมาธิการด้านกลาโหม โดยปธน.ไช่ฯ ยังชี้อีกว่า Mr. Rogers และสมาชิกคณะกรรมาธิการ ต่างเร่งผลักดัน “กฎหมายว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (National Defense Authorization Act, NDAA) ในที่ประชุมคณะกรรมาธิการด้านกลาโหมเป็นประจำทุกปี โดยได้มีการกำหนดนโยบายที่ครอบคลุมเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ไต้หวันในด้านการสร้างศักยภาพด้านการป้องกันประเทศ และการสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคง ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ซึ่งนับเป็นเกราะป้องกันที่สำคัญด้านการรักษาความมั่นคงในไต้หวันและภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก
ปธน.ไช่ฯ เห็นว่า ภายใต้การสนับสนุนอย่างเต็มกำลังของรัฐสภาสหรัฐฯ ทั้งสองฝ่ายได้มีการลงนามความตกลงฉบับแรกภายใต้ “แผนริเริ่มทางการค้าไต้หวัน-สหรัฐฯ แห่งศตวรรษที่ 21” เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา นับเป็นหลักชัยของความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้า ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ โดยในอนาคต พวกเราคาดหวังที่จะประสานความร่วมมือกับเหล่าสมาชิกรัฐสภาของสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาการเก็บภาษีซ้ำซ้อนที่กลุ่มผู้ประกอบการและบุคคลระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ต้องเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นการลงทุนและการแลกเปลี่ยนทางภาคอุตสาหกรรม ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ ให้มีความใกล้ชิดมากขึ้น
Mr. Rogers กล่าวขณะปราศรัยว่า ตนรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่มีโอกาสเดินทางเยือนไต้หวัน และได้เข้าเยี่ยมคารวะปธน.ไช่ฯ โดยทั้งสองฝ่ายมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาเป็นเวลายาวนาน อีกทั้งยังยึดมั่นในค่านิยมด้านหลักนิติธรรม ประชาธิปไตย เสรีภาพและการเปิดกว้างในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก ซึ่งเป็นพื้นฐานแห่งการเสริมสร้างมิตรภาพระหว่างกันในเชิงลึก จากการเดินทางมาเยือนของคณะตัวแทนในครั้งนี้ จะเห็นได้ว่า การสนับสนุนของพวกเขามีความหนักแน่นไม่สั่นคลอน และเป็นฉันทามติร่วมกันของรัฐสภาสหรัฐฯ อย่างไม่แบ่งแยกฝักฝ่าย