ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
รมว.กต.ไต้หวันเข้าร่วมกิจกรรมฉลองครบรอบ 5 ปีของ “มูลนิธิเพื่อการแลกเปลี่ยนไต้หวัน-เอเชีย (TAEF)” และการประชุมด้านผลสัมฤทธิ์ตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา
2023-08-10
New Southbound Policy。รมว.กต.ไต้หวันเข้าร่วมกิจกรรมฉลองครบรอบ 5 ปีของ “มูลนิธิเพื่อการแลกเปลี่ยนไต้หวัน-เอเชีย (TAEF)” และการประชุมด้านผลสัมฤทธิ์ตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)
รมว.กต.ไต้หวันเข้าร่วมกิจกรรมฉลองครบรอบ 5 ปีของ “มูลนิธิเพื่อการแลกเปลี่ยนไต้หวัน-เอเชีย (TAEF)” และการประชุมด้านผลสัมฤทธิ์ตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 9 ส.ค. 66
 
เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานฉลองครบรอบ 5 ปีแห่งการจัดตั้ง “มูลนิธิเพื่อการแลกเปลี่ยนไต้หวัน-เอเชีย (Taiwan-Asia Exchange Foundation, TAEF)” และการประชุมด้านผลสัมฤทธิ์ภายใต้นโยบายมุ่งใต้ใหม่ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา
 
โดยในช่วงเริ่มต้น รมว.อู๋ฯ ได้แสดงความยินดีต่อการครบรอบ 5 ปีของมูลนิธิ TAEF พร้อมย้ำว่า นับตั้งแต่ปี 2016 ที่ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เป็นต้นมา ก็ได้มุ่งมั่นผลักดัน “นโยบายมุ่งใต้ใหม่” อย่างกระตือรือร้น ผ่านการร่วมแบ่งปันประสบการณ์ของไต้หวันในด้านต่างๆ เพื่อเป็นประโยชน์แก่กลุ่มประเทศเป้าหมายตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน เทคโนโลยีการเกษตร การแพทย์และสาธารณสุข วัฒนธรรมการศึกษา พลังงานสีเขียวและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมโยงในเชิงลึก ระหว่างไต้หวันและกลุ่มประเทศเป้าหมายตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่
 
รมว.อู๋ฯ ชี้ว่า “นโยบายมุ่งใต้ใหม่” ได้ผนึกกำลังระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและกลุ่มผู้ประกอบการ ทำให้มีประสิทธิภาพในการสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนที่หลากหลาย มูลนิธิ TAEF ได้ถูกจัดตั้งขึ้นด้วยความคาดหวังของปธน.ไช่ฯ ในปี 2018 โดยหลังจากที่เปิดดำเนินการเป็นต้นมา ก็มีการจัด “การประชุม Yushan Forum” ขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี และประสบความสำเร็จในการยกระดับให้ “นโยบายมุ่งใต้ใหม่” ของไต้หวันได้รับความสนใจจากทั่วโลก ตลอดจนส่งเสริมให้นานาประเทศและไต้หวัน ร่วมพิจารณาเกี่ยวกับพันธกิจในภูมิภาคเอเชีย นอกจากนี้ มูลนิธิ TAEF ยังมีบทบาทเป็นคลังสมองของกลุ่มประเทศเป้าหมายตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่ อันจะเห็นได้จาก การจัดการประชุมเสวนาด้านนโยบายกับคลังสมองของอินเดียและอินโดนีเซียขึ้นเป็นวาระประจำ ควบคู่กับการส่งเสริมให้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อสร้างความเชื่อมโยงระหว่างคลังสมองของไต้หวันและกลุ่มประเทศเป้าหมายฯ ทั้งนี้ เพื่อให้ภาพลักษณ์ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพของไต้หวัน เป็นที่สนใจของทุกแวดวงทั่วโลก พร้อมนี้ รมว.อู๋ฯ ยังหวังที่จะเห็นมูลนิธิ TAEF ทำการเชื่อมโยงกับมิตรสหายที่มีแนวคิดคล้ายคลึง และประสานความร่วมมือในการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ตลอดระยะเวลา 5 ปีหลังจากนี้ต่อไป
 
นายเซียวซินหวง ประธานมูลนิธิ TAEF กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่ 7 ของการประกาศใช้ “นโยบายมุ่งใต้ใหม่” ในไต้หวัน และเป็นจังหวะเวลาที่สำคัญในการพิจารณาถึงผลสัมฤทธิ์ของนโยบายที่มูลนิธิ TAEF ได้เร่งมุ่งมั่นผลักดันตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา โดยทางมูลนิธิฯ ได้อาศัยแผนปฏิบัติการ 5 โครงการหลักในการขยายการแลกเปลี่ยนกับกลุ่มประเทศเป้าหมายและกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน จนบังเกิดผลสัมฤทธิ์ที่ยอดเยี่ยมขึ้นมากมาย อาทิ “โครงการเสริมสร้างความเชื่อมโยงของสังคมพลเรือน” “โครงการแลกเปลี่ยนและประสานความร่วมมือระหว่างคลังสมอง” “โครงการผู้นำเยาวชนในภูมิภาคเอเชีย” “โครงการแลกเปลี่ยนทางศิลปวัฒนธรรม” และ “โครงการความทรหดแห่งภูมิภาคเอเชีย” ซึ่งประธานเซียวฯ ชี้ว่า “การประชุม Yushan Forum ครั้งที่ 7 ที่เตรียมเปิดฉากขึ้น ณ กรุงไทเป ในช่วงระหว่างวันที่ 11 – 12 ต.ค 2023 จะมีการนำเสนอให้เห็นถึงผลสัมฤทธิ์ของการเจรจาระหว่างประเทศของไต้หวัน ภายใต้ “นโยบายมุ่งใต้ใหม่” รวมไปถึงการผลักดันนโยบายข้างต้น ที่เกิดจากการประสานความร่วมมือระหว่างมูลนิธิ TAEF และประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ไต้หวันและกลุ่มประเทศเป้าหมายฯ มุ่งพัฒนาให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันสืบไป