กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 25 ก.ย. 66
เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์แก่ Ms. Caroline Roux พิธีกรรายการ C dans l’air ของสถานีโทรทัศน์ France 5 ของฝรั่งเศส โดยเนื้อหาบทสัมภาษณ์ได้เผยแพร่ผ่านสกู๊ปพิเศษของรายการ ภายใต้หัวข้อ “สงครามแห่งวันพรุ่งนี้....ฝรั่งเศสเตรียมพร้อมหรือยัง?” (Demain la guerre…La France est-elle prête?) เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากรมว.อู๋ฯ แล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่ภาครัฐของยุโรปและนักวิชาการหลายคนที่เข้ารับการสัมภาษณ์ โดยมีเนื้อหาที่ครอบคลุมสถานการณ์ล่าสุดในช่องแคบไต้หวัน และได้รับความสนใจในวงกว้างจากทุกแวดวงในฝรั่งเศส
หลายประเทศทั่วโลกต่างคาดการณ์ว่า จีนอาจรุกรานไต้หวันในปี 2027 ต่อประเด็นดังกล่าว รมว.อู๋ฯ ชี้ว่า จีนใช้สงครามลูกผสม ผ่านการเข้ารุกรานไต้หวันด้วยกำลังทหารและการสร้างแรงกดดันทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวันทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ไต้หวันยังคงพยายามหลีกเลี่ยงการเกิดสงครามอย่างเต็มที่ จากการเฝ้าระวังของไต้หวันพบว่า ขณะนี้จีนยังไม่ได้เตรียมพร้อมเพื่อเข้ารุกรานไต้หวันอย่างเต็มรูปแบบ แต่ก็มิใช่ว่าสงครามในช่องแคบไต้หวันจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ รมว.อู๋ฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ มุ่งยกระดับศักยภาพทางการป้องกันประเทศด้วยการพึ่งพาตนเองตนเองให้แก่ไต้หวันอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการอนุมัติการจำหน่ายอาวุธและจัดการฝึกอบรมให้แก่กองทัพของไต้หวัน นอกจากนี้ ไต้หวันยังประสานความร่วมมือกับกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรียและฟิลิปปินส์ เป็นต้น เพื่อเตรียมพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ที่แย่ที่สุด
ต่อกรณีความเป็นไปได้ที่จีนอาจเข้ารุกรานไต้หวัน รมว.อู๋ฯ กล่าวว่า กระบวนการปกครองของจีนเป็นการรวมอำนาจไว้ที่ศูนย์กลาง ฟังคำสั่งจากบนลงล่าง โดยอำนาจส่วนมากถูกรวบรวมไว้ในมือของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ด้วยเหตุนี้ ประเทศภายนอกจึงไม่สามารถคาดการณ์อะไรได้ แต่หากวันใดที่จีนก่อสงครามกับไต้หวัน จะต้องประสบกับความสูญเสียมูลค่ามหาศาล
รมวอู๋ฯ ย้ำว่า ผู้นำหลายประเทศได้ทยอยเรียกร้องให้จีนหยุดยั้งพฤติกรรมคุกคามช่องแคบไต้หวัน เพื่อต้องการเปลี่ยนแปลงสถานภาพเดิมในปัจจุบัน เนื่องจากสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันเป็นปัจจัยสำคัญที่ไม่สามารถขาดได้ในการธำรงรักษาความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองระดับโลก ประกอบกับปริมาณการขนส่งสินค้าผ่านช่องแคบไต้หวัน ครองสัดส่วนกว่าร้อยละ 50 ของโลก และแผ่นชิปในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่ผลิตในไต้หวัน ครองส่วนแบ่งตลาดโลกกว่าร้อยละ 60 รวมถึงสัดส่วนของอุปทานของแผ่นชิประดับสูงที่ผลิตในไต้หวัน ก็มีมากกว่าร้อยละ 90 หากช่องแคบไต้หวันตกอยู่ในภาวะสงคราม ก็จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบเศรษฐกิจของโลกตามไปด้วย
เมื่อกล่าวถึงสงครามรัสเซีย – ยูเครน รมว.อู๋ฯ แสดงจุดยืนว่า ไต้หวันเล็งเห็นถึงพฤติกรรมความรุนแรงของรัสเซีย และความสูญเสียครั้งใหญ่ที่เกิดจากไฟสงคราม พร้อมทั้งแสดงทรรศนะว่า ไม่ว่าจะใช้ข้ออ้างใด ก็ไม่มีประเทศใดในโลกที่สามารถจะโจมตีประเทศใดด้วยกำลังทหารได้ ด้วยเหตุนี้ ไต้หวันจึงขอประณามพฤติกรรมการรุกรานยูเครนของรัสเซีย พร้อมทั้งให้การสนับสนุนมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย ควบคู่ไปกับการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ชาวยูเครน ความกล้าหาญในการต่อต้านการรุกรานจากรัสเซียของชาวยูเครน ประกอบกับความกล้าหาญและความมุ่งมั่นตั้งใจในการปกป้องเสรีภาพและอำนาจอธิปไตย รวมไปถึงการใช้ยุทธวิธีในการต่อสู้กับความไม่สมดุลทางทหาร เป็นสิ่งที่ไต้หวันควรเรียนรู้จากชาวยูเครนเป็นอย่างมาก
ทีมถ่ายทำรายการยังได้เดินทางไปยังเกาะหม่าจู่ พร้อมทั้งรายงานสถานการณ์เรือประมงจีนเข้ารุกล้ำพื้นที่น่านน้ำของไต้หวัน เรือดูดทรายก็ปรากฎตัวเป็นจำนวนบ่อยครั้ง เพื่อแย่งชิงทรัพยากรตามพื้นที่เลียบริมชายฝั่งและในน่านน้ำทะเลไต้หวัน ส่งผลให้สำนักงานป้องกันชายฝั่งทะเลไต้หวันจำเป็นต้องจัดส่งเรือลาดตระเวณ เข้าทำการขับไล่ จึงใช้โอกาสนี้ในการพูดถึงพฤติกรรมการแย่งชิงทรัพยากรในพื้นที่น่านน้ำสาธารณะและการทำลายสายเคเบิลใต้ท้องทะเลของประเทศเผด็จการไปพร้อมกันด้วย