ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
ปธน.และรองปธน. สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เข้าร่วม “งานเลี้ยงฉลองเพื่อรำลึกถึงวันประกาศเอกราชของสหรัฐฯ”
2023-07-07
New Southbound Policy。ปธน.และรองปธน. สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เข้าร่วม “งานเลี้ยงฉลองเพื่อรำลึกถึงวันประกาศเอกราชของสหรัฐฯ” (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)
ปธน.และรองปธน. สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เข้าร่วม “งานเลี้ยงฉลองเพื่อรำลึกถึงวันประกาศเอกราชของสหรัฐฯ” (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)

ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 6 ก.ค. 66
 
เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และนายไล่ชิงเต๋อ รองประธานาธิบดี สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เข้าร่วม “งานเลี้ยงฉลองเพื่อรำลึกถึงวันประกาศเอกราชของสหรัฐฯ” โดยปธน.ไช่ฯ ได้แสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลสหรัฐฯ สำหรับความสนับสนุนและมิตรภาพที่มีต่อไต้หวัน นอกจากนี้ ปธน.ไช่ฯ ยังเห็นว่า ทุกช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์ทางการเมืองของไต้หวัน มักจะมีสหรัฐฯ ยื่นมือเข้าช่วยเหลือและคอยสนับสนุนอยู่เสมอ หลายปีที่ผานมา ไต้หวัน - สหรัฐฯ ได้บรรลุภารกิจร่วมกันหลายรายการ ซึ่งบังเกิดผลสัมฤทธิ์ขึ้นมากมาย ปธน.ไช่ฯ จึงคาดหวังที่จะเห็นความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วน ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
 
ปธน.ไช่ฯ ย้ำว่า ไต้หวันมีความเชื่อมั่นต่อการมีบทบาทสำคัญทางสันติภาพในภูมิภาคเป็นอย่างมาก หากสามารถสร้างหลักประกันด้านความมั่นคงให้กับไต้หวันที่มีความเป็นประชาธิปไตย ก็จะทำให้เกิดความมั่นคงในภูมิภาคตามไปด้วย และเนื่องด้วยความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนอันแข็งแกร่ง ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ จึงทำให้ทั้งในภูมิภาคและทั่วโลกมีการพัฒนาที่ดียิ่งขึ้น
 
เนื้อหาการกล่าวปราศรัยเป็นภาษาอังกฤษของปธน.ไช่ฯ มีสาระสำคัญดังนี้ :
ในช่วงแรก ปธน.ไช่ฯ ได้แสดงความขอบคุณสำหรับคำเชิญของ Ms. Sandra Oudkirk ผู้อำนวยการใหญ่สถาบันอเมริกาในไต้หวัน สำนักงานไทเป (AIT/T) และยินดีที่ได้มีโอกาสพบกับ Mr. Kevin Hern สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐโอคลาโฮมา (R-OK ) ประธานคณะกรรมาธิการวิจัยพรรคริพับลิกัน (Republican Study Committee, RSC) แห่งสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกา ในไต้หวัน จึงขอใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อรัฐสภาสหรัฐฯ ที่เสนอญัตติกฎหมายหลายฉบับเพื่อสนับสนุนไต้หวันอย่างกระตือรือร้นเสมอมา
 
ในวันที่ 4 ก.ค. ของเมื่อ 247 ปีที่แล้ว การประชุมของสภาคองเกรสภาคพื้นทวีปครั้งที่ 2ในเมืองฟิลาเดลเฟีย ได้มีมติเห็นชอบต่อ “คำประกาศอิสรภาพแห่งสหรัฐ” (United States Declaration of Independence) ซึ่งนับเป็นจุดกำเนิดของประเทศเกิดใหม่ที่เป็นต้นแบบแห่งเสรีภาพ ความเท่าเทียมและประชาธิปไตยในระดับสากล
 
ในระหว่างทางที่มีอุปสรรคขวากหนามนานับประการ ซึ่งทั้งผู้นำและประชาชนชาวสหรัฐฯ ต่างก็ผนึกกำลังความเชื่อมั่นและความสามัคคีในการพิชิตความท้าทาย ก้าวสู่การเป็นประเทศที่แข็งแกร่งและทรงอิทธิพลที่สุดในโลก อีกทั้งยังเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนที่สำคัญและแข็งแกร่งของไต้หวันอีกด้วย
 
เมล็ดพันธุ์แห่งมิตรภาพระหว่างทั้งสองฝ่าย ได้ก่อกำเนิดขึ้นเมื่อหลายสิบปีก่อน ในช่วงเวลานั้น สหรัฐฯ เป็นแรงหนุนให้ประชาชนชาวไต้หวัน มุ่งแสวงหาประชาธิปไตย นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทุกช่วงเวลาที่สำคัญในประวัติศาสตร์ทางการเมืองของไต้หวัน ก็จะมีสหรัฐฯ ที่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือและให้ความสนับสนุนอยู่เสมอ
 
นอกจากนี้ ปธน.ไช่ฯ ยังได้แสดงความขอบคุณต่อ Ms. Oudkirk ที่ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ได้มุ่งมั่นปฏิบัติภารกิจที่เป็นมิตรไต้หวัน ในฐานะที่เป็นหุ้นส่วนและมิตรสหายคนสำคัญของไต้หวัน โดยปธน.ไช่ฯ คาดหวังที่จะเห็นความสัมพันธ์อันดีนี้ คงอยู่ต่อไปตราบนานเท่านาน
 
แม้ว่าวาระการดำรงตำแหน่งผู้นำไต้หวันของปธน.ไช่ฯ ใกล้จะสิ้นสุดแล้ว แต่ถึงกระนั้น ปธน.ไช่ฯ ก็ยังคาดหวังที่จะเห็นทั้งสองฝ่าย เสริมสร้างความสัมพันธ์อันเหนียวแน่นอย่างเป็นรูปธรรมต่อไปในอนาคต
 
นับตั้งแต่ที่ปธน.ไช่ฯ ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำไต้หวัน เป็นต้นมา ก็ได้ให้การต้อนรับคณะตัวแทนของสหรัฐฯ มากมายนับไม่ถ้วน ซึ่งคณะสมาชิกตัวแทน มีทั้งที่เป็นสมาชิกรัฐสภา ผู้ว่าการรัฐ รวมถึงนักวิชาการ ซึ่งล้วนแล้วแต่ประกาศจุดยืนในการสนับสนุนประชาธิปไตยและประชาชนชาวไต้หวันอย่างหนักแน่น
 
หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้มีการลงนามความตกลงฉบับแรก ภายใต้ “แผนริเริ่มทางการค้าไต้หวัน-สหรัฐฯ แห่งศตวรรษที่ 21” เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ก็ได้ส่งเสริมให้ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ดำเนินไปในทิศทางเชิงลึกอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
 
การลงทุนระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ก็มีการขยายตัวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน การลงทุนในสหรัฐฯ ของบริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) และการลงทุนในไต้หวันของผู้ประกอบการสหรัฐฯ ล้วนแล้วแต่เป็นการสร้างระบบห่วงโซ่อุปทานที่เชื่อถือได้ และเปี่ยมด้วยความมั่นคงของโลก