
กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 1 ส.ค. 66
เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ยูเครนในการบูรณะฟื้นฟูโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา นายหลี่หนานหยาง ผู้แทนรัฐบาลไต้หวันประจำสาธารณรัฐสโลวัก ทำหน้าที่เป็นตัวแทนรัฐบาลไต้หวัน เข้าร่วมลงนามความตกลงทางความร่วมมือว่าด้วยการให้ความช่วยเหลือแก่ยูเครนในด้านการบูรณะฟื้นฟู ร่วมกับ “มูลนิธิ Open Society Foundation” และ “มูลนิธิ Pontis Foundation” หน่วยงานการกุศลของสโลวักโดยมี Ms. Elena Kohutikova ประธานคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีสโลวัก เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน โดยรัฐบาลไต้หวันจะบริจาคเงินจำนวน 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อร่วมทำการบูรณะฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานในยูเครนที่ได้รับความเสียหายจากไฟสงคราม
สำนักงานตัวแทนรัฐบาลไต้หวันประจำสโลวัก ได้จัดตั้งคณะกรรมการบริหารภารกิจตามโครงการ ร่วมกับหน่วยงานการกุศลของสโลวัก ภายใต้การให้ความช่วยเหลือของกระทรวงการต่างประเทศของสโลวักและคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพิจารณาแผนปฏิบัติการฟื้นฟูที่ยื่นเสนอโดยรัฐบาลยูเครน และเลือกแนวทางการปฏิบัติการตามความเร่งด่วน โดยจะมุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟูโครงสร้างทางการแพทย์และการศึกษาในเขตพื้นที่ Chernihiv ที่อยู่ในขอบเขตความดูแลของรัฐบาลสโลวัก
ผู้แทนหลี่ฯ เน้นย้ำขณะปราศรัยว่า ไต้หวัน – สโลวักเป็นหุ้นส่วนที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน โดยผู้แทนหลี่ฯ ยังได้ใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลสโลวัก ที่ยินดีประสานความร่วมมือกับไต้หวันในแผนโครงการให้ความช่วยเหลือแก่ยูเครน ตลอดจนร่วมสกัดกั้นการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการทั่วโลก
Ms. Elena Kohutikova กล่าวว่า โครงการข้างต้นเป็นแผนปฏิบัติการล่วงหน้าที่รัฐบาลสโลสักได้รับการสนับสนุนจากประเทศที่ 3 โดยไต้หวันจะเข้าร่วมคัดเลือกผู้ประกอบการในแผนปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือ พร้อมทั้งจะเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใสและเปิดกว้าง โดยไต้หวันยังเป็นประเทศแรกในปี 2023 ที่ได้ยื่นเสนอแผนประสานความร่วมมือกับรัฐบาลสโลวัก
สโลวักเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ที่ให้การสนับสนุนยูเครนอย่างหนักแน่น เมื่อปีที่แล้ว หลังจากที่เกิดสงครามรัสเซีย - ยูเครน รัฐบาลไต้หวันและกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงมหาดไทยของสโลวัก ก็ได้ร่วมกันบริจาคเงินช่วยเหลือจำนวน 2.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ควบคู่ไปกับการส่งมอบสิ่งของจำเป็น รวมจำนวน 350 ตัน ทั้งนี้ เพื่อร่วมสำแดงจิตวิญญาณว่าด้วยการร่วมทุกข์ร่วมสุข และแสดงให้เห็นถึงการประสานความร่วมมืออย่างสามัคคี ระหว่างกลุ่มประเทศประชาธิปไตย เพื่อบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้ลี้ภัยชาวยูเครนในพื้นที่และขจัดปัญหาการจัดสรรพื้นที่พำนักชั่วคราวให้แก่กลุ่มผู้ลี้ภัยในสโลวัก โดยในอนาคต ไต้หวันจะมุ่งมั่นเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการ ตลอดจนจะจัดส่งผู้ประกอบการไต้หวัน ให้เข้าร่วมภารกิจการให้ความช่วยเหลืออย่างเหมาะสมต่อไป