กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 1 ส.ค. 66
เมื่อวันที่ 18 ก.ค. นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์แก่เหยียนเชี้ยนจวินและ Ms. Nicola Smith ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ The Telegraph ของอังกฤษที่ประจำการอยู่ในไต้หวัน โดยได้มีการเผยแพร่เนื้อหาบทสัมภาษณ์ผ่านหน้าหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ในวันที่ 1 ส.ค. ภายใต้หัวข้อ “เราไม่สามารถไว้วางใจใครได้ โดยเฉพาะจีนที่สวมบทบาทเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน ในขณะที่กำลังข่มขู่ไต้หวันด้วยกำลังทหาร” (China ‘cannot be trusted to broker Russia-Ukraine peace while threatening Taiwan’) ซึ่งได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางในอังกฤษ
รมว.อู๋ฯ กล่าวว่า จีนข่มขู่ไต้หวันและบีบบังคับไต้หวันในเวทีนานาชาติทุกรูปแบบ แต่กลับเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยและส่งเสริมสันติภาพของยูเครน พฤติกรรม 2 มาตรฐานเช่นนี้ไม่สามารถสร้างความไว้วางใจให้ประชาชนชาวไต้หวันได้ ในทางกลับกัน ในทางตรงกันข้าม ภาคประชาชนและรัฐบาลไต้หวันกลับส่งมอบความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม และบริจาคเงินช่วยเหลือให้แก่ประชาชนชาวยูเครนอย่างกระตือรือร้น อีกทั้งยังได้จัดส่งทหารอาสาสมัครเดินทางไปร่วมรบสกัดกั้นกองทัพรัสเซีย และจัดส่งสิ่งของจำเป็นเพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ให้ผู้ที่ต้องการ สิ่งเหล่านี้ถึงจะเรียกว่าการให้สนับสนุนยูเครนอย่างเต็มใจและปราศจากเงื่อนไขใดๆ
รมว.อู๋ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ไต้หวันได้รับข้อคิดมากมายจากสงครามรัสเซีย - ยูเครน เมื่อเผชิญหน้ากับการข่มขู่ด้วยกำลังทหารมาเป็นระยะเวลานาน ไต้หวันตระหนักดีว่า การปกป้องประเทศชาติของตนเอง เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบโดยตรงของพวกเรา โดยเราจะไม่เรียกร้องให้ประเทศอื่นจัดส่งทหารมาช่วยคุ้มครองไต้หวัน ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไต้หวันมุ่งมั่นยกระดับแสนยานุภาพการป้องกันประเทศด้วยการพึ่งพาตนเองอย่างกระตือรือร้น นอกจากจะขอซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จากรัฐบาลสหรัฐฯ แล้ว พวกเรายังเร่งวิจัยและพัฒนาอาวุธที่ผลิตในประเทศด้วยตนเอง ควบคู่ไปกับการมุ่งผลักดันการปฏิรูปทางกลาโหม ขยายเวลารับใช้ชาติของทหารเกณฑ์และเสริมสร้างกลไกการฝึกอบรมของเหล่าบุคลากร ซึ่งล้วนแล้วแต่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการปกป้องอำนาจอธิปไตย และธำรงรักษาวิถีชีวิตรูปแบบประชาธิปไตย ให้คงอยู่สืบไป
รมว.อู๋ฯ ใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลอังกฤษ สหรัฐฯ เยอรมนี ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์และแคนาดา รวมไปถึงกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันในการร่วมเป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวัน ซึ่งนอกจากจะแสดงความห่วงใยต่อสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน และยึดมั่นในจุดยืนต่อต้านการเปลี่ยนแปลงสถานภาพเดินของช่องแคบไต้หวันแล้ว ยังได้จัดส่งเรือรบแล่นผ่านพื้นที่ช่องแคบไต้หวัน เพื่อปฏิบัติภารกิจ “รักษาเสรีภาพในการเดินเรือ” รมว.อู๋ฯ เน้นย้ำว่า พฤติกรรมเหล่านี้มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความเข้าใจให้แก่รัฐบาลจีนว่า หากก่อสงครามกับไต้หวัน กลุ่มประเทศประชาธิปไตยจะไม่นิ่งดูดาย โดยจุดยืนอันหนักแน่นของกลุ่มประเทศประชาธิปไตย ได้สร้างเกราะป้องกันที่แกร่งกล้าให้จีนไม่กล้ากระทำการอุกอาจต่อไต้หวัน จึงจะเห็นได้ว่าความขัดแย้งทางการทหารใช่ว่าจะมิสามารถหลีกเลี่ยงได้
รมว.อู๋ฯ แจ้งเตือนต่อประชาคมโลกว่า ความทะเยอทะยานของจีนมิได้จำกัดเพียงเฉพาะในไต้หวันเท่านั้น แต่ยังเห็นร่องรอยการแผ่ขยายไปสู่ทะเลจีนตะวันออก ทะเลจีนใต้ มหาสมุทรแปซิฟิก หรือแม้กระทั่งมหาสมุทรอินเดียและภูมิภาคแอฟริกา ความท้าทายและมาตรการที่มีความเสี่ยงที่กองทัพจีนกระทำการอย่างอุกอาจในช่องแคบไต้หวัน หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นอันเนื่องมาจากความประมาท จะนำมาซึ่งผลกระทบที่รุนแรงต่อประเทศที่อยู่รายรอบและประชาคมโลก รมว.อู๋ฯ ประกาศว่า มีเพียงกลุ่มประชาธิปไตยร่วมประสานสามัคคีเท่านั้น จึงจะสามารถสกัดกั้นความทะเยอทะยานในการแผ่ขยายอำนาจเผด็จการของจีนได้