กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 19 ก.ย. 66
 
การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลกทั้ง 7 ประเทศ หรือกลุ่ม G7 ในปีนี้ มีกำหนดการจัดขึ้นที่นครนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยหลังเสร็จสิ้นการประชุม Ms. Yoko Kamikawa รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศเจ้าภาพ ในฐานะตัวแทนของกลุ่มประเทศสมาชิก G7 ได้ประกาศแถลงการณ์ เพื่อแสดงจุดยืนเกี่ยวกับสันติภาพและเสถียรภาพของช่องแคบไต้หวันว่า ถือเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถขาดได้ในความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองของประชาคมโลก พร้อมทั้งกระตุ้นให้ทั้งสองฝ่ายแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี ตลอดจนให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมอย่างมีความหมายในองค์การระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) รู้สึกยินดีและขอบคุณสำหรับสาระสำคัญของแถลงการณ์ฉบับข้างต้น
 
แถลงการณ์ดังกล่าวได้ย้ำถึงจุดยืนว่าด้วยการต่อต้านการเปลี่ยนแปลงสถานภาพเดิมในช่องแคบไต้หวันด้วยกำลังอาวุธและการข่มขู่อย่างฉาบฉวย พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลจีนยึดมั่นในวัตถุประสงค์และหลักการตามที่ระบุไว้ใน “กฎบัตรสหประชาชาติ” นอกจากนี้ ยังมีเนื้อความที่ระบุถึงการแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ล่าสุดในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ พร้อมมุ่งมั่นต่อต้านการข่มขู่ด้วยกำลังทหาร และพฤติกรรมที่สร้างความท้าทายในพื้นที่ทะเลจีนใต้อันเกิดจากจีน
 
แถลงการณ์ร่วมของรมว.ต่างประเทศในกลุ่มประเทศ G7 ที่ประกาศเมื่อเดือนเมษายน และแถลงการณ์ร่วมของผู้นำกลุ่มประเทศ G7 ที่ประกาศเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2023 ต่างระบุถึงความสำคัญของสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน กต.ไต้หวันขอขอบคุณกลุ่มประเทศสมาชิก G7 สำหรับการสนบสนุนไต้หวันอย่างหนักแน่น ไต้หวันในฐานะประเทศที่เปี่ยมด้วยความรับผิดชอบที่สำคัญในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก จะประสานความร่วมมือกับประเทศสมาชิก G7 และกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน เพื่อรักษาไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของกฎกติกาสากล ควบคู่ไปกับการธำรงรักษาเสรีภาพและการเปิดกว้างในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก รวมไปถึงสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองในระดับโลก ให้คงอยู่สืบไป