ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
รมว.กต.ไต้หวัน แสดงปาฐกถาใน “การประชุม Forum 2000” ที่จัดขึ้นในสาธารณรัฐเช็ก เรียกร้องให้กลุ่มประเทศประชาธิปไตยร่วมสร้างความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ เพื่อรับมือกับแรงกดดันทางเศรษฐกิจจากประเทศอำนาจนิยม
2023-10-18
New Southbound Policy。รมว.กต.ไต้หวัน แสดงปาฐกถาใน “การประชุม Forum 2000” ที่จัดขึ้นในสาธารณรัฐเช็ก เรียกร้องให้กลุ่มประเทศประชาธิปไตยร่วมสร้างความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ เพื่อรับมือกับแรงกดดันทางเศรษฐกิจจากประเทศอำนาจนิยม (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)
รมว.กต.ไต้หวัน แสดงปาฐกถาใน “การประชุม Forum 2000” ที่จัดขึ้นในสาธารณรัฐเช็ก เรียกร้องให้กลุ่มประเทศประชาธิปไตยร่วมสร้างความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ เพื่อรับมือกับแรงกดดันทางเศรษฐกิจจากประเทศอำนาจนิยม (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 17 ต.ค. 66
 
เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ตอบรับคำเชิญเข้าร่วม “การประชุม Forum 2000” พร้อมแสดงปาฐกถาในหัวข้อ “ความยืดหยุ่นในระบบเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศประชาธิปไตย” ผ่านการบันทึกวิดีทัศน์ล่วงหน้า โดยรมว.อู๋ฯ ได้กล่าวถึง ภัยคุกคามที่เกิดขึ้นต่อประเทศประชาธิปไตยและเสรีภาพ อันเกิดจากการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการ พร้อมทั้งเรียกร้องให้กลุ่มประเทศประชาธิปไตย ประสานสามัคคีในการยกระดับความยืดหยุ่นของระบบเศรษฐกิจ เพื่อรับมือกับแรงกดดันทางเศรษฐกิจที่เกิดจากประเทศลัทธิอำนาจนิยม
 
รมว.อู๋ฯ กล่าวว่า ไต้หวันมุ่งประสานความร่วมมือกับเช็กเกียและประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันอย่างหนักแน่นเสมอมา เพื่อธำรงรักษาเสรีภาพ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชนและธรรมาภิบาล จนได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับ 1 ในด้านเสรีภาพและประชาธิปไตยในภูมิภาคเอเชีย ถือเป็นต้นแบบให้แก่กลุ่มประเทศประชาธิปไตยในภูมิภาค
 
รมว.อู๋ฯ กล่าวเสริมว่า หลายปีมานี้ เนื่องด้วยสถานการณ์โรคโควิด – 19 และการรุกรานยูเครนด้วยการโจมตีของรัสเซีย ส่งผลให้เกิดวิกฤตขาดแคลนพลังงานและภาวะเงินเฟ้อ แสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ภายใต้สถานการณ์ที่ทั่วโลกต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่และวิกฤตรุนแรงนานับประการ ประเทศลัทธิอำนาจนิยมได้อาศัยเศรษฐกิจเป็นอาวุธ ฉวยจังหวะวิกฤตในการสร้างความโกลาหล เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเมือง ผ่านการแผ่ขยายอิทธิพลและอำนาจทางเศรษฐกิจ
 
รมว.อู๋ฯ ชี้ว่า ไต้หวันตั้งอยู่ในแนวหน้าของการรับมือกับการแผ่ขยายอำนาจเผด็จการ ที่ต้องเผชิญกับแรงกดดันต่างๆ ซึ่งเกิดจากการข่มขู่จากจีนทั้งด้วยกำลังทหาร การทูตและเศรษฐกิจ ซึ่งภัยคุกคามจากจีนนี้ มิได้เจาะจงเพียงเฉพาะไต้หวันเท่านั้น แต่ยังแผ่ขยายไปสู่มิตรสหายที่ให้การสนับสนุนไต้หวัน รวมไปถึงพันธมิตรด้านประชาธิปไตยที่ร่วมต่อต้านพฤติกรรมของจีนอย่างเปิดเผย
 
