กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 24 ส.ค. 66
ต่อกรณีที่สมาชิกสภารัฐสภาอเมริกากลาง (Central American Parliament, PARLACEN) ที่ฝักใฝ่ให้การสนับสนุนจีน และเพิกเฉยต่อคุณประโยชน์ที่ไต้หวันได้อุทิศตนเป็นเวลายาวนาน ในด้านการพัฒนาทางเศรษฐกิจและการเมืองของอเมริกากลาง (Central American Integration System, SICA) ในภูมิภาคอเมริกากลาง” ด้วยการฟังคำยุยงจากจีน และมีมติเห็นชอบต่อ “ญัตติว่าด้วยการกีดกันไต้หวันและยอมรับจีน” ซึ่งเป็นประเด็นที่มีความขัดแย้งสูงมากเมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา ตลอดหลายวันนี้ เหล่ามิตรสหายนานาชาติต่างทยอยแสดงความห่วงใยและประณามพฤติกรรมของ PARLACEN อย่างรุนแรง กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ขอแสดงความขอบคุณด้วยใจจริง
การผ่านญัตติข้างต้นในที่ประชุม PARLACEN นอกจากจะจะเป็นการบ่อนทำลายอำนาจอธิปไตยของไต้หวันและสิทธิการเข้าร่วมอย่างถูกต้องตามกฎหมายของไต้หวันแล้ว ยังเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของประชาธิปไตยในกลุ่มประเทศอเมริกากลาง อย่างไม่สามารถมีสิ่งใดมาทดแทนได้ ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจและความขุ่นเคืองให้แก่กลุ่มประเทศพันธมิตรและมิตรประเทศของไต้หวัน โดยเหล่ามิตรสหายจากทุกแวดวงทางการเมือง จำนวนกว่า 200 คนใน 32 ประเทศ ต่างร่วมประณาม PARLACEN อย่างเปิดเผย ผ่านการลงนามในหนังสือชี้แจงและโพสต์ข้อความลงบนสื่อโซเชียล รวมทั้งเป็นกระบอกเสียงให้การสนับสนุนไต้หวัน โดยสมาชิกที่ให้การสนับสนุนไต้หวัน ประกอบด้วย เหล่าสมาชิกสภาใน PARLACEN ที่เป็นพันธมิตรไต้หวัน ซึ่งแสดงจุดยืนต่อต้านญัตติฉบับนี้ในที่ประชุม รวมถึงรัฐบาล ประธานรัฐสภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและสมาชิกรัฐสภาของกลุ่มประเทศพันธมิตรของไต้หวัน อย่างกัวเตมาลา เบลิซ เซนต์คิดส์และเนวิส เซนต์ลูเซีย เฮติและปารากวัย สมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ จำนวน 16 คน สมาชิกสภาจากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป จำนวน 25 คน สมาชิกสภาที่เป็นมิตรต่อไต้หวันในกลุ่มประเทศอเมริกาใต้ อีกจำนวน 132 คน รวมไปจนถึง Mr. Michael Gahler ประธานสมาคมฟอร์โมซาในภูมิภาคยุโรป และ“กลุ่มพันธมิตรจีนของสมาชิกรัฐสภาข้ามชาติแห่งภูมิภาคยุโรป” (Inter-Parliamentary Alliance on China, IPAC) กต.ไต้หวันขอแสดงความขอบคุณต่อพลังเสียงสนับสนุนมิตรสหายนานาชาติ ด้วยความจริงใจ
จีนได้ลิดรอนสิทธิในการเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศของไต้หวัน ด้วยวิธีการอันป่าเถื่อน ด้วยการบีบพื้นที่ในเวทีนานาชาติของไต้หวัน ถือเป็นการจุดชนวนที่สร้างแรงต่อต้านขึ้นในประชาคมโลก ซึ่งนอกจากจะไม่ได้รับการยอมรับจากโลกประชาธิปไตยแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมความมุ่งมั่นตั้งใจของไต้หวันในการเข้ามีส่วนร่วมในประชาคมโลก ควบคู่ไปกับการขยายพื้นที่บนเวทีนานาชาติต่อไป
