กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 7 ก.ย. 66
เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา Mr. Fumio Kishida นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้เข้าร่วมการประชุมผู้นำญี่ปุ่น - อาเซียน ที่เปิดฉากขึ้นในอินโดนีเซีย โดยนรม. Kishida ได้แสดงจุดยืนว่าด้วยความสำคัญของสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) รู้สึกยินดีและขอแสดงความขอบคุณต่อการที่นรม. Kishida ประกาศจุดยืนให้การสนับสนุนสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันอย่างเปิดเผยอีกครั้ง หลังจากที่นรม. Kishida ได้เคยประกาศในการประชุม Camp David ระหว่างสหรัฐฯ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมา
ในระหว่างการประชุมครั้งนี้ นรม. Kishida ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ล่าสุดในพื้นที่ทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า “จะไม่ยินยอมให้พื้นที่ใดๆ ในโลกนี้ เกิดการเปลี่ยนแปลงสถานภาพเดิมในปัจจุบันด้วยกำลังอาวุธ” โดยหลังเสร็จสิ้นการประชุม นรม. Kishida ยังได้ประกาศแถลงการณ์เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและกลุ่มประเทศอาเซียน ให้ก้าวขึ้นสู่ “ความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์แบบเบ็ดเสร็จ”
หลายปีมานี้ จีนได้เพิ่มความถี่ในการเข้าคุกคามและข่มขู่ไต้หวันด้วยกำลังทหาร ซึ่งก่อให้เกิดเป็นความท้าทายที่รุนแรงในช่องแคบไต้หวันและส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในภูมิภาค ตลอดจนได้สร้างความวิตกกังวลให้แก่ประชาคมโลก ไต้หวัน – ญี่ปุ่นมีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่ใกล้เคียงกัน และต่างยึดมั่นในค่านิยมด้านประชาธิปไตยและเสรีภาพร่วมกัน หลังจากนี้ ไต้หวันจะมุ่งมั่นประสานความร่วมมือกับญี่ปุ่นและกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันอย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อร่วมธำรงรักษาสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก ให้คงอยู่สืบไป
นอกจากนี้ กต.ไต้หวันยังรู้สึกขอบคุณและให้การยอมรับต่อกรณีที่ Ms. Kamala Harris รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศจุดยืนว่าด้วยความสำคัญในการธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพของช่องแคบไต้หวัน ในระหว่างการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก (East Asia Summit) ครั้งที่ 18 ที่เปิดฉากขึ้นในอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งในวันเดียวกันนี้ Mr. Anthony Albanese นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ก็ได้ร่วมพูดคุยหารือกับนายหลี่เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ในระหว่างการประชุมรอบนอกของการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก พร้อมทั้งแสดงความห่วงใยต่อประเด็นความมั่นคงในภูมิภาค โดยเฉพาะในช่องแคบไต้หวันและทะเลจีนใต้ ในระหว่างการสนทนาด้วย
ไต้หวันตั้งอยู่ในศูนย์กลางพื้นที่ระยะห่วงโซ่ที่ 1 ทางตะวันตกของแถบมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก โดยไต้หวันจะมุ่งมั่นในการสร้างความร่วมมือในเชิงลึกกับสหรัฐฯ ออสเตรเลียและกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมสกัดกั้นการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการในภูมิภาค เพื่อปกป้องค่านิยมด้านประชาธิปไตย ควบคู่ไปกับการธำรงรักษาสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในช่องแคบไต้หวันและพื้นที่ภูมิภาค ให้คงอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป