กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 16 ก.ค. 66
การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน (ASEAN Foreign Ministers' Meeting, AMM) ครั้งที่ 56 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ได้เปิดฉากขึ้น ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ในช่วงระหว่างวันที่ 11 – 14 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยในระหว่างการประชุม Mr. Antony Blinken รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับ Mr. Wang Yi มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมทั้งเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ ระหว่างสหรัฐฯ – กลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งในระหว่างการพบปะหารือและการเข้าร่วมการประชุม รมว. Blinken ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน อย่างหนักแน่น เป็นจำนวนบ่อยครั้ง
รมว. Blinken ยังกล่าวระหว่างงานแถลงข่าวที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยระบุว่า สหรัฐฯ และพันธมิตรในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก ต่างเฝ้าจับตาต่อพฤติกรรมของจีน ที่นับวันจะยิ่งแผ่ขยายอิทธิพลไปสู่ทะเลจีนใต้ ทะเลจีนตะวันออกและช่องแคบไต้หวัน ในทางกลับกัน รัฐบาลสหรัฐฯ มุ่งธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันอย่างต่อเนื่องเสมอมา เนื่องจากปริมาณการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศผ่านช่องแคบไต้หวันในแต่ละวัน ครองสัดส่วนเกินครึ่งของโลก ประกอบกับไต้หวันยังเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ที่สำคัญ ที่ป้อนสินค้าสู่ตลาดโลกในสัดส่วนกว่าร้อยละ 70 ขึ้นไป ด้วยเหตุนี้ สันติภาพในช่องแคบไต้หวันจึงสอดคล้องกับผลประโยชน์สูงสุดของทุกประเทศทั่วโลก รมว. Blinken เน้นย้ำว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงยึดมั่นในจุดยืนว่าด้วยการต่อต้านการเปลี่ยนแปลงสถานภาพเดิมในปัจจุบันของช่องแคบไต้หวัน ที่เกิดจากความเห็นชอบเพียงฝ่ายเดียว
นอกจากนี้ Mr. Hayashi Yoshimasa รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น และ Mr. Park Jin รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ ก็ได้ทยอยเข้าพบปะพูดคุยกับ Mr. Wang Yi ซึ่งรมว.กต.จาก 2 ประเทศข้างต้น ต่างร่วมแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ล่าสุดในช่องแคบไต้หวัน พร้อมทั้งเน้นย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของการธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน โดยความสนใจต่อประเด็นดังกล่าวของรมว.กต.ของทั้งสหรัฐฯ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ แสดงให้เห็นแล้วว่า สันติภาพในช่องแคบไต้หวัน เป็นฉันทามติร่วมกันของกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก ซึ่งกต.ไต้หวันรู้สึกยินดีและขอแสดงชื่นชมจากใจจริง
ไต้หวันตั้งอยู่ในพื้นที่ใจกลางของระยะห่วงโซ่ที่ 1 ในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก ซึ่งมีบทบาทสำคัญในด้านความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก โดยไต้หวันจะเร่งประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับสหรัฐฯ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันในเชิงลึกต่อไป เพื่อปกป้องค่านิยมด้านประชาธิปไตยที่ยึดมั่นร่วมกัน ตลอดจนเพื่อธำรงรักษาสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองในช่องแคบไต้หวันและภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก ให้คงอยู่สืบไป