กระทรวงพัฒนาดิจิทัล วันที่ 27 มิ.ย. 66
ออเดรย์ ถัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาดิจิทัล (Ministry of Digital Affairs, MODA) สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้นำคณะตัวแทนเดินทางเยือนอิสราเอล เพื่อเข้าร่วมการประชุมนานาชาติในหัวข้อ “สัปดาห์แห่งความมั่นคงทางไซเบอร์ ปี 2023” (Cyber Week 2023) ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตามเวลาในเขตพื้นที่ โดยรมว.ถังฯ ได้ถูกรับเชิญให้เข้าร่วมแสดงปาฐกถาในการประชุมหลัก (Main Plenary) เพื่อร่วมแบ่งปันประสบการณ์การเผชิญหน้ากับสงครามลูกผสมผ่านการโจมตีทางไซเบอร์และการปกป้องประชาธิปไตย พร้อมทั้งได้พูดคุยหารือกับบรรดาผู้เชี่ยวชาญทางความมั่นคงทางไซเบอร์ระหว่างประเทศ
MODA แถลงว่า การประชุมนานาชาติใน “สัปดาห์แห่งความมั่นคงทางไซเบอร์” ที่อิสราเอล เป็นกิจกรรมด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ที่สำคัญ ที่อิสราเอลจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดนในปีนี้มีกำหนดการจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 – 29 มิ.ย. นี้ ซึ่งได้ดึงดูดผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ เจ้าหน้าที่หน่วยงานวิจัยเชิงวิทยาศาสตร์ กลุ่มผู้ประกอบการและเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่เกี่ยวข้อง จากทุกพื้นที่ทั่วโลกกว่า 9,000 คน ให้เดินทางมาเข้าร่วม โดยรูปแบบของการประชุมในปีนี้ ประกอบด้วยการประชุมโต๊ะกลม การอภิปรายแบบแบ่งกลุ่ม และการแข่งขัน รวม 50 รอบ
รมว.ถังฯ ถูกรับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมในปีนี้จาก “ศูนย์สหวิทยาการวิจัยเพื่อความมั่นคงทางไซเบอร์แห่งมหาวิทยาลัยเทลอาวีฟ (The Tel Aviv University) ของอิสราเอล” (Blavatnik Interdisciplinary Cyber Research Center, ICRC) โดยมี Dr. Isaac Ben-Israel ผู้ก่อตั้ง ICRC และอดีตประธานคณะกรรมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีแห่งอิสราเอล เข้าให้การต้อนรับด้วยการจัดเลี้ยงอาหารสุดพิเศษ โดยทั้งสองฝ่ายได้ร่วมแลกเปลี่ยนกันเชิงกว้างในประเด็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อการป้องกันด้านความมั่นคงทางไซเบอร์
โดยเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมา รมว.ถังฯ ได้เข้าแสดงปาฐกถาในการประชุมหลักของสัปดาห์แห่งความมั่นคงทางไซเบอร์ในหัวข้อ “การแข่งขันชิงพื้นที่ : ปกป้องมิให้ประชาธิปไตยของไต้หวัน ถูกก่อกวนจากประเทศภายนอก” (CAPTURE THE FLAG: Defending Taiwan’s Democracy from Foreign Interference) ซึ่งรมว.ถังฯ ได้แบ่งปันแนวทางของไต้หวันในการรับมือกับภัยคุกคามด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ด้วยสงครามลูกผสม และมาตรการรับมือ รวมถึงประสบการณ์การธำรงปกป้องประชาธิปไตยของไต้หวัน
