คณะกรรมการกิจการชนพื้นเมือง วันที่ 16 ส.ค. 66
การประชุมกลุ่มชาติพันธุ์ออสโตรนีเซียน ประจำปี 2023 มีกำหนดการจัดขึ้น ณ กรุงมาจูโร เมืองหลวงของสาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยมี Mr. Icyang Parod ประธานคณะกรรมการกิจการชนพื้นเมืองของไต้หวัน เดินทางไปทำหน้าที่เป็นประธาน ณ สถานที่จัดการประชุม นับเป็นครั้งที่ 4 ที่ Mr. Icyang เดินทางเยือนหมู่เกาะมาร์แชลล์ โดยในการประชุมครั้งนี้ ยังได้เชิญ H.E. Davia Kabua ประธานาธิบดีสาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ Ms. Hilda C. Heine อดีตประธานาธิบดี รวมถึงหัวหน้าเผ่าและคณะผู้แทนจาก 15 ประเทศรวมกว่า 110 คน มาร่วมการประชุมด้วย
Mr. Icyang กล่าวว่า การท่องเที่ยวและวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ออสโตรนีเซียน มีความเกี่ยวพันอันแนบแน่นระหว่างกัน ซึ่งทุกกลุ่มชนต่างต่างมีภูมิปัญญาและแนวทางการอยู่อาศัยร่วมกันในเขตพื้นที่ภูเขา ทะเลและที่ราบ แนวคิดการอยู่ร่วมอาศัยกับสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ ถือเป็นแนวทางสำคัญในการเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ในเดือนเมษายนของปี 2024 จะมีการจัดการประชุมสุดยอดการท่องเที่ยว สำหรับชนพื้นเมืองโลก ครั้งที่ 3 ในไต้หวัน Mr. Icyang จึงได้ใช้โอกาสนี้เชิญชวนให้ทุกท่านในที่ประชุม เดินทางมาเยือนไต้หวันในช่วงเวลาดังกล่าว
ปธน. Kabua กล่าวปราศรัยในพิธีเปิดการประชุมครั้งนี้ โดยชี้ว่า หมู่เกาะมาร์แชลล์เป็นประเทศสมาชิกรุ่นบุกเบิกของการประชุมกลุ่มชาติพันธุ์ออสโตรนีเซียน โดยปธน. Kabua แสดงทรรศนะว่า กลุ่มชาติพันธุ์ออสโตรนีเซียนมุ่งมั่นในการพัฒนาเปลี่ยนแปลงโลกอย่างกระตือรือร้น ผ่านการแบ่งปันภูมิปัญญาแบบดั้งเดิม วัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์
การประชุมในครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของกลุ่มชาติพันธุ์ออสโตรนีเซียน โดยเหล่าคณะผู้แทนต่างเห็นพ้องกันว่า ควรยึดเอกลักษณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์ออสโตรนีเซียน ในการแบ่งปันมุมมองในพื้นที่ ควบคู่ไปกับการร่วมแบ่งปันผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ที่ได้มาจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมทั้งผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้เกิดความยั่งยืน นอกจากนี้ สมาชิกในที่ประชุมยังแสดงความเห็นว่า การพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศของกลุ่มชาติพันธุ์ออสโตรนีเซียน ล้วนมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน แต่ทุกประเทศล้วนต้องเผชิญกับประเด็นปัญหาที่มีร่วมกัน อาทิ การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น การสูญหายของภาษาและวัฒนธรรม เป็นต้น โดยคาดหวังว่า ในอนาคต เราจะมุ่งพัฒนาการท่องเที่ยว ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ไว้ซึ่งวัฒนธรรมดั้งเดิม ให้คงอยู่สืบไป