รมว.อู๋ฯ เน้นย้ำว่า กลุ่มประเทศประชาธิปไตยสามารถร่วมรับมือกับแรงกดดันทางเศรษฐกิจจากประเทศลัทธิอำนาจนิยม ด้วยการกระจายความเสี่ยงและการประสานความร่วมมือในรูปแบบเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน โดยรมว.อู๋ฯ ได้หยิบยกกรณีตัวอย่างของนโยบายมุ่งใต้ใหม่ แผนปฏิบัติการเชื่อมโยงไต้หวัน - ยุโรป ที่มุ่งผลักดันโดยรัฐบาลไต้หวัน รวมไปถึงการที่ญี่ปุ่นยินดีรับซื้อสัปปะรดและมะม่วงสายพันธุ์ของไต้หวัน ที่ถูกระงับการนำเข้าจากจีน ไต้หวันให้ความช่วยเหลือลิทัวเนียในการขยายตลาดส่งออก กต.ไต้หวันนำเข้าไวน์แดงของออสเตรเลียมาจัดเลี้ยงรับรองแขกอาคันตุกะ ตั้งแต่วันแรกที่ไวน์แดงของออสเตรเลียถูกระงับการนำเข้าจากจีน ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนแสดงให้เห็นถึงพลังการเอื้อประโยชน์ในการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ของกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน รวมไปถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
 
รมว.อู๋ฯ แถลงว่า กต.ไต้หวันยินดีที่จะเห็นกลุ่มประเทศยุโรปประกาศใช้มาตรการเพื่อต่อต้านแรงกดดันทางเศรษฐกิจที่เกิดจากประเทศลัทธิอำนาจนิยม โดยในที่นี้ รมว.อู๋ฯ ได้หยิบยกกรณีที่ Ms. Ursula von der Leyen ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป แสดงจุดยืนว่าความสัมพันธ์ระหว่างยุโรป – จีน สมควรที่จะ “ลดทอนความเสี่ยงให้เป็นศูนย์” แถลงการณ์การประชุมผู้นำของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลกทั้ง 7 ประเทศ (G7) ก็ระบุไว้ว่า หุ้นส่วนที่เชื่อมั่นและไว้วางใจซึ่งกันและกัน ควรร่วมเสริมสร้างความยืดหยุ่นของระบบห่วงโซ่อุปทาน ประกอบกับเมื่อช่วงที่ผ่านมา สหภาพยุโรป (EU) ได้มีมติผ่านกฎหมายว่าด้วยกลไกการต่อต้านแรงกดดัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรทางการค้าของจีนที่ไม่เป็นธรรมและไม่เป็นไปตามกฎระเบียบที่บัญญัติไว้
 
รมว.อู๋ฯ ระบุว่า ไต้หวันในฐานะประเทศผู้ผลิตแผ่นชิปเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลกที่สำคัญ ตั้งอยู่ในตำแหน่งศูนย์กลางการคมนาคมทางเรือและอากาศในระดับสากล เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างผกผัน นอกจากจะมิได้ฉกฉวยโอกาสในการทำกำไรมูลค่ามหาศาลแล้ว ยังได้เพิ่มปริมาณการผลิตแผ่นชิป เพื่อสร้างเสถียรภาพให้เกิดขึ้นในระบบห่วงโซ่อุปทานด้วย
 
ในช่วงท้าย รมว.อู๋ฯ เน้นย้ำว่า ช่องแคบไต้หวันมีความเกี่ยวพันกับความสงบและเสถียรภาพของเศรษฐกิจโลก พฤติกรรมใดๆ ที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงสถานภาพเดิมในปัจจุบันของช่องแคบไต้หวัน ล้วนแล้วแต่จะทำให้เกิดผลกระทบที่รุนแรงต่อระบบเศรษฐกิจโลก เหล่าผู้นำของนานาประเทศต่างเน้นย้ำว่า สันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน มีความเกี่ยวพันโดยตรงกับความมั่นคงและเจริญรุ่งเรืองระดับนานาชาติ สิ่งเหล่านี้ล้วนพิสูจน์ให้เห็นถึงการเฝ้าจับตาต่อสถานการณ์ล่าสุดในช่องแคบไต้หวันอย่างใกล้ชิดของนานาประเทศทั่วโลก
 
รมว.อู๋ฯ ยังได้แสดงความขอบคุณต่อ H.E. Petr Pavel ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเช็กและพันธมิตรด้านประชาธิปไตย ที่ร่วมประณามการข่มขู่ด้วยกำลังทหารของจีน ในระหว่างการอภิปรายทั่วไปในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 78 พร้อมทั้งเรียกร้องให้อาศัยสันติวิธีในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ตลอดจนให้การสนับสนุนต่อไต้หวันอย่างเปิดเผย โดยรมว.อู๋ฯ ย้ำว่า ไต้หวันจะยึดมั่นในจุดยืนที่ไม่ยั่วยุ ไม่บุ่มบ่าม และมีใจเปิดกว้างรอการเจรจาระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวันที่เป็นไปอย่างสันติ ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างศักยภาพทางกลาโหม เพื่อเตรียมการให้พร้อมสำหรับการปกป้องประชาธิปไตยและอำนาจอธิปไตยของประเทศชาติต่อไป