ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
ปธน.ไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ให้การต้อนรับผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์และคณะ
2023-10-23
New Southbound Policy。ปธน.ไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ให้การต้อนรับผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์และคณะ (ภาพจากทำเนียบปธน.)
ปธน.ไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ให้การต้อนรับผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์และคณะ (ภาพจากทำเนียบปธน.)

ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 20 ต.ค. 66
 
เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมาประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับ Mr. Phil Murphy ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์ และคณะตัวแทน พร้อมกล่าวว่า พวกเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ เลือกจัดตั้งสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าประจำภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิกในไต้หวัน เชื่อว่า ความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างทั้งสองฝ่ายจะมีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น โดยปธน.ไช่ฯ หวังที่จะเห็นไต้หวัน – รัฐนิวเจอร์ซีย์ มุ่งสร้างความร่วมมือเชิงลึกอย่างต่อเนื่องในด้านต่างๆ ทั้งเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เทคโนโลยีชีวการแพทย์ รวมถึงพลังงานสีเขียว เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานระดับโลกที่เปี่ยมด้วยเสถียรภาพและความมั่นคง ตลอดจนเป็นการส่งเสริมให้ความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนแบบทวิภาคี เป็นไปอย่างแนบแน่นยิ่งขึ้น
 
ปธน.ไช่ฯ กล่าวด้วยว่า รัฐนิวเจอร์ซีย์เป็นนิคมอุตสาหกรรมที่สำคัญของสหรัฐฯ ในด้านเทคโนโลยีชีวภาพและเทคโนโลยีสารสนเทศ อีกทั้งยังเป็นช่องทางในการขยายตลาดพื้นที่ตะวันออกของสหรัฐฯ ด้วยเหตุนี้ ผู้ประกอบการไต้หวันหลายคนจึงเลือกที่จะเข้าลงทุนและวางรากฐานทางธุรกิจในรัฐนิวเจอร์ซีย์
 
ปธน.ไช่ฯ กล่าวอีกว่า “เศรษฐกิจนวัตกรรม” และ “เศรษฐกิจโครงสร้างพื้นฐานทางสาธารณูปโภค” ที่ Mr. Murphy มุ่งผลักดัน นับตั้งแต่ที่เข้ารับตำแหน่งเป็นต้นมา มีความสอดคล้องกับทิศทางของ “โครงสร้างนวัตกรรมอุตสาหกรรม 5+2” และ “ยุทธศาสตร์ 6 อุตสาหกรรมหลัก” โดยปธน.ไช่ฯ คาดหวังที่จะเห็นไต้หวัน – รัฐนิวเจอร์ซีย์ สร้างความร่วมมือเชิงลึกอย่างต่อเนื่องในด้านต่างๆ ทั้งเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เทคโนโลยีชีวการแพทย์ รวมถึงพลังงานสีเขียว เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานระดับโลกที่เปี่ยมด้วยเสถียรภาพและความมั่นคง
 
ปธน.ไช่ฯ ยังใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อ Mr. Murph ที่ได้เชิญนางสาวเซียวเหม่ยฉิน ผู้แทนรัฐบาลสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ประจำสหรัฐฯ เข้าร่วมการประชุมประจำปีของสมาคมผู้ว่าการรัฐแห่งชาติของสหรัฐฯ (the U.S.National Governors Association - NGA) ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคมของปีนี้ เพื่อเสริมสร้างโอกาสทางความร่วมมือและการแลกเปลี่ยน ระหว่างไต้หวันและรัฐต่างๆ พร้อมนี้ ปธน.ไช่ฯ ยังได้แสดงความขอบคุณต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ รวมทั้งสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของรัฐนิวเจอร์ซีย์ ที่ทยอยลงมติผ่านญัตติที่เป็นมิตรต่อไต้หวัน ควบคู่ไปกับการสนับสนุนให้ไต้หวันเข้าร่วมในองค์การระหว่างประเทศ ตลอดจนให้ความช่วยเหลือไต้หวันและกลุ่มประเทศประชาธิปไตยทั่วโลก พร้อมทั้งสร้างความร่วมมือในเชิงลึกอย่างยั่งยืน
 
Mr. Murphy กล่าวปราศรัยว่า ขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการประสานความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างไต้หวัน – รัฐนิวเจอร์ซีย์ Mr. Murphy เชื่อว่า หากทั้งสองฝ่ายร่วมมุ่งมั่นผลักดันภารกิจอย่างกระตือรือร้น จะสามารถนำมาซึ่งโอกาสความร่วมมือที่เพิ่มมากขึ้น โดยความสัมพันธ์อันดีระหว่างไต้หวัน – รัฐนิวเจอร์ซีย์ เป็นไปในเชิงลึกเสมอมา อันจะเห็นได้จากการที่ทั้งสองฝ่ายผูกสัมพันธ์เป็นเมืองพี่น้องร่วมกันมาเป็นระยะเวลากว่า 35 ปีแล้ว โดยที่ประชุมสภารัฐนิวเจอร์ซีย์ ก็ได้ทำการปรับปรุงข้อตกลงทางความสัมพันธ์ที่มีต่อไต้หวันอย่างต่อเนื่อง
 
Mr. Murphy ชี้ว่า ความเชื่อมโยงทางสังคมและเศรษฐกิจระหว่างรัฐนิวเจอร์ซีย์ – ไต้หวัน เป็นไปอย่างแนบแน่น โดยกลุ่มชาวไต้หวันที่พำนักอยู่ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ มีความหนาแน่นเป็นอันดับ 4 ของสหรัฐฯ โดยสัดส่วนของนักเรียนแลกเปลี่ยนในสถาบันระดับอุดมศึกษาในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ก็ครองสัดส่วนเป็นจำนวนมากเช่นกัน นอกจากนี้ มูลค่าการค้าแบบทวิภาคีที่เอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันของทั้งสองฝ่ายในแต่ละปี ก็มีมูลค่ามากกว่า 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้วย
 
Mr. Murphy เห็นว่า ไต้หวัน – รัฐนิวเจอร์ซีย์ มีหลายส่วนที่คล้ายคลึงกัน แม้ต่างก็มีพื้นที่ไม่มากนัก แต่กลับมีศักยภาพอันโดดเด่นอย่างเห็นได้ชัด และต่างให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจนวัตกรรมและบุคลากร ตลอดจนเป็นพื้นที่ที่มีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่ดีเยี่ยม เนื่องด้วยปัจจัยเหล่านี้ ทำให้ Mr. Murphy เชื่อว่า ทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพที่จะพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันที่ไร้ขีดจำกัด และสามารถสร้างอนาคตที่ดีให้แก่กันสืบไป
 
Mr. Murphy ชี้อีกว่า พวกเราจะมุ่งมั่นธำรงรักษาภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก ที่เปี่ยมด้วยเสรีภาพและการเปิดกว้าง พร้อมคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สำนักงานเศรษฐกิจและการค้าของรัฐนิวเจอร์ซีย์ในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิกประจำไทเป จะไม่เป็นเพียงแค่การมาปักธงในไต้หวันเท่านั้น หากแต่ยังเป็นรากฐานเชิงยุทธศาสตร์ในการขยายตลาดสู่ภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิกต่อไป