ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 4 ก.ค. 66
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 4 ก.ค. ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับ Mr. Kevin Hern สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐโอคลาโฮมา (R-OK ) ประธานคณะกรรมาธิการวิจัยพรรคริพับลิกัน (Republican Study Committee, RSC) แห่งสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกา พร้อมด้วยคณะ โดยปธน.ไช่ฯ ได้แสดงความขอบคุณต่อรัฐสภาและรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ให้การสนับสนุนไต้หวันเสมอมา ในด้านการยกระดับแสนยานุภาพทางกลาโหมเพื่อการป้องกันตนเอง พร้อมนี้ ปธน.ไช่ฯ ยังคาดหวังที่จะผลักดันการลงนาม “ความตกลงว่าด้วยการหลีกเลี่ยงและป้องกันการเก็บภาษีซ้ำซ้อน” (ADTA) ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ในเร็ววัน เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการเก็บภาษีซ้ำซ้อน ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการวางรากฐานธุรกิจให้สำหรับผู้ประกอบการภาคธุรกิจ ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความร่วมมือด้านการลงทุน เศรษฐกิจและการค้าแบบทวิภาคี ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ในภายภาคหน้าต่อไป
หลายปีมานี้ รัฐสภาสหรัฐฯ ได้ผลักดันร่างกฎหมายหลากหลายฉบับ ที่มุ่งเน้นการสนับสนุนไต้หวัน ในการยกระดับแสนยานุภาพด้านกลาโหม โดยปธน.ไช่ฯ ยังกล่าวอีกว่า ไต้หวันสวมบทบาทที่สำคัญในระบบห่วงโซ่อุปทานโลก เมื่อเผชิญหน้ากับการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการ พวกเราคาดหวังที่จะเห็นไต้หวัน - สหรัฐฯ และพันธมิตรด้านประชาธิปไตยทั่วโลก ร่วมธำรงรักษาความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค ให้คงอยู่ต่อไป ตลอดจนร่วมสรรค์สร้างระบบห่วงโซ่อุปทาน ที่มีความมั่นคงและทรหดมากขึ้น
ปธน.ไช่ฯ ระบุว่า สหรัฐฯ - ไต้หวัน เป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่สำคัญของกันและกัน เมื่อเดือนที่แล้ว ทั้งสองฝ่ายได้มีการลงนามความตกลงภายใต้ “แผนริเริ่มทางการค้าแห่งศตวรรษที่ 21” เป็นฉบับแรก ซึ่งผ่านการเห็นชอบจากสภาบริหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นับเป็นความตกลงทางการค้าที่มีความครอบคลุมในทุกภาคส่วน ที่ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมลงนาม นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1979 เป็นต้นมา ซึ่งเชื่อว่าจะมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนทางความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้า ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ในเชิงลึกต่อไป
ในลำดับต่อมา Mr. Hern ได้ขึ้นกล่าวปราศรัย โดยระบุว่า วัตถุประสงค์หลักของการเดินทางมาเยือนไต้หวันในครั้งนี้ ก็เพื่อต้องการรับฟังความคิดเห็นของไต้หวัน และร่วมอภิปรายแนวทางความร่วมมือเพื่อส่งเสริมให้ทั้งสองประเทศ ก้าวไปสู่อนาคตที่ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังได้ชี้แจงถึงความช่วยเหลือที่สามารถเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน
Mr. Hern ระบุว่า ความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ แน่นแฟ้นจนไม่สามารถถูกแบ่งแยกออกจากกันได้ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต่างยึดมั่นในค่านิยมด้านเสรีภาพและโอกาสเช่นเดียวกัน Mr. Hern ให้การยอมรับต่อสำนักงานตัวแทนรัฐบาลไต้หวันประจำสหรัฐฯ ว่าเป็นกรณีตัวอย่างที่ดีของการมุ่งมั่นปฏิบัติภารกิจและผลักดันกิจการทางวัฒนธรรมของไต้หวัน โดยเฉพาะนางเซียวเหม่ยฉิน ผู้แทนรัฐบาลไต้หวันประจำสหรัฐฯ ที่ได้รับการให้สำคัญจากเหล่าสมาชิกสภาสหรัฐฯ โดยถ้วนหน้า
Mr. Hern กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้นับเป็นโอกาสสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์แบบทวิภาคี ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ในฐานะที่ Mr. Hern เป็นประธานคณะกรรมาธิการวิจัยพรรคริพับลิกัน (RSC) ซึ่งเป็นองค์กรของพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดในรัฐสภาสหรัฐฯ จึงได้มีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองขึ้น เนื่องในวาระครบรอบ 50 ปีแห่งการก่อตั้ง
Mr. Hern เผยว่า แผนงบประมาณส่วนกลางที่ RSC ยื่นเสนอล่าสุดเมื่อระยะที่ผ่านมา มีเนื้อหาที่ระบุถึงการเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วน ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ซึ่งครอบคลุมในด้านต่างๆ อาทิ การค้าแบบทวิภาคี การสนับสนุนทางการทหารที่มีต่อไต้หวัน และการเจรจาเพื่อลงนามความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับไต้หวัน
Mr. Hern เผยว่า นอกจากข้าพเจ้าจะเป็นประธาน RSC แล้ว ยังดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกคณะกรรมการกำกับดูแลงบประมาณรายรับประจำปีแห่งสภาผู้แทนราษฎรอีกด้วย ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลกิจการที่เกี่ยวข้องกับภาษีและการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งมีอิทธิพลสำคัญต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเป็นอย่างมาก Mr. Hern กล่าวว่า ในสหรัฐฯ แผนแม่บทในการสนับสนุนไต้หวันในแง่มุมทางการเมือง เป็นฉันทามติระหว่าง 2 พรรคการเมืองสำคัญที่เกิดขึ้นยากมาก ซึ่งทุกสาขาอาชีพในสหรัฐฯ ต่างตระหนักถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ
Mr. Hern ขอขอบคุณสำหรับการต้อนรับอันแสนอบอุ่นของปธน.ไช่ฯ พร้อมทั้งคาดหวังที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ในเชิงลึก ภายใต้หลักการว่าด้วยการเคารพซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ เพื่อบรรลุเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ของพวกเราให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในอนาคตสืบต่อไป