ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 25 ก.ย. 66
 
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับ Lord Faulkner ทูตพิเศษทางการค้าของรัฐบาลอังกฤษที่ทำหน้าที่ประสานงานกับไต้หวัน และรองประธานสภาสูงแห่งรัฐสภาอังกฤษ โดยปธน.ไช่ฯ ได้แสดงความขอบคุณต่อ Lord Faulkner ที่มุ่งมั่นสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนระหว่างกันกับไต้หวัน พร้อมให้ความสนใจต่อความมั่นคง เสถียรภาพและการเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศของไต้หวันเสมอมา ปธน.ไช่ฯ กล่าวอีกว่า ไต้หวัน – อังกฤษ ต่างยึดมั่นในค่านิยมด้านประชาธิปไตยและเสรีภาพเช่นเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายได้จัดตั้ง“การสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนทางการค้าในเชิงลึก” (Enhanced Trade Partnership, ETP) อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกรกฎาคมปีนี้  โดยได้เปิดการเจรจาใน 3 มิติหลัก ประกอบด้วย การลงทุน พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์รวมถึงการค้าดิจิทัล เป็นต้น โดยทั้งสองฝ่ายมีการพัฒนาทางความร่วมมืออย่างกว้างขวาง ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การค้าและพลังงาน โดยหวังว่าจะร่วมอุทิศคุณประโยชน์ด้านความยุติธรรมทางการค้า (Fair trade) และความยืดหยุ่นของระบบห่วงโซ่อุปทานของโลก
 
ปธน.ไช่ฯ แถลงว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปีมานี้ ไต้หวัน – อังกฤษ ได้สร้างความร่วมมือในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะทั้งสองฝ่ายได้มุ่งพัฒนาพลังงานหมุนเวียนอย่างกระตือรือร้น อาทิ พลังงานลม โดยในปัจจุบัน ฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งเลียบริมทะเลของไต้หวัน ได้มีการจัดตั้งกังหันลมแล้ว 250 จุด โดยพวกเราคาดหวังที่จะมีการแลกเปลี่ยนให้มากยิ่งขึ้นในประเด็นด้านพลังงานกับอังกฤษ
 
ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า หลังเสร็จสิ้น “การประชุมเจรจาว่าด้วยพลังงาน ระหว่างไต้หวัน  – อังกฤษ” เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พวกเรายินดีเป็นอย่างมากที่ได้ให้การต้อนรับการเดินทางเยือนไต้หวันของ Lord Faulkner ในครั้งนี้ พร้อมทั้งนำคณะตัวแทนผู้ประกอบการพลังงานหมุนเวียน 10 รายเข้าร่วม “การประชุมโต๊ะกลมว่าด้วยการแลกเปลี่ยนด้านพลังงานหมุนเวียน ระหว่างไต้หวัน – อังกฤษ” และ “การประชุมว่าด้วยแนวโน้มเทคโนโลยีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์”
 
ปธน.ไช่ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน  เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนระหว่างไต้หวัน – อังกฤษ ภายใต้ความมุ่งมั่นผลักดันอย่างเต็มที่ของ Lord Faulkner ทั้งสองฝ่ายได้เปิดดำเนินการ “กลไกการสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนทางการค้าในเชิงลึก” เมื่อเดือนกรกฎาคมในปีนี้  เพื่อเปิดศักราชใหม่แห่งความร่วมมือใน 3 มิติหลัก ได้แก่ การลงทุน พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ รวมถึงการค้าดิจิทัล เป็นต้น
 
ปธน.ไช่ฯ ยังได้ร่วมอวยพรแก่อังกฤษที่ได้เข้าเป็นสมาชิก  “ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก” (Comprehensive and Progressive Agreement of Trans-Pacific Partnership, CPTPP) อย่างราบรื่น หลังจากที่ได้มีการร่วมลงนามไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานี้ โดยปธน.ไช่ฯ คาดหวังที่จะเห็นรัฐบาลอังกฤษให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมกรอบ CPTPP ในอนาคต เพื่อร่วมสร้างคุณประโยชน์ด้านความยุติธรรมทางการค้า (Fair trade) และความยืดหยุ่นของระบบห่วงโซ่อุปทานของโลก
 
ปธน.ไช่ฯ ยังได้ใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลอังกฤษ ที่ได้ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วม “การประชุมสมัชชาอนามัยโลก” (WHA) อย่างเปิดเผย ติดต่อกันมาเป็นเวลา 3 ปี และยังได้ประกาศ “รายงานการประเมินนโยบายแบบบูรณาการ ฉบับปรับปรุง” ไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยในเดือนสิงหาคมของปีนี้ รัฐสภาอังกฤษยังได้ประกาศรายงานการพิจารณานโยบายใน “หลักการฝักฝ่ายอินโด - แปซฟิก” โดยรายงาน 2 ฉบับข้างต้นนี้ ได้เน้นย้ำความสำคัญของสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน ปธน.ไช่ฯ เชื่อว่า รายงานข้างต้นจะมีนัยยะสำคัญต่อสันติภาพและเสถียรภาพระดับโลกในอนาคตต่อไป
 
Lord Faulkner กล่าวปราศรัยว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยเดินทางเยือนไต้หวันหลายครั้ง ในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกรัฐสภา ก็มุ่งให้ความสนใจต่อความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – อังกฤษ ตลอดมา ในปีหน้านี้ ก็เป็นวาระครบรอบ 25 ปีของการดำรงตำแหน่งในสภาขุนนางของอังกฤษ
 
Lord Faulkner กล่าวอีกว่า แม้สถานการณ์โรคโควิด – 19 ทั่วโลก จะส่งผลให้การเดินทางและการแลกเปลี่ยนระหว่างเจ้าหน้าที่ จะได้รับอุปสรรค แต่ความร่วมมือทางการค้าแบบทวิภาคีระหว่างไต้หวัน – อังกฤษ กลับไม่ได้รับผลกระทบที่ทำให้เกิดการหยุดชะงักได้เลย
 
Lord Faulkner กล่าวด้วยว่า แม้ในช่วงที่สถานการณ์โรคโควิด – 19 รุนแรงที่สุด การค้าแบบทวิภาคีระหว่างไต้หวัน – อังกฤษ ก็ยังคงขยายตัวเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่แล้ว มูลค่าการค้าระหว่างทั้งสองฝ่ายมีมูลค่าสูงถึง 8,600 ล้านปอนด์ สะท้อนให้เห็นว่า ไต้หวันเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่สำคัญของอังกฤษและทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง นับวันทั่วโลกยิ่งตระหนักถึงความสำคัญของไต้หวันในระบบห่วงโซ่อุปทานโลก โดยเฉพาะในด้านเซมิคอนดักเตอร์และเทคโนโลยี ซึ่งพวกเรายินดีที่จะขยายขอบเขตความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าในเชิงลึก โดย “การสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนทางการค้าในเชิงลึก” จะมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความร่วมมือแบบทวิภาคีให้ดำเนินไปในเชิงลึกมากยิ่งขึ้น
 
Lord Faulkner เห็นว่า เพื่อสร้างความร่วมมือเชิงลึกในด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน ทั้งสองฝ่ายยังได้เปิดบริบททางความร่วมมือระหว่างกันหลายประการ ทั้งการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ การเปลี่ยนผ่านของพลังงานและเทคโนโลยี
 
นอกจากนี้ Lord Faulkner ยังแถลงอีกว่า ในวาระการดำรงตำแหน่งของปธน.ไช่ฯ ไต้หวันได้รับเสียงสนับสนุนที่เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้นในรัฐสภาอังกฤษ สำนักงานตัวแทนรัฐบาลไต้หวันในอังกฤษ ก็มุ่งมั่นในการประสานความร่วมมือระหว่าง 2 สภาในรัฐสภาอังกฤษ Lord Faulkner กล่าวว่า นับวันยิ่งมีผู้ตระหนักถึงความสำคัญของไต้หวันในประชาคมโลกมากขึ้นทุกที Lord Faulkner ได้แสดงความยินดีกับความสำเร็จของไต้หวันในครั้งนี้ โดยเฉพาะความมุ่งมั่นในการสร้างคุณประโยชน์ด้านการปกป้องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน  พร้อมคาดหวังที่จะร่วมเปิดการเจรจาในอนาคตโดยเร็วต่อไป