สภาบริหาร วันที่ 12 ธ.ค. 66
เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา นายเจิ้งเหวินช่าน รองนายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เข้าร่วม “งานแถลงข่าวการแสดงพลุดอกไม้ไฟส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2024 ของอาคารไทเป 101” ซึ่งรอง นรม.เจิ้งฯ กล่าวว่า การแสดงพลุดอกไม้ไฟส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2024 ของอาคารไทเป 101 ได้กลายเป็นความทรงจำที่สำคัญในช่วงส่งท้ายปีของประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยธีมการแสดงพลุดอกไม้ไฟ 2024 คือ “โลกแห่งสีสัน” (COLORFUL WORLD) นับเป็นครั้งแรกที่ได้ใช้พลุดอกไม้ไฟหลากสีนำเข้าจากญี่ปุ่น เชื่อว่าจะมีความยิ่งใหญ่อลังการสมการรอคอย รองนรม.เจิ้งฯ ยังย้ำว่า ในอนาคต รัฐบาลจะมุ่งยกระดับคุณภาพการท่องเที่ยวภายในไต้หวันอย่างต่อเนื่อง และจะประสานความร่วมมือกับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว เพื่อนำเสนอโปรแกรมการท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวทำความรู้จักกับไต้หวันในเชิงลึกเพิ่มมากขึ้น
รองนรม.เจิ้งฯ กล่าวว่า นับตั้งแต่ปลายปี 2003 ที่ได้มีการจัดการแสดงพลุดอกไม้ไฟบนอาคารไทเป 101 เป็นต้นมา ก็ได้กลายมาเป็นภาพความทรงจำที่สำคัญในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของเหล่าสาธารณชน และเป็นภาพบรรยากาศที่สื่อมวลชนจากนานาประเทศทั่วโลก ไม่สามารถพลาดในการเดินทางมารับชมได้ ซึ่งโดยทุกปี หลังเสร็จสิ้นการแสดงพลุดอกไม้ไฟในเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ก็จะต่อด้วยการแสดงพลุดอกไม้บนอาคารไทเป 101 เพื่อนำเสนอให้เห็นถึงเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของไต้หวัน
รองนรม.เจิ้งฯ กล่าวอีกว่า ธีมของการแสดงพลุดอกไม้ประจำปีนี้คือ “โลกแห่งสีสัน” (COLORFUL WORLD) ซึ่งนอกจากจะจุดพลุดอกไม้ไฟที่เปี่ยมคุณภาพของไต้หวันแล้ว ยังเป็นปีแรกที่มีการใช้พลุดอกไม้ไฟหลากสีที่นำเข้าจากญี่ปุ่น สะท้อนให้เห็นถึงมิตรภาพอันใกล้ชิดระหว่างไต้หวัน - ญี่ปุ่น นอกจากนี้ ในละแวกดังกล่าวยังมีเวทีฉลองส่งท้ายคืนข้ามปีที่หน้าศาลาว่าการกรุงไทเป รวมไปถึงกิจกรรมเฉลิมฉลองในย่านการค้าซิ่นอี้ เชื่อว่า การแสดงพลุดอกไม้ไฟในคืนข้ามปีครั้งนี้ จะมีความยิ่งใหญ่อลังการสมการรอคอย
รองนรม.เจิ้งฯ ยังย้ำว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเยือนไต้หวันในปีนี้ คาดว่าจะทะลุ 6 ล้านคนครั้งได้ล่วงหน้าในช่วงกลางเดือนธ.ค. นี้ โดยในอนาคต รัฐบาลจะยกระดับคุณภาพการท่องเที่ยวภายในไต้หวันอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งประสานความร่วมมือกับกลุ่มผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว เพื่อนำเสนอโปรแกรมการท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสรู้จักกับไต้หวันในเชิงลึกมากยิ่งขึ้นต่อไป