รมว.ถังฯ ได้หยิบยกกรณีตัวอย่างการถูกโจมตีทางไซเบอร์ด้วยรูปแบบสงครามลูกผสม ที่ไต้หวันต้องเผชิญหน้าเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว โดยรมว.ถังฯ ชี้ว่า นโยบายความมั่นคงทางไซเบอร์ที่สำคัญที่ผลักดันโดยไต้หวัน ประกอบด้วย “กรอบความเชื่อมั่นเป็นศูนย์” (Zero Trust Architecture) และช่องทางเฉพาะของการส่งผ่านข้อมูลข้ามหน่วยงานภาครัฐ (T-Road) รมว.ถังฯ ระบุว่า จากเหตุการณ์การถูกโจมตีทางไซเบอร์เมื่อปีที่แล้ว ส่งผลให้เว็บไซต์ของหน่วยงานภาครัฐบางส่วน มิสามารถเชื่อมต่อได้เป็นการชั่วคราว ซึ่งกรณีดังกล่าวที่ได้รับรายงานมีมากกว่า 150 กรณีขึ้นไป รวมไปถึงการที่สื่อประชาสัมพันธ์ที่แสดงผลในรูปแบบดิจิทัล ถูกแฮกข้อมูลเพื่อปรับเปลี่ยนเนื้อหาบนสื่อ ให้บิดเบือนจากความเป็นจริง ซึ่งหลังจากที่ MODA ได้จัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ ก็ได้มีการสร้างมาตรการป้องกันความมั่นคงทางไซเบอร์อย่างครอบคลุมและเร่งด่วน โดยในปีนี้ ในระหว่างที่ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เดินทางเยือนสหรัฐฯ ไต้หวันแม้จะประสบกับการโจมตีทางไซเบอร์อย่างหนักหน่วง แต่เว็บไซต์ของหน่วยงานภาครัฐและสื่อประชาสัมพันธ์ในรูปแบบดิจิทัล กลับไม่ได้รับผลกระทบตามที่คนภายนอกคาดการณ์ ซึ่งกรณีที่ได้รับผลกระทบที่ได้รับรายงาน ลดลงเหลือเพียง 40 กรณีเท่านั้น
รมว.ถังฯ ยังได้อ้างอิงเนื้อหาสำคัญของ “ปฏิญญาว่าด้วยเครือข่ายอินเทอร์เน็ตแห่งอนาคต” (Declaration for the Future of the Internet) ที่ระบุไว้ว่า “พวกเราเชื่อมั่นว่า การที่พวกเราพร้อมเผชิญหน้ากับความท้าทายเหล่านี้ ภายใต้วิสัยทัศน์ของการสร้างเครือข่ายอินเทอร์เน็ตแห่งอนาคต ด้วยการส่งเสริมให้รัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เร่งบรรลุคำมั่นด้านการปกป้องสิทธิมนุษยชน ควบคู่ไปกับการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เท่าเทียมและเจริญรุ่งเรือง (We believe we should meet these challenges by working towards a shared vision for the future of the Internet that recommits governments and relevant authorities to defending human rights and fostering equitable economic prosperity) ทั้งนี้ เพื่อให้ทุกแวดวงทั่วโลกร่วมจับมือกันธำรงรักษาค่านิยมด้านประชาธิปไตย ต่อต้านการแทรกแซงข้อมูลจากประเทศภายนอก (Foreign Information Manipulation and Interference, FIMI)
นอกจากนี้ รมว.ถังฯ ยังได้เข้าร่วม “การประชุมว่าด้วยการจัดตั้งความยืดหยุ่นทางดิจิทัล” (Building Cyber Resilience) โดยรมว.ถังฯ เผยว่า ขณะนี้ ไต้หวันกำลังเร่งผลักดันการจัดตั้งเครือข่ายสารสนเทศในรูปแบบที่หลากหลาย พร้อมทั้งบูรณาการเครือข่ายการสื่อสารภาคพื้นดินแบบคงที่ อินเทอร์เน็ตไร้สาย เคเบิลใต้น้ำและดาวเทียม เป็นต้น ควบคู่ไปกับการสร้างกลไกการป้องกันความมั่นคงทางไซเบอร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับความยืดหยุ่นทางดิจิทัล
โดยในช่วงค่ำของวันเดียวกันนี้ รมว.ถังฯ ยังได้ร่วมหารือแลกเปลี่ยนกับ Mr. Boaz Toporovsky ประธานกลุ่มพันธมิตรไต้หวันในรัฐสภาอิสราเอล เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนกันในประเด็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อการป้องกันความมั่นคงทางไซเบอร์ และกลไกการบริการในรูปแบบดิจิทัล เป็นต้น โดยทั้งสองฝ่ายหวังที่จะสร้างความร่วมมือในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัลในเชิงลึก เพื่อยกระดับความสัมพันธ์แบบทวิภาคีระหว่างไต้หวัน - อิสราเอล ในเชิงลึกต่อไป
