กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 22 ส.ค. 66
เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้จัดงานเลี้ยงอาหารค่ำต้อนรับคณะตัวแทนเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากสภาแอตแลนติก (The Atlantic Council) ซึ่งเป็นคลังสมองของกรุงวอชิงตัน ดีซี จำนวน 7 คน ที่นำโดย Ms. Dalia Grybauskaitė อดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐลิทัวเนีย โดยสมาชิกคณะประกอบด้วย Mr. Mark T. Esper อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ Ms. Choi Yoon-hee อดีตประธานคณะเสนาธิการแห่งเกาหลีใต้ Mr. Matthew Kroenig ผู้อำนวยการระดับสูงของสภาแอตแลนติกและศูนย์ความมั่นคงเชิงยุทธศาสตร์ (Scowcroft Center for Strategy and Security) รวมไปถึงคณะนักวิชาการของสภาแอตแลนติก และ Mr. Petr Tůma เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศของสาธารณรัฐเช็ก
รมว.อู๋ฯ กล่าวให้การต้อนรับคณะตัวแทน โดยวัตถุประสงค์ของการเยือนไต้หวันในครั้งนี้ เพื่อแสดงความห่วงใยและให้การสนับสนุนต่อไต้หวันด้วยวิธีการที่เป็นรูปธรรม ของพันธมิตรด้านประชาธิปไตยในสภาแอตแลนติกและภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ตึงเครียดในช่องแคบไต้หวัน ที่เกิดจากพฤติกรรมการคุมคามอย่างต่อเนื่องจากจีน ไต้หวันยังคงยืนหยัดเป็นประเทศแนวหน้า ในการสกัดกั้นการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการอย่างแน่วแน่ไม่สั่นคลอน รมว.อู๋ฯ จึงขอบคุณกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน ในการแสดงจุดยืนด้านความสำคัญของสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน ที่มีต่อความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองระดับโลก บนเวทีการแลกเปลี่ยนแบบทวิภาคีหรือพหุภาคี โดยพันธมิตรด้านประชาธิปไตยควรที่จะประสานความร่วมมืออย่างสามัคคี เพื่อร่วมสกัดกั้นการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการ ตลอดจนธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค ให้คงอยู่สืบไป
อดีตปธน. Grybauskaitė กล่าวว่า กลุ่มประเทศในยุโรปและไต้หวัน ต่างต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายอย่างหนักหน่วง ที่เกิดจากการคุกคามของลัทธิอำนาจนิยม ซึ่งพวกเรายินดีที่จะปกป้องค่านิยมด้านประชาธิปไตยที่หวงแหนร่วมกันกับไต้หวัน เมื่อใดที่ประชาชนในไต้หวันยอมรับว่าตัวเองเป็นคนไต้หวัน พวกเราก็พร้อมที่จะเป็นประชาชนชาวไต้หวันเช่นกัน (we’ll be Taiwanese if you are Taiwanese) เมื่อใดที่ประชาชนชาวไต้หวันแสดงความมุ่งมั่นตั้งใจในการปกป้องประเทศ ด้วยการพึ่งพาตนเองต่อประชาคมโลก พันธมิตรด้านประชาธิปไตยก็จะอยู่เคียงข้างไต้หวันด้วยเช่นกัน
การพบปะกันในครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างร่วมอภิปรายกันในประเด็นด้านสถานการณ์ในภูมิภาค และความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - ยุโรป ซึ่งการแลกเปลี่ยนเป็นไปอย่างคึกคักและเป็นกันเอง คณะสมาชิกตัวแทนกล่าวว่า การเดินทางเยือนไต้หวันในครั้งนี้ มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความเข้าใจต่อประเด็นความท้าทายที่ไต้หวันต้องเผชิญภายใต้สถานการณ์โลกในปัจจุบัน รวมไปจนถึงความสำคัญและวิสัยทัศน์ในการประสานความร่วมมือกับกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน โดยหวังว่าในอนาคต ไต้หวันและหุ้นส่วนของกลุ่มประเทศแอตแลนติก จะร่วมสร้างความร่วมมือเชิงลึกในด้านต่างๆ ต่อไป
